“วัชระ-รองเลขาฯสภา” ท้ากันสาบาน ปมน้ำผุดในสภา

รัฐสภา 17ต.ค.-“วัชระ” ชูป้ายข้าราชการทุจริตจงพินาศ พร้อมประชดนำผ้า 7 สีมาผูกเสาตอม่อที่อาคารรัฐสภา บอกใครอยากได้เลขเด็ดให้มาขอ ด้านรองเลขาฯ ฟาดกลับเสียงสั่น ไม่รู้จริงอย่าพูด ท้าสาบานใครพูดไม่จริงขอให้มีอันเป็นไป 3 วัน 7 วัน ก่อนพาทัวร์ดูจุดมีปัญหา


 นายวัชระ เพชรทอง และนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรื่องข้อบกพร่องและการทุจริตการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยเชิญนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ มาร่วมฟังการแถลงข่าวและตอบข้อซักถามถึงปัญหาน้ำรั่วในสภา โดยก่อนแถลงข่าวนายวัชระได้ชูป้าย “คนโกงจงพินาศ ขรก.ทุจริตจงพินาศ  ขรก.ที่ดีจงเจริญ” และชูผ้า 7 สีที่จะนำไปผูกตอม่อที่มีปัญหา พร้อมพูดคุยกับนายสาธิตที่มาร่วมฟังว่าวันนี้นายสาธิตลงมาฟังแถลงข่าวด้วย ซึ่งนายสาธิตตอบกลับว่า “พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ของผม”

นายวัชระ กล่าวว่า ปัจจุบันมีน้ำรั่วไหลออกมาจากเสาตอม่อและเกิดตาน้ำขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภา ไม่จบที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เท่านั้น แต่จะไปจบที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ


ด้านนายวิลาศ กล่าวว่า ขณะนี้มีความพยายามก่อสร้างอาคารรัฐสภา และจะตรวจรับงานให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ตนไม่ได้ขัดขวางที่จะไม่ให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน แต่ต้องเสร็จภายใต้ความสมบูรณ์และถูกต้อง ปราศจากการทุจริตและข้อครหา ปัญหาก่อสร้างสภาวันนี้มีข้อร้องเรียนจำนวนมาก จึงอยากให้ข้าราชการและประชาชนช่วยกันดู ช่วยกันตรวจสอบ ก่อนที่จะส่งมอบจริงในเดือนพฤศจิกายน ส่วนเรื่องที่เป็นห่วงคือ 1.เรื่องการซึมของน้ำ ที่อาจจะมีรอยรั่วที่ใหญ่ขึ้นจนอาจจะมีน้ำพุ และถ้าหากมีน้ำพุขึ้นมาอีก จะทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเลย 2. เรื่องสายไฟที่มีการฝังอยู่ข้างล่าง ต้องฝังสายไฟใต้ดิน 40 เซนติเมตร และมีชั้นดินขึ้นมาอีก 30 เซนติเมตร และปิดทับด้วยคอนกรีต แต่จากการตรวจสอบของตนพบว่าอยู่ใต้ชั้นดินเพียง 10 เซนติเมตรเท่านั้น 3.ต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณอาคาร ต้องอนุบาลต้นไม้ 8 เดือน และต้องลงดินปลูกต่ออีก 8 เดือนถึงจะส่งมอบงานได้  4.หินสร้างฟุตบาทหน้าสภาบริเวณถนนสามเสน แยกเกียกกาย ไม่เป็นไปตามสเปค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายวัชระ แถลงข่าวจบ ไม่มีผู้สื่อข่าวซักถาม แต่นายสาธิตซึ่งมาร่วมฟังแถลงในครั้งนี้ได้เดินขึ้นไปบนโพเดียมเพื่อชี้แจง และถามนายวัชระ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจากอาการโมโห ถึงข้อความที่ว่าข้าราชการทุจริตจงพินาศคือใคร นายวัชระ ตอบว่า ใครที่ทุจริตก็เป็นข้าราชการที่ทุจริตและจงพินาศ แต่ตนไม่สามารถระบุเป็นตัวบุคคลได้ ขณะนี้ข้าราชการที่ทุจริตก็ถูกป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนแล้วถึง 2 คน

