เพื่อไทยยกทัพปักธงเมืองย่าโม ประกาศนโยบายครบวงจร

นครราชสีมา 4 มี.ค. –“ชลน่าน” นำทีมยกทัพปักธงเมืองย่าโม ประกาศนโยบายครบวงจร ตั้งแต่เกิด เรียน ทำงาน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต “แพทองธาร” ยันพร้อมจัดสรรที่ดินทำกินเท่าเทียม อ้อนเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งจังหวัด


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวขัตติยา สวัสดิผล คณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้แก่ ร.ต.อ. สุปชัย อินทรักษา นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ นายพชร จันทรรวงทอง นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล นายโกศล ปัทมะ น.ส.ปิยะนุช ยินดีสุข นายสุพงษ์พิธ รุ่งเป้า นายพงษ์พันธุ์ พันธุ์ศรีนคร นางนารดา อึ้งสวัสดิ์ นายธีระยุทธ ตันติกุล นายอภิชา เลิศพชรกมล นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ นายรชตะ ด่านกุล นายชวาล พัฒนกำชัย น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษนายธวัชชัย ยืนยง ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นคึกคักมากกว่า 16,000 คน

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวขอบคุณชาวโคราช จากการสำรวจความนิยมทั่วประเทศรายจังหวัดและรายภูมิภาค พรรคเพื่อไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 และคนโคราช 42% เลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อีก 48% จะเลือก ส.ส.เพื่อไทยทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ วันนี้จึงขอปักธงในโคราชทั้ง 16 เขต ถ้าโคราชอยากคิดใหญ่ ทำเป็น ต้องแลนด์สไลด์ยกจังหวัด เพื่อเป็นหมุดหมายพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ว่าพร้อมมอบหมายความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลของพี่น้อง ประชาชน


นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เพื่อไทยคือพรรคการเมืองที่มีนโยบายทำได้จริง พิสูจน์ได้จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ยังมีประชาชนได้ประโยชน์จนทุกวันนี้ พรรคอื่นบอกจะให้บัตรสวัสดิการ แต่พรรคเพื่อไทย จะทำให้บัตรประชาชนของพี่น้องคนไทยทรงคุณค่ายิ่งขึ้น เป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพให้คนไทยทุกคน ไปทุกที่รักษาฟรีด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

“นโยบายถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น พรรคเพื่อไทยคิดนโยบายครบทุกวงจร ตั้งแต่เกิด วัยเรียน วัยทำงาน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เราคิดมาแล้ว ประชาชนมีรายจ่าย เราลดรายจ่าย ประชาชนมีรายได้ เราเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้ทุกคน ยกตัวอย่างนโยบาย 20 ล้านครอบครัว 20 ล้านตำแหน่ง งานที่มีศักยภาพสูง มีรายได้ปีละ 2 แสนล้านบาท 1 ครอบครัว 1 เสาหลักสร้างรายได้ด้วย soft power นี่คือโอกาสใหม่ที่จะมอบให้คนไทย” นายแพทย์ชลน่านกล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า ทุกข์ของพี่น้องชาวโคราชที่หนักหน่วงอยู่ในขณะนี้ คือ ทุกข์ที่เกิดจากหนี้สิน ยาเสพติด เรื่องที่ดินทำกิน รวมถึงอนาคตที่ยังมืดมน ทางออกเดียวคือเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบเท่านั้น ทุกข์มีไว้ให้สู้ และปัญหามีไว้ให้แก้ ทุกข์ใหญ่ที่สุดของพี่น้องคือเป็นหนี้ และคนเข้าใจผิดว่า การแจกเงินบัตรคนจนมากๆ จะช่วยให้หมดทุกข์นั้นไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเราทุกข์เพราะมีหนี้สิน เราต้องแก้ตรงหนี้สิน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้คิดหาวิธีลดรายจ่าย ลดค่าน้ำค่าไฟ ลดค่าแก๊สค่าน้ำมันที่เป็นต้นทุนการดำรงชีวิตให้พี่น้อง ต้องเพิ่มรายได้ มีนายกรัฐมนตรีที่ไปเปิดตลาดใหม่ ไปค้าขายต่างประเทศเอารายได้เข้ามาใช้หนี้ให้ประเทศ แล้วราคาพืชผลการเกษตรพี่น้องจะดีขึ้น รวมทั้งต้องกระจายโอกาสลดความเหลื่อมล้ำ


“ทุกพรรคบอกแต่จะแจกเงิน แต่ไม่มีพรรคไหนบอกวิธีหาเงินเหมือนพรรคเพื่อไทย กู้เงินมาแจกได้หนี้ แต่เพื่อไทยหาวิธีใช้หนี้ ประชาชนจะมีแต่อนาคตที่สดใส เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบอย่าลังเล เลือกทั้งคนทั้งพรรค อย่าแบ่งคะแนนให้ใคร อย่าลืม ถ้ากาเพื่อไทย 2 ใบ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ เสร็จเรา แต่ถ้ากาเพื่อไทยใบเดียว เราเสร็จ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ แน่ๆ” นายสุทิน กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้ได้กลับบ้านมาพบปะพูดคุยกับพี่น้อง สิ่งที่เห็นแตกต่างไปคือ แววตาของพี่น้องมีความหวังมากขึ้น ดีใจที่รัฐบาลชุดนี้กำลังจะไป เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องต้องอยู่อย่างยากลำบากท่ามกลางเศรษฐกิจย่ำแย่ เพราะรัฐบาลทำงานไม่เป็น โครงการต่างๆ ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ริเริ่มสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ริเริ่มแต่โดนรัฐประหารไป จนบัดนี้ โครงการรถไฟฟ้ายังคืบหน้าไม่กี่กิโลเมตร และโครงการอื่นๆ ก็ไม่สำเร็จ พี่น้องเล่าว่าทุกวันมีแต่หนี้สิน รายได้ไม่พอรายจ่าย มีแต่ชายชุดเขียว หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมาแจ้งให้ไปรีบชำระหนี้

วันนี้ พี่น้องแรงงานไทยยังลำบากเหมือนเดิม แรงงานไทยไม่เคยได้รับการปรับค่าแรงที่สมน้ำสมเนื้อ ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 300 บาท/วัน จนถึงวันนี้ผ่านมา 10 ปี ค่าแรงแทบไม่ได้ขึ้น ดังนั้นนโยบายค่าแรงที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าควรจะได้ 600 บาทต่อวันในปี 2570 นั้น เป็นค่าแรงที่สมศักดิ์ศรีที่พี่น้องแรงงานควรได้รับ

“พี่น้องต้องเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ไมใช่เลือกเพื่อไทยเพื่อให้พวกผม แต่เลือกเพื่อไทยให้อนาคตของพี่น้องประชาชนเองทั้งหมด ที่จะหลุดพ้นจากเผด็จการ หลุดพ้นจากนายกฯ พลเอกประยุทธ์ ต้องเอาชนะเสียง ส.ว. 250 เลือกเพื่อไทยเพื่ออนาคตที่กินดีอยู่ดีขึ้นของพี่น้องเอง เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบทั้งคนทั้งพรรคไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น” นายประเสริฐกล่าว

นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงอดีตสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยของ ดร. ทักษิณ ชินวัตร มี ครม. สัญจร นั่งรถไฟมาถึงโคราช ได้เห็นศักยภาพของคนโคราช แต่มีความยากจนเป็นอุปสรรค จึงมีการนำร่องศูนย์เอาชนะความยากจน ที่นี่เป็นที่แรก

รวมถึงในสมัยรัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การนำของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่โคราช แต่ถูกรัฐประหารพรากโอกาส แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับภาคอีสานมาตลอด และเลือกเริ่มต้นพัฒนาโครงการต่างๆ ที่โคราชเป็นที่แรก เพราะโคราชเป็นประตูสู่อีสาน

ที่ผ่านมาเกษตรกรทำงานกันเหนื่อยแสนสาหัส แต่กลับมีรายได้เพียงน้อยนิด เป็นหนี้เป็นสิน พรรคเพื่อไทยจึงอย่างเสนอนโยบายดีๆ 3 อย่าง เริ่มจากปัญหาที่ดินทำกิน โดยมี 4 ขั้นตอนที่จะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ คือ

  1. ใช้เทคโนโลยีมาพิสูจน์สิทธิ์อย่างเป็นธรรม
  2. จัดสรรที่ดินสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำมาหากิน
  3. แก้กฎหมายที่ขัดต่อความเป็นธรรม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของประชาชน
  4. ที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้จะถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินถ้วนหน้า

นอกจากนี้ ในภาคเกษตร มีนโยบายพักหนี้ 3 ปี มีรายได้เพิ่มขึ้น ราคาสินค้าขึ้นยกแผง และขออาสาเป็นตัวแทนนำสินค้าเกษตรไปขายในตลาดโลก ผ่านการใช้เทคโนโลยี ช่วยเบาแรงพี่น้องเกษตรกรให้สบายยิ่งขึ้น รวมทั้งรายได้ในภาคแรงงานที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาทต่อเดือน แต่ปัญหายาเสพติดที่หาง่าย และราคาถูก ในปัจจุบัน หากเพื่อไทยมา ยาเสพติดต้องหมดไปทันที

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หลังจากที่พรรคเพื่อไทยมาเยือนโคราชจนสนามแตก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพบแพทย์จากมือบวม แบบนี้เรียกว่าเป็นลาง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อุ้มท้อง 7 เดือน เดินปราศรัยได้คล่องแคล่ว แต่พลเอกประยุทธ์เดินดีๆ มือบวม ซึ่งตนมองว่า โรคภัยไข้เจ็บแบบนี้มารุมเอาคืน เพราะมือขวานี้ เซ็นตั้ง ส.ว. 250 คน ดังนั้น ขอให้พี่น้องรวมมือกันไปกาพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์เพื่อไล่พลเอกประยุทธ์กลับบ้าน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทำงานเป็นทีม มีนายแพทย์ชลน่านเป็นหัวหน้าพรรค มีนางสาวแพทองธารเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และมีบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญ เก่งคนละด้านผสมผสานกัน เมื่อเร็วๆ นี้ พรรคเพิ่งเซ็นตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และตั้งทีมเศรษฐกิจชุดใหญ่ มาเป็นทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย พร้อมผลักดันการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยมีพลังสร้างสรรค์ในการผลักดันนโยบาย และทำได้ เป็นความจริงทางประวัติศาสตร์ 30 บาทรักษาทุกโรคจะกลับมา ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี กองทุนหมู่บ้านจะกลับมา OTOP จะกลับมา ยาเสพติดออกไป

“บางคนถามว่าเพื่อไทยจะจับมือใครหรือไม่ ไม่ต้องถาม รู้เพียงว่าถ้าเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ ประยุทธ์ ประวิตร และพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน จะจับมือ ส.ว. ตั้งรัฐบาล ดังนั้น จะเอาชนะรัฐบาลนี้ เดินหน้าประเทศไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เข้าคูหากาเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค ยกจังหวัดทั่วประเทศ ถ้าแลนด์สไลด์เราจะตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยแก้ปัญหาให้ประชาชน เรามีผลประโยชน์แห่งอนาคตอยู่ด้วยกัน พรรคเพื่อไทยไม่มีพรรคพี่น้อง ไม่มีพรรคให้แบ่งใจ ถ้าไม่กาเพื่อไทยเท่ากับเปิดโอกาสให้พลเอกประยุทธ์เท่านั้นเอง” นายณัฐวุฒิกล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย