เพื่อไทยยกทัพปักธงเมืองย่าโม ประกาศนโยบายครบวงจร

นครราชสีมา 4 มี.ค. –“ชลน่าน” นำทีมยกทัพปักธงเมืองย่าโม ประกาศนโยบายครบวงจร ตั้งแต่เกิด เรียน ทำงาน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต “แพทองธาร” ยันพร้อมจัดสรรที่ดินทำกินเท่าเทียม อ้อนเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งจังหวัด


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวขัตติยา สวัสดิผล คณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้แก่ ร.ต.อ. สุปชัย อินทรักษา นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ นายพชร จันทรรวงทอง นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล นายโกศล ปัทมะ น.ส.ปิยะนุช ยินดีสุข นายสุพงษ์พิธ รุ่งเป้า นายพงษ์พันธุ์ พันธุ์ศรีนคร นางนารดา อึ้งสวัสดิ์ นายธีระยุทธ ตันติกุล นายอภิชา เลิศพชรกมล นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ นายรชตะ ด่านกุล นายชวาล พัฒนกำชัย น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษนายธวัชชัย ยืนยง ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นคึกคักมากกว่า 16,000 คน

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวขอบคุณชาวโคราช จากการสำรวจความนิยมทั่วประเทศรายจังหวัดและรายภูมิภาค พรรคเพื่อไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 และคนโคราช 42% เลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อีก 48% จะเลือก ส.ส.เพื่อไทยทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ วันนี้จึงขอปักธงในโคราชทั้ง 16 เขต ถ้าโคราชอยากคิดใหญ่ ทำเป็น ต้องแลนด์สไลด์ยกจังหวัด เพื่อเป็นหมุดหมายพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ว่าพร้อมมอบหมายความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลของพี่น้อง ประชาชน


นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เพื่อไทยคือพรรคการเมืองที่มีนโยบายทำได้จริง พิสูจน์ได้จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ยังมีประชาชนได้ประโยชน์จนทุกวันนี้ พรรคอื่นบอกจะให้บัตรสวัสดิการ แต่พรรคเพื่อไทย จะทำให้บัตรประชาชนของพี่น้องคนไทยทรงคุณค่ายิ่งขึ้น เป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพให้คนไทยทุกคน ไปทุกที่รักษาฟรีด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

“นโยบายถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น พรรคเพื่อไทยคิดนโยบายครบทุกวงจร ตั้งแต่เกิด วัยเรียน วัยทำงาน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เราคิดมาแล้ว ประชาชนมีรายจ่าย เราลดรายจ่าย ประชาชนมีรายได้ เราเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้ทุกคน ยกตัวอย่างนโยบาย 20 ล้านครอบครัว 20 ล้านตำแหน่ง งานที่มีศักยภาพสูง มีรายได้ปีละ 2 แสนล้านบาท 1 ครอบครัว 1 เสาหลักสร้างรายได้ด้วย soft power นี่คือโอกาสใหม่ที่จะมอบให้คนไทย” นายแพทย์ชลน่านกล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า ทุกข์ของพี่น้องชาวโคราชที่หนักหน่วงอยู่ในขณะนี้ คือ ทุกข์ที่เกิดจากหนี้สิน ยาเสพติด เรื่องที่ดินทำกิน รวมถึงอนาคตที่ยังมืดมน ทางออกเดียวคือเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบเท่านั้น ทุกข์มีไว้ให้สู้ และปัญหามีไว้ให้แก้ ทุกข์ใหญ่ที่สุดของพี่น้องคือเป็นหนี้ และคนเข้าใจผิดว่า การแจกเงินบัตรคนจนมากๆ จะช่วยให้หมดทุกข์นั้นไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเราทุกข์เพราะมีหนี้สิน เราต้องแก้ตรงหนี้สิน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้คิดหาวิธีลดรายจ่าย ลดค่าน้ำค่าไฟ ลดค่าแก๊สค่าน้ำมันที่เป็นต้นทุนการดำรงชีวิตให้พี่น้อง ต้องเพิ่มรายได้ มีนายกรัฐมนตรีที่ไปเปิดตลาดใหม่ ไปค้าขายต่างประเทศเอารายได้เข้ามาใช้หนี้ให้ประเทศ แล้วราคาพืชผลการเกษตรพี่น้องจะดีขึ้น รวมทั้งต้องกระจายโอกาสลดความเหลื่อมล้ำ


“ทุกพรรคบอกแต่จะแจกเงิน แต่ไม่มีพรรคไหนบอกวิธีหาเงินเหมือนพรรคเพื่อไทย กู้เงินมาแจกได้หนี้ แต่เพื่อไทยหาวิธีใช้หนี้ ประชาชนจะมีแต่อนาคตที่สดใส เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบอย่าลังเล เลือกทั้งคนทั้งพรรค อย่าแบ่งคะแนนให้ใคร อย่าลืม ถ้ากาเพื่อไทย 2 ใบ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ เสร็จเรา แต่ถ้ากาเพื่อไทยใบเดียว เราเสร็จ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ แน่ๆ” นายสุทิน กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้ได้กลับบ้านมาพบปะพูดคุยกับพี่น้อง สิ่งที่เห็นแตกต่างไปคือ แววตาของพี่น้องมีความหวังมากขึ้น ดีใจที่รัฐบาลชุดนี้กำลังจะไป เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องต้องอยู่อย่างยากลำบากท่ามกลางเศรษฐกิจย่ำแย่ เพราะรัฐบาลทำงานไม่เป็น โครงการต่างๆ ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ริเริ่มสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ริเริ่มแต่โดนรัฐประหารไป จนบัดนี้ โครงการรถไฟฟ้ายังคืบหน้าไม่กี่กิโลเมตร และโครงการอื่นๆ ก็ไม่สำเร็จ พี่น้องเล่าว่าทุกวันมีแต่หนี้สิน รายได้ไม่พอรายจ่าย มีแต่ชายชุดเขียว หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมาแจ้งให้ไปรีบชำระหนี้

วันนี้ พี่น้องแรงงานไทยยังลำบากเหมือนเดิม แรงงานไทยไม่เคยได้รับการปรับค่าแรงที่สมน้ำสมเนื้อ ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 300 บาท/วัน จนถึงวันนี้ผ่านมา 10 ปี ค่าแรงแทบไม่ได้ขึ้น ดังนั้นนโยบายค่าแรงที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าควรจะได้ 600 บาทต่อวันในปี 2570 นั้น เป็นค่าแรงที่สมศักดิ์ศรีที่พี่น้องแรงงานควรได้รับ

“พี่น้องต้องเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ไมใช่เลือกเพื่อไทยเพื่อให้พวกผม แต่เลือกเพื่อไทยให้อนาคตของพี่น้องประชาชนเองทั้งหมด ที่จะหลุดพ้นจากเผด็จการ หลุดพ้นจากนายกฯ พลเอกประยุทธ์ ต้องเอาชนะเสียง ส.ว. 250 เลือกเพื่อไทยเพื่ออนาคตที่กินดีอยู่ดีขึ้นของพี่น้องเอง เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบทั้งคนทั้งพรรคไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น” นายประเสริฐกล่าว

นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงอดีตสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยของ ดร. ทักษิณ ชินวัตร มี ครม. สัญจร นั่งรถไฟมาถึงโคราช ได้เห็นศักยภาพของคนโคราช แต่มีความยากจนเป็นอุปสรรค จึงมีการนำร่องศูนย์เอาชนะความยากจน ที่นี่เป็นที่แรก

รวมถึงในสมัยรัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การนำของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่โคราช แต่ถูกรัฐประหารพรากโอกาส แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับภาคอีสานมาตลอด และเลือกเริ่มต้นพัฒนาโครงการต่างๆ ที่โคราชเป็นที่แรก เพราะโคราชเป็นประตูสู่อีสาน

ที่ผ่านมาเกษตรกรทำงานกันเหนื่อยแสนสาหัส แต่กลับมีรายได้เพียงน้อยนิด เป็นหนี้เป็นสิน พรรคเพื่อไทยจึงอย่างเสนอนโยบายดีๆ 3 อย่าง เริ่มจากปัญหาที่ดินทำกิน โดยมี 4 ขั้นตอนที่จะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ คือ

  1. ใช้เทคโนโลยีมาพิสูจน์สิทธิ์อย่างเป็นธรรม
  2. จัดสรรที่ดินสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำมาหากิน
  3. แก้กฎหมายที่ขัดต่อความเป็นธรรม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของประชาชน
  4. ที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้จะถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินถ้วนหน้า

นอกจากนี้ ในภาคเกษตร มีนโยบายพักหนี้ 3 ปี มีรายได้เพิ่มขึ้น ราคาสินค้าขึ้นยกแผง และขออาสาเป็นตัวแทนนำสินค้าเกษตรไปขายในตลาดโลก ผ่านการใช้เทคโนโลยี ช่วยเบาแรงพี่น้องเกษตรกรให้สบายยิ่งขึ้น รวมทั้งรายได้ในภาคแรงงานที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาทต่อเดือน แต่ปัญหายาเสพติดที่หาง่าย และราคาถูก ในปัจจุบัน หากเพื่อไทยมา ยาเสพติดต้องหมดไปทันที

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หลังจากที่พรรคเพื่อไทยมาเยือนโคราชจนสนามแตก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพบแพทย์จากมือบวม แบบนี้เรียกว่าเป็นลาง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อุ้มท้อง 7 เดือน เดินปราศรัยได้คล่องแคล่ว แต่พลเอกประยุทธ์เดินดีๆ มือบวม ซึ่งตนมองว่า โรคภัยไข้เจ็บแบบนี้มารุมเอาคืน เพราะมือขวานี้ เซ็นตั้ง ส.ว. 250 คน ดังนั้น ขอให้พี่น้องรวมมือกันไปกาพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์เพื่อไล่พลเอกประยุทธ์กลับบ้าน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทำงานเป็นทีม มีนายแพทย์ชลน่านเป็นหัวหน้าพรรค มีนางสาวแพทองธารเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และมีบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญ เก่งคนละด้านผสมผสานกัน เมื่อเร็วๆ นี้ พรรคเพิ่งเซ็นตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และตั้งทีมเศรษฐกิจชุดใหญ่ มาเป็นทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย พร้อมผลักดันการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยมีพลังสร้างสรรค์ในการผลักดันนโยบาย และทำได้ เป็นความจริงทางประวัติศาสตร์ 30 บาทรักษาทุกโรคจะกลับมา ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี กองทุนหมู่บ้านจะกลับมา OTOP จะกลับมา ยาเสพติดออกไป

“บางคนถามว่าเพื่อไทยจะจับมือใครหรือไม่ ไม่ต้องถาม รู้เพียงว่าถ้าเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ ประยุทธ์ ประวิตร และพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน จะจับมือ ส.ว. ตั้งรัฐบาล ดังนั้น จะเอาชนะรัฐบาลนี้ เดินหน้าประเทศไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เข้าคูหากาเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค ยกจังหวัดทั่วประเทศ ถ้าแลนด์สไลด์เราจะตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยแก้ปัญหาให้ประชาชน เรามีผลประโยชน์แห่งอนาคตอยู่ด้วยกัน พรรคเพื่อไทยไม่มีพรรคพี่น้อง ไม่มีพรรคให้แบ่งใจ ถ้าไม่กาเพื่อไทยเท่ากับเปิดโอกาสให้พลเอกประยุทธ์เท่านั้นเอง” นายณัฐวุฒิกล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]