คกก.สอบกรณี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ส่งผลสอบวันนี้

รัฐสภา 29 ธ.ค.-“สมศักดิ์” ตอบกระทู้สด ยอมรับ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หละหลวมจนเกิดเหตุ “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ปลอมตัวหลบหนี ระบุ คณะกรรมการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลส่งวันนี้ ยืนยันให้ความเป็นธรรมผู้ต้องหาทุกคน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธาน พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา กรณีการหลบหนีของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน ที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลเป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม กรณีกรมราชทัณฑ์จะตรวจสอบความจริงภายใน 7 วัน แต่ครบกำหนดแล้วยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องการสอบถามว่า ขณะนี้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ในส่วนของตำรวจที่จับผู้เกี่ยวข้องได้แล้ว 4 คน แต่วันควบคุมตัว ทำไมผู้คุมไม่ใส่เครื่องแบบในการควบคุมตัวนักโทษ กลับใส่สูท ไม่ใช่เครื่องแบบปกติ และเหตุใดนายประสิทธิ์ จึงเข้าห้องน้ำที่ชั้น 9 ได้ ทั้งที่เป็นห้องน้ำสำหรับผู้มาติดต่อราชการ ต่างจากนักโทษทั่วไปที่ต้องลงไปเข้าห้องน้ำเฉพาะสำหรับผู้ต้องหาในชั้นใต้ถุนศาล

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า เมื่อนำนายประสิทธิ์ขึ้นมาที่ห้องพิจารณาที่ชั้น 9 นายประสิทธิ์ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าปวดท้องหนัก เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจให้เข้าไปใช้ห้องน้ำสำหรับผู้มาติดต่อที่ศาล จากนั้นพานายประสิทธิ์กลับเข้าห้องพิจารณา ซึ่งนายประสิทธิ์ได้พูดคุยกับกลุ่มคนที่มาให้กำลังใจ ว่า “จะมีคนได้ถูกปล่อยตัว มีเสื้อผ้ามาให้หรือยัง” และหลังจากออกจากห้องพิจารณา นายประสิทธิ์ได้ขอเข้าห้องน้ำอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงให้เข้าห้องน้ำชั้น 9 เช่นเดิม และเกิดหลบหนี โดยผู้ต้องหาเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำให้ผู้คุมไม่ได้สังเกตว่าปลอมตัว


“ส่วนคำถามที่ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไม่แต่งเครื่องแบบตามปกติ ขอแจ้งว่า เจ้าหน้าที่แต่งเครื่องแบบปกติแต่ใส่เสื้อคลุมไว้ ส่วนจะเป็นการพรางตัวหรือไม่คณะกรรมการที่สอบเรื่องเหล่านี้จะสรุปผลสอบวันนี้ ซึ่งต้องมีผู้รับผิดชอบที่ไม่เคร่งครัดเท่าที่ควร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

นางอมรรัตน์ ตั้งคำถามอีกว่า กุญแจปลดเครื่องพันธนาการเอามาจากไหน ทำไมถึง 2 มาตรฐานในการควบคุมตัว เช่น คดีของกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตยไม่เคยได้เข้าห้องน้ำชั้น 9 หรือใครอ้างความจงรักภักดี ก็จะตามใจมากกว่าปกติ และไม่เคร่งครัดเท่าที่ควร นอกจากนี้ เลขานุการประธานสภาฯ ยังได้ให้สัมภาษสื่อมวลชนว่า นายประสิทธิ์ ได้สื่อสารจดหมายออกมาจากเรือนจำมากกว่า 231 ฉบับและมีฉบับหนึ่งได้บอกให้เครือข่ายของตนเองไปที่วัดบัวขวัญ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์เดินทางไปที่วัด โดยสั่งให้เครือข่ายไปขอบคุณอธิบดีที่ให้การดูแลนายประสิทธิมากเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้อธิบดียืนยันว่า ไม่ได้พบกับบุคคลที่กล่าวอ้าง แต่ก็น่าสังเกตว่าหากเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ทำไมอธิบดีจึงไม่ฟ้องร้องหรือดำเนินการกับเรื่องนี้

นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า เรื่องกุญแจปลดพันธนาการ นายประสิทธิ์รับสารภาพแล้วว่า ได้ปลดกุญแจในจุดควบคุมแดนกลาง แต่ต้องยอมรับว่าอาจจะเป็นความหละหลวม ทาง ราชทัณฑ์ต้องตั้งกรรมการสอบผู้ดูแล แต่ยืนยันว่า ให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาทุกคน และอำนวยความสะดวกให้ได้ดีที่สุด ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชังหรือต้องเป็นคนจงรักภักดี คิดว่าไม่ควรจะกระแนะกระแหนกันอย่างนี้ ส่วนการสอบข้อเท็จจริง วันนี้เป็นวันสุดท้ายเพื่อสรุปและรวบรวมส่งอธิบดี


นางอมรัตน์ กล่าวว่า นายสมศักดิ์ อาจจะเข้าใจตนผิด ตนไม่ได้กระแนะกระแหน แต่เปรียบเทียบให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติของเรือนจำ ถ้าเข้าใจว่ากระแนะกระแหน อาจจะมีอคติกับคำถามนี้หรือไม่ ส่วนเรื่องกุญแจเป็นไปไม่ได้ที่จะปลดมาก่อน จึงขอทราบว่าใครบ้างที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ พร้อมเสนอแนะกระทรวงยุติธรรมโดยเฉพาะเรือนจำกลาง ซึ่งเป็นกรมที่ใหญ่ที่สุดในกระทรวงและได้งบมากที่สุด แต่กลับเป็นกรมที่โปร่งใสน้อยที่สุด เป็นแดนสนธยาที่ตรวจสอบยากที่สุด มีอำนาจนิยมมากที่สุด เอื้อให้ทุจริตได้ง่ายและตรวจสอบได้ยากที่สุด หรือแทบจะตรวจสอบไม่ได้

“ขอสอบถามว่าเรื่องแรงงานทาสในเรือนจำ มีระบบการจ่ายเงินที่เป็นธรรมหรือไม่ มีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องขังหรือไม่ นายสมศักดิ์เคยทำงานเชิงรุก เรื่องสิทธิเสรีภาพหรือไม่ มีแนวคิดให้นักโทษมีสิทธิเลือกตั้งได้หรือไม่ และมีวิสัยทัศน์อย่างไร ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของคนในเรือนจำ” นางอมรัตน์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า เรื่องกุญแจ ในเรือนจำกลางมีที่เก็บ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่ผู้คุมเผลอแล้วแอบหยิบกุญแจออกไปด้วย  ส่วนแรงงานในเรือนจำนั้น เรามีการจัดค่าแรงขั้นต่ำให้ผู้ต้องขัง ส่วนเสรีภาพของผู้ต้องขัง ตนก็อยากทำให้ แต่คงทำไม่ทัน ถ้าผู้ต้องขังมีสิทธิเลือกตั้งได้ ตนคงได้คะแนนมาก เพราะตนดูแลผู้ต้องขังอย่างดี แต่คงทำไม่ได้เพราะมีเงื่อนไขอะไรหลายอย่าง ส่วนการคืนคนดีสู่สังคม ตนมีวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้มาก ผู้ต้องขังจะกระทำผิดซ้ำมีน้อย

“เหตุผลหลักที่กระทำผิดซ้ำ คือความยากจน จึงเกิดโครงการสร้างนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ยอมให้นักโทษที่เหลือโทษน้อย พักโทษเข้าไปทำงาน ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ว่าจังหวัดใดสามารถทำได้บ้าง โดยไม่จำเป็นต้องสร้างเรือนจำขึ้นใหม่ และให้นักโทษติดกำไรอีเอ็ม เพราะรู้แล้วว่า การปรับเปลี่ยนนิสัยในทางทฤษฎีหรือสอนอย่างเดียว เป็นไปได้ยาก จึงสร้างอาชีพจากการให้ไปทำงานที่นิคม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสมศักดิ์กำลังกล่าวตอบกระทู้อยู่นั้น คาดว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคน ทำท่าทีไม่สุภาพ จนทำให้นายสมศักดิ์ กล่าวก่อนจะจบการตอบคำถามว่า “ถ้าเราให้เกียติกันในการทำงานในสภาฯ การนั่งส่ายหน้าหรือมีความรู้สึกที่ไม่สุภาพ เป็นการไม่ให้เกียรติสภา เราตั้งใจทำงานด้วยกัน แต่ไม่น่าจะทำความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน เพราะจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม”.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ร่วมวงถก สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เลื่อนวาระงาน เพื่อร่วมประชุม สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งเลื่อนการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเป็น 11.00 น. เพื่อมาร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสรุปมาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มารอต้อนรับ ซึ่งการร่วมประชุม กับ สมช. ในวันนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าและเป็นการมาร่วมประชุมกับ สมช. เป็นครั้งแรก .-316 -สำนักข่าวไทย

โคราชพบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19

นครราชสีมา 6 มิ.ย. – จ.นครราชสีมา พบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19 เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 เผยตัวเลขเก็บศพโควิด เดือนนี้ 8 ราย ส่วนยอดติดเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน 68 วันเดียวเพิ่ม 2 หมื่นคน นายชัยสิทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 โพสต์ภาพลงในโซเชียล ขณะอาสากู้ภัย “ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หรือ ฮุก 31” กำลังช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากโรงพยาบาล ไปฌาปนกิจ พร้อมข้อความเตือน “ระวังกันนะครับ ให้ระวังกัน เพราะช่วงนี้ติดเชื้อกันเยอะ คนที่ไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว ไม่เกี่ยงอายุ วันนี้ มีตั้งแต่ไม่กี่ขวบ จนถึงสูงอายุ ทีมงานฮุก 31 บ้านหลังสุดท้าย ทุกๆ เขตรับผิดชอบ เริ่มมีภารกิจถี่ขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. […]

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]