นายสาธิต กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเพราะความโกรธ ว่า ในนามข้าราชการตนต้องปกป้องข้าราชการ ส่วนนายวัชระและนายวิลาศเป็นเพียงอดีตสมาชิก เข้ามาในรัฐสภา ร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนก็ไม่ขัดข้อง แต่หากก้าวมาละเมิด ล่วงเกินองค์กร ตนรับไม่ได้ ต้องทำหน้าที่ปกป้องข้าราชการ ยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำ ไม่ได้ทำไปโดยพลการ ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมบัญชีกลางพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการก่อน


“และที่อ้างว่าจะตรวจรับอาคารรัฐสภาเดือนพฤศจิกายน เป็นเพียงแผนงานที่ส่งเข้ามา ยังไม่ใช่ข้อสรุปว่าจะตรวจรับเมื่อไหร่ นายวัชระอย่าพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง อันไหนไม่ถูกต้องก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง ถ้าบริษัทไม่ทำตามแบบ ไม่ทันตามข้อสัญญาที่กำหนดไว้ ผมไม่รับงาน ขอให้นายวัชระให้ข่าวตามความจริง หรือถ้าไม่ทราบเรื่องจริงก็ไม่ควรให้ข่าว เพราะหากไม่มีข้อมูลจริงมาพูด มันจะเสียหายทั้งองค์กร ยืนยันไม่ได้เข้าข้างบริษัทที่รับจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภา ถ้าหากข้าราชการทุจริตก็ขอให้พินาศภายใน 3 วัน 7 วันแต่หากไม่เป็นความจริง ขอให้คนที่กล่าวหาพินาศภายใน 3 วัน 7 วันเช่นเดียวกัน” ทำให้นายวัชระพนมมือและกล่าว “สาธุ” รับคำสาบาน

นายสาธิต กล่าวว่า ส่วนสายไฟที่อ้างว่าอยู่ใต้ดินเพียง 10 เซนติเมตร ตนได้ไปตรวจสอบแล้วพบว่าความจริงสายไฟอยู่ใต้ดิน 45 ซม.เพียงแต่ไม่มีแผ่นคอนกรีตทับ หลังจากชี้แจงจบนายสาธิตได้กล่าวก่อนลงจากโพเดียมว่า ตนชี้แจงพอแล้ว ไม่ขอตอบเพิ่มแล้ว ตนไม่ได้หิวแสง แต่หิวข้าว พร้อมหันไปถามสื่อมวลชนว่าหิวหรือไม่  ด้านช่างภาพสื่อมวลชนประสานเสียงตอบพร้อมกันว่าหิวแล้ว เนื่องจากคาบเกี่ยวช่วงเที่ยงพอดี ทำให้สถานการณ์คลายความตึงเครียดลง

ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าวได้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทชิโนทัย มาร่วมรับฟังการแถลงและบันทึกภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างไรก็ตาม ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น  นายวัชระ ได้พยายามขอเจ้าหน้าที่ให้พาลงไปดูพื้นที่จริง แต่ถูกนายอรุณ ผ่องแผ่ว ผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัยห้ามลงไป และยอมรับว่าเกิดปัญหาเรื่องตาน้ำและน้ำผุดเป็นร้อยจุดจริง แต่สภาฯ กำลังแก้ไข และอยากให้ทำหนังสืออนุญาตมาก่อน อย่างไรก็ตาม ได้พาสื่อมวลชนลงไปดูพื้นที่ที่เป็นปัญหา โดยไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาตเข้าพื้นที่ และมีเจ้าที่สำนักรักษาความปลอดภัยเดินตามจนจบการพาชม

จุดแรกที่พาไปคือเสาที่มาตาน้ำไหลออกมา ที่อยู่บริเวณโซนห้องสัมมนา จากนั้นพาไปดูพื้นที่มีน้ำผุดออกมาจากใต้ดิน ก่อนที่จะพาสื่อมวลชนออกไปที่ลานจอดรถที่มีผุดออกมาจากเสา ก่อนที่จะนำผ้า7สี ไปผูกบริเวณเสาตอม่อที่ลานจอดรถ B2 เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์เชิงประชด ว่าเสาต้นนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะมีน้ำผุดออกมา พร้อมเชิญชวนประชาชนที่อยากจะขอเลขเด็ดมาขอที่รัฐสภา ซึ่งขณะที่นายวัชระกำลังผูกผ้า นายอรุณได้เอาตัวเองเข้าไปขวางไม่ให้นายวัชระผูกผ้า 7 สี เนื่องจากผิดระเบียบของรัฐสภา จึงได้ทำท่าประกอบเสมือนผูกจริง โดยรัดตัวนายอรุณไปพร้อมกับเสา.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส