ทำเนียบฯ 4 ก.ย. – “ทิพานัน” ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์” ทำตามกระบวนการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่กดดันศาลฯ ยันไม่ใช่เครื่องฟอกขาวเพราะไม่ใช่คดีทุจริต ยืนยันเอกชนเชื่อมั่น “พล.อ.ประวิตร” รักษาการ เศรษฐกิจไม่สะดุด
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้องกดดันที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แนะนำให้ยอมแพ้ ไม่ต่อสู้ในกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าเรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อมีผู้ร้องในศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และศาลได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล และตามกระบวนการวิธีพิจารณาคดีของศาลก็กำหนดให้ผู้ถูกร้องชี้แจง ทางทีมกฎหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ดำเนินการชี้แจงตามข้อกฎหมายและตามที่ถูกร้อง ไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินหรือไปเกี่ยวข้องใดๆ ให้เสียกระบวนการ ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินเอง ทุกอย่างดำเนินการตามบทบัญญัติของ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 ซึ่งเป็นไปโดยไม่ได้มีพฤติกรรมกดดันศาลเลย แตกต่างจากการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่าการชี้แจงของทีมกฎหมายไม่ใช่เครื่องฟอกขาวให้ใคร เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของการกระทำความผิดทุจริตต่อหน้าที่ เป็นปัญหาการตีความข้อกฎหมาย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงไม่ควรสื่อสารให้สังคมเกิดความสับสน ตนยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ไม่ใช่เรื่องจำได้หรือจำไม่ได้ว่าดำรงตำแหน่งมากี่ปี เพราะนี่คือวิธีทางกฎหมาย คือชี้แจงในข้อกฎหมาย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงควรเคารพกฎหมายและรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนการทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวหาว่าไม่ให้ความสำคัญกับ พล.อ.ประยุทธ์นั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร เข้ามาบริหารประเทศในระหว่างที่รอการพิจารณาของศาล เพื่อให้นโยบายต่างๆ ขับเคลื่อนไปได้อย่างไม่เกิดสุญญากาศ ซึ่งเสียงจากภาคเอกชนก็เกิดความเชื่อมั่น ล่าสุดนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรม ก็ระบุว่าการมี พล.อ.ประวิตร เข้ามารักษาราชการแทน ไม่ส่งผลกระทบให้ธุรกิจหรือเศรษฐกิจสะดุด หรือเกิดความกังวลใดๆ
“พล.อ.ประวิตร ท่านมีความรู้และความสามารถ ท่านมีทั้งแรงปัญญา แรงใจ แรงกาย ที่จะบริหารประเทศไม่ให้สะดุด และที่สำคัญท่านสั่งการและทำงานที่ประเทศไทยไม่ใช่จากต่างประเทศ ทันเวลา ทันใจ จริงใจต่อการพัฒนาชาติแน่นอน” น.ส.ทิพานัน กล่าว