ปลื้มเศรษฐกิจชายแดนคึกคัก รับเดือนรอมฎอน

ทำเนียบ 25 มี.ค.- นายกฯ ยินดีเศรษฐกิจชายแดนคึกคักรับเดือนรอมฎอน กว่า 10 ล้านบาท กำชับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ดูแลอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย ป้องกันการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับภาวะเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะบริเวณตลาดชายแดนวังประจัน จังหวัดสตูล ที่คึกคักเป็นพิเศษ พี่น้องมุสลิมทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียเข้ามาจับจ่ายซื้อของเพื่อเตรียมเข้าสู่เดือนรอมฎอน โดยตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 10 ล้านบาท พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ดูแลอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตรวจสอบไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนไม่เป็นธรรมให้แก่พี่น้องประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดือนรอมฎอน เป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์และเป็นห้วงเวลาสำคัญทางศาสนาอิสลาม ซึ่งในปีนี้ สำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศให้วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1444 ตรงกับวันที่ 23 มีนาคม 2566 ชาวมุสลิมจึงได้ออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของสินค้าที่จำเป็นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับต้อนรับเดือนรอมฎอน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณตลาดชายแดนวังประจัน จังหวัดสตูล ซึ่งติดกับด่านวังเกลียน ประเทศมาเลเซีย มีชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึกคัก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ แหล่งจำหน่ายสินค้าในจังหวัดอื่น ๆ ภาคใต้ ก็คึกคักไม่แพ้กัน อาทิ ตลาดรอมฎอน ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารที่โด่งดังและใหญ่ที่สุดในจังหวัดปัตตานี ตลาดนัดบันนังซิแนและตลาดสดการรถไฟยะลา จังหวัดยะลา โดยคาดการณ์ว่า บรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าจะยังคงคึกคักไปจนถึงช่วงวันอีฎิ้ลฟิตริ หรือ วันฮารีรายอ ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองหลังสิ้นสุดเดือนแห่งการถือศีลอด


“นายกรัฐมนตรียินดีที่บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของเพื่อเข้าสู่เดือนรอมฎอนในปีนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอความร่วมมือร้านค้าต่าง ๆ อย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิด” นายอนุชากล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง