“พล.อ.อนุพงษ์” ย้ำตรวจน้ำท่วมอุบลฯ รับฟังปัญหา ไม่มีนัยการเมือง

อุบลราชธานี 18 ต.ค.- “พล.อ.อนุพงษ์” ย้ำลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอุบลราชธานี ระบุมารับฟังปัญหาประชาชน กำชับผู้นำชุมชนดูแลอย่างทั่วถึง ไม่กังวลระเบียบ กกต. ก่อนการเลือกตั้ง มองไม่มีนัยการเมือง แต่ช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบ


พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่ศูนย์พักพิงบ้านกุดเป่ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์เรื่องน้ำอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยการดูแลต้องทั่วถึงและสภาพความเป็นอยู่ เนื่องจากน้ำท่วมสูง ย้ำเรื่องอาหาร น้ำดื่ม สุขา รวมถึงการเดินทางภายหลังจากที่เห็นการนำเสนอข่าวแล้ว ชาวบ้านไม่ได้รับความช่วยเหลือ ดังนั้นจึงมากำชับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเข้าไปดูแลประชาชน ขณะเดียวกัน จะเร่งการระบายน้ำเพื่อเตรียมการฟื้นฟูต่อไป ขณะที่รัฐบาลเตรียมการเข้าช่วยเหลือการประกอบอาชีพต่อไป

พลเอกอนุพงษ์ ยอมรับว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี คาดว่าจะมีเวลากว่า 1 เดือนน้ำถึงจะลด เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล ยังอยู่ในพื้นที่อีสานตอนบน ดังนั้นจึงต้องระบายน้ำจากแม่น้ำชี แม่น้ำมูลและสาขาย่อยระบายออกไปก่อน ส่วนน้ำที่ค้างตามลุ่มต่างๆ ก็ต้องสูบออก สำหรับการเยียวยาพิเศษนอกเหนือจากเงินที่ช่วยเหลือตามกฎหมายนั้น ก็จะเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการคลัง เช่น เงินช่วยเหลือซ่อมแซมบ้าน ที่จะต้องระดมส่วนของหน่วยงาน ทหาร ตำรวจ เข้าช่วยเหลือ พร้อมซื้ออุปกรณ์ รวมถึงการช่วยเหลือทางด้านการประกอบอาชีพ จากนี้จะต้องมีการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการกำหนดกฎเกณฑ์ในการช่วยเหลือ ย้ำว่านายกรัฐมนตรีให้ดูแลเป็นพิเศษ และกล่าวว่า การเบิกจ่ายงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไม่ขัดต่อระเบียบของ กกต. เนื่องจากระเบียบดังกล่าว เน้นไปที่การมีส่วนได้ส่วนเสียของการเลือกตั้ง แต่ถ้าทำด้วยจิตบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่นัย ไม่ทุจริต ช่วยเหลือประชาชนตามกฎหมายทำได้อยู่แล้ว เช่นการดูแลชาวบ้านวันนี้ ไม่ต้องกลัวผิด ซึ่งส่วนตัวไม่กังวลเรื่องนี้


ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ฝากถึงประชาชนทุกคนไม่สามารถที่จะบังคับภัยทางธรรมชาติได้ ปีนี้สถานการณ์ในแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล เนื่องจากปริมาณฝนตกมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างหนักแล้ว ไม่อยากให้เกิดการตำหนิ เนื่องจากทุกคนได้เสียสละและช่วยเหลือประชาชน จึงอยากให้ลดการวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ แต่อยากให้ทุกคนช่วยกันแจ้งพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนเข้ามา เพื่อคนทำจะได้มีกำลังใจ อย่างเช่นในวันนี้ ตนเองมาลงพื้นที่ ดีกว่านั่งประชุม ซึ่งได้มารับฟังเสียงสะท้อนในพื้นที่โดยตรงว่าบางส่วนไม่ได้รับการดูแล ถือเป็นการมารับฟังปัญหาโดยตรงและขอสื่อมวลชนช่วยกันนำเสนอในสิ่งที่ดีๆ พร้อมยอมรับว่าทั้งผู้ใหญ่บ้านและตนเองในฐานะรัฐมนตรีก็ต้องรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เมื่อไม่ดีก็ต้องรับแก้ไข เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ทุกคน

จากนั้น รับฟังสรุปพื้นที่น้ำท่วมของ อ.พิบูลมังสาหาร ที่เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตั้งแต่ วันที่ 29 กันยายน มีจำนวน 15 ชุมชน 788 ครัวเรือน 1,532 ราย และวัด 1 แห่ง

โดย รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มารอต้อนรับ ว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ดูแลประชาชนทั่วถึง หลังจากมีการนำเสนอข่าวว่า ไม่ได้รับการดูแล ตกหล่น ท้องถิ่นเข้าไม่ถึง จึงได้มากำชับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ฝากให้ดูแลประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน ให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันห่วงใย เรื่องน้ำกัดเท้า และโรคอื่นๆ จะตามมา หลังจากน้ำลด ให้เร่งฟื้นฟู โดยเฉพาะการสำรวจความเสียหายตั้งแต่บ้านเรือน ที่นอน พื้นที่การเกษตร การประกอบอาชีพ ขณะเดียวกันให้มีนำเงินบริจาคมารวมไว้ เพื่อที่จะเสริมเงินจากภาครัฐ จะได้ช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ ยังฝากให้ท้องถิ่น รับคำบ่นและวิจารณ์จากชาวบ้าน เพื่อนำมาแก้ไข


จากนั้น พลเอกอนุพงษ์ สวมรองเท้าบู๊ท ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจชาวชุมชนวัดสวนสวรรค์ เริ่มท่วมตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ตอนนี้น้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียง 10 เซนติเมตร ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจกับสภาพปัญหาน้ำท่วม แม้ว่าปีนี้จะสูงกว่าปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พลเอกอนุพงษ์ ได้ฝากความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี มาถึงชาวบ้านทุกคน พร้อมสอบถามว่า ”รู้จักลุงตู่มั้ย” ซึ่งชาวบ้านตอบว่า “รู้จัก“ พร้อมบอกว่านายกรัฐมนตรี อยากให้รัฐมนตรีมาเยี่ยมให้กำลังใจคนที่เดือดร้อน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]