“วัชระ-รองเลขาฯสภา” ท้ากันสาบาน ปมน้ำผุดในสภา

รัฐสภา 17ต.ค.-“วัชระ” ชูป้ายข้าราชการทุจริตจงพินาศ พร้อมประชดนำผ้า 7 สีมาผูกเสาตอม่อที่อาคารรัฐสภา บอกใครอยากได้เลขเด็ดให้มาขอ ด้านรองเลขาฯ ฟาดกลับเสียงสั่น ไม่รู้จริงอย่าพูด ท้าสาบานใครพูดไม่จริงขอให้มีอันเป็นไป 3 วัน 7 วัน ก่อนพาทัวร์ดูจุดมีปัญหา


 นายวัชระ เพชรทอง และนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรื่องข้อบกพร่องและการทุจริตการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยเชิญนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ มาร่วมฟังการแถลงข่าวและตอบข้อซักถามถึงปัญหาน้ำรั่วในสภา โดยก่อนแถลงข่าวนายวัชระได้ชูป้าย “คนโกงจงพินาศ ขรก.ทุจริตจงพินาศ  ขรก.ที่ดีจงเจริญ” และชูผ้า 7 สีที่จะนำไปผูกตอม่อที่มีปัญหา พร้อมพูดคุยกับนายสาธิตที่มาร่วมฟังว่าวันนี้นายสาธิตลงมาฟังแถลงข่าวด้วย ซึ่งนายสาธิตตอบกลับว่า “พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ของผม”

นายวัชระ กล่าวว่า ปัจจุบันมีน้ำรั่วไหลออกมาจากเสาตอม่อและเกิดตาน้ำขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภา ไม่จบที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เท่านั้น แต่จะไปจบที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ


ด้านนายวิลาศ กล่าวว่า ขณะนี้มีความพยายามก่อสร้างอาคารรัฐสภา และจะตรวจรับงานให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ตนไม่ได้ขัดขวางที่จะไม่ให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน แต่ต้องเสร็จภายใต้ความสมบูรณ์และถูกต้อง ปราศจากการทุจริตและข้อครหา ปัญหาก่อสร้างสภาวันนี้มีข้อร้องเรียนจำนวนมาก จึงอยากให้ข้าราชการและประชาชนช่วยกันดู ช่วยกันตรวจสอบ ก่อนที่จะส่งมอบจริงในเดือนพฤศจิกายน ส่วนเรื่องที่เป็นห่วงคือ 1.เรื่องการซึมของน้ำ ที่อาจจะมีรอยรั่วที่ใหญ่ขึ้นจนอาจจะมีน้ำพุ และถ้าหากมีน้ำพุขึ้นมาอีก จะทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเลย 2. เรื่องสายไฟที่มีการฝังอยู่ข้างล่าง ต้องฝังสายไฟใต้ดิน 40 เซนติเมตร และมีชั้นดินขึ้นมาอีก 30 เซนติเมตร และปิดทับด้วยคอนกรีต แต่จากการตรวจสอบของตนพบว่าอยู่ใต้ชั้นดินเพียง 10 เซนติเมตรเท่านั้น 3.ต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณอาคาร ต้องอนุบาลต้นไม้ 8 เดือน และต้องลงดินปลูกต่ออีก 8 เดือนถึงจะส่งมอบงานได้  4.หินสร้างฟุตบาทหน้าสภาบริเวณถนนสามเสน แยกเกียกกาย ไม่เป็นไปตามสเปค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายวัชระ แถลงข่าวจบ ไม่มีผู้สื่อข่าวซักถาม แต่นายสาธิตซึ่งมาร่วมฟังแถลงในครั้งนี้ได้เดินขึ้นไปบนโพเดียมเพื่อชี้แจง และถามนายวัชระ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจากอาการโมโห ถึงข้อความที่ว่าข้าราชการทุจริตจงพินาศคือใคร นายวัชระ ตอบว่า ใครที่ทุจริตก็เป็นข้าราชการที่ทุจริตและจงพินาศ แต่ตนไม่สามารถระบุเป็นตัวบุคคลได้ ขณะนี้ข้าราชการที่ทุจริตก็ถูกป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนแล้วถึง 2 คน

นายสาธิต กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเพราะความโกรธ ว่า ในนามข้าราชการตนต้องปกป้องข้าราชการ ส่วนนายวัชระและนายวิลาศเป็นเพียงอดีตสมาชิก เข้ามาในรัฐสภา ร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนก็ไม่ขัดข้อง แต่หากก้าวมาละเมิด ล่วงเกินองค์กร ตนรับไม่ได้ ต้องทำหน้าที่ปกป้องข้าราชการ ยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำ ไม่ได้ทำไปโดยพลการ ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมบัญชีกลางพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการก่อน


“และที่อ้างว่าจะตรวจรับอาคารรัฐสภาเดือนพฤศจิกายน เป็นเพียงแผนงานที่ส่งเข้ามา ยังไม่ใช่ข้อสรุปว่าจะตรวจรับเมื่อไหร่ นายวัชระอย่าพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง อันไหนไม่ถูกต้องก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง ถ้าบริษัทไม่ทำตามแบบ ไม่ทันตามข้อสัญญาที่กำหนดไว้ ผมไม่รับงาน ขอให้นายวัชระให้ข่าวตามความจริง หรือถ้าไม่ทราบเรื่องจริงก็ไม่ควรให้ข่าว เพราะหากไม่มีข้อมูลจริงมาพูด มันจะเสียหายทั้งองค์กร ยืนยันไม่ได้เข้าข้างบริษัทที่รับจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภา ถ้าหากข้าราชการทุจริตก็ขอให้พินาศภายใน 3 วัน 7 วันแต่หากไม่เป็นความจริง ขอให้คนที่กล่าวหาพินาศภายใน 3 วัน 7 วันเช่นเดียวกัน” ทำให้นายวัชระพนมมือและกล่าว “สาธุ” รับคำสาบาน

นายสาธิต กล่าวว่า ส่วนสายไฟที่อ้างว่าอยู่ใต้ดินเพียง 10 เซนติเมตร ตนได้ไปตรวจสอบแล้วพบว่าความจริงสายไฟอยู่ใต้ดิน 45 ซม.เพียงแต่ไม่มีแผ่นคอนกรีตทับ หลังจากชี้แจงจบนายสาธิตได้กล่าวก่อนลงจากโพเดียมว่า ตนชี้แจงพอแล้ว ไม่ขอตอบเพิ่มแล้ว ตนไม่ได้หิวแสง แต่หิวข้าว พร้อมหันไปถามสื่อมวลชนว่าหิวหรือไม่  ด้านช่างภาพสื่อมวลชนประสานเสียงตอบพร้อมกันว่าหิวแล้ว เนื่องจากคาบเกี่ยวช่วงเที่ยงพอดี ทำให้สถานการณ์คลายความตึงเครียดลง

ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าวได้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทชิโนทัย มาร่วมรับฟังการแถลงและบันทึกภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างไรก็ตาม ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น  นายวัชระ ได้พยายามขอเจ้าหน้าที่ให้พาลงไปดูพื้นที่จริง แต่ถูกนายอรุณ ผ่องแผ่ว ผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัยห้ามลงไป และยอมรับว่าเกิดปัญหาเรื่องตาน้ำและน้ำผุดเป็นร้อยจุดจริง แต่สภาฯ กำลังแก้ไข และอยากให้ทำหนังสืออนุญาตมาก่อน อย่างไรก็ตาม ได้พาสื่อมวลชนลงไปดูพื้นที่ที่เป็นปัญหา โดยไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาตเข้าพื้นที่ และมีเจ้าที่สำนักรักษาความปลอดภัยเดินตามจนจบการพาชม

จุดแรกที่พาไปคือเสาที่มาตาน้ำไหลออกมา ที่อยู่บริเวณโซนห้องสัมมนา จากนั้นพาไปดูพื้นที่มีน้ำผุดออกมาจากใต้ดิน ก่อนที่จะพาสื่อมวลชนออกไปที่ลานจอดรถที่มีผุดออกมาจากเสา ก่อนที่จะนำผ้า7สี ไปผูกบริเวณเสาตอม่อที่ลานจอดรถ B2 เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์เชิงประชด ว่าเสาต้นนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะมีน้ำผุดออกมา พร้อมเชิญชวนประชาชนที่อยากจะขอเลขเด็ดมาขอที่รัฐสภา ซึ่งขณะที่นายวัชระกำลังผูกผ้า นายอรุณได้เอาตัวเองเข้าไปขวางไม่ให้นายวัชระผูกผ้า 7 สี เนื่องจากผิดระเบียบของรัฐสภา จึงได้ทำท่าประกอบเสมือนผูกจริง โดยรัดตัวนายอรุณไปพร้อมกับเสา.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]