fbpx

ชัวร์ก่อนแชร์: Ivermectin ช่วยให้รอดตายจากโควิดมากกว่า Remdesivir 70% จริงหรือ?

21 พฤษภาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Factcheck.org / Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:


  1. เป็นการบิดเบือนงานวิจัยของผู้สนับสนุนการใช้ยา Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด-19
  2. งานวิจัยหลายชิ้นในปัจจุบันไม่พบว่ายา Ivermectin มีประโยชน์ต่อการป้องกันหรือรักษาผู้ป่วยโควิด-19

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทาง Youtube ในสหรัฐอเมริกา โดย จอห์น แคมป์เบล อดีตพยาบาลเวชปฏิบัติชาวอังกฤษ ผู้ผันตัวมาเป็น Youtuber ด้านสุขภาพจนมีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน อ้างผลวิจัยว่า ยาฆ่าพยาธิ Ivermectin มีประสิทธิผลในการป้องกันการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ดีกว่ายาต้านไวรัส Remdesivir ที่องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ให้การรับรองถึง 70% จนคลิปวิดีโอดังกล่าวทำยอดวิวก่อนถูกลบไปถึง 770,000 วิว และมีการแชร์ไปแล้วกว่า 10,000 ครั้ง

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


คลิปวิดีโอที่ จอห์น แคมป์เบล อัพโหลดเมื่อวันที่ 6 มีนาคมปี 2022 เป็นการวิเคราะห์บทคัดย่องานวิจัยของมหาวิทยาลัย University of Miami ที่นำเสนอผลการศึกษาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2021

ผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 ของชาวอเมริกันระหว่างวันที่ 1 มกราคมปี 2020 ถึง 11 กรกฎาคมปี 2021 โดยผู้ป่วยจำนวน 41,608 รายถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มที่รักษาตัวด้วยยาต้านไวรัส Remdesivir จำนวน 40,536 ราย และกลุ่มที่รักษาตัวด้วยยา Ivermectin จำนวน 1,072 ราย

การศึกษาพบว่ายา Ivermectin มีความสัมพันธ์ต่อการลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่ายาต้านไวรัส Remdesivir โดยมีอัตราส่วนอ๊อดส์ (odds ratio) อยู่ที่ 0.308

จอห์น แคมป์เบล จึงทำการสรุปในคลิปวิดีโอว่า การใช้ยา Ivermectin ลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ดีกว่ายาต้านไวรัส Remdesivir ที่ 70%

อย่างไรก็ดี ดร.โฮเซ กอนซาเลส ซาโมรา ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัย University of Miami และผู้ร่วมวิจัยในการศึกษาที่ จอห์น แคมป์เบล กล่าวอ้าง ยืนยันว่าผลวิจัยไม่อาจบอกได้ว่า ยา Ivermectin ช่วยให้ผู้ป่วยโควิด-19 รอดชีวิตมากกว่าการใช้ยาต้านไวรัส Remdesivir ที่ 70% เหมือนที่ จอห์น แคมป์เบล กล่าวอ้าง

ซาโมราให้เหตุผลว่า งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการวิจัยเบื้องต้นและเป็นแค่การศึกษาแบบเฝ้าสังเกตการณ์ แม้พบว่ายา Ivermectin มีความสัมพันธ์ (Association) กับการลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่า การใช้ยา Ivermectin คือสาเหตุ (Causation) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยโควิด-19 รอดชีวิต

ซาโมราย้ำว่า ยังมีตัวแปรอีกหลายอย่างที่ต้องพิจารณา ปัจจัยแรกคือ กลุ่มผู้ป่วยที่รักษาตัวด้วยยา Ivermectin มีอายุเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มที่รักษาตัวด้วยยา Remdesivir ถึง 10 ปี ทำให้กลุ่มที่รักษาตัวด้วยยา Ivermectin มีโอกาสเสียชีวิตจากโควิด-19 น้อยกว่า

นิโคลัส มาร์ค ผู้เชี่ยวชาญด้านปอดและแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล Swedish Medical Center ในเมืองซีแอตเติล อธิบายว่ายา Ivermectin มักจะใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 ระยะเริ่มต้นและยังไม่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนยา Remdesivir จะใช้รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่มีอาการหนัก จึงเป็นไปได้สูงที่กลุ่มคนไข้ที่รักษาตัวด้วยยา Remdesivir จะป่วยหนักมากกว่าและมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มคนไข้ที่ใช้ยา Ivermectin

ซาโมราย้ำว่างานวิจัยของเขาและทีมงานไม่ได้ทำขึ้นเพื่อสนับสนุนประโยชน์ของการใช้ยา Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด-19 เพราะทีมงานของเขาหรือโรงพยาบาลที่เขาสังกัด ต่างไม่แนะนำให้ใช้ยาชนิดนี้รักษาผู้ป่วยโควิด-19

นอกจากนี้ บทสรุปงานวิจัยที่ จอห์น แคมป์เบล เลี่ยงที่จะกล่าวถึง คือการย้ำถึงความสำคัญของการวิจัยในเชิงลึกในอนาคต เพื่อยืนยันหรือหักล้างประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยยา Ivermectin ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้รับการ peer-reviewed หรือการตรวจสอบความถูกต้องทางวิชาการ และได้ยุติโครงการวิจัยไปแล้ว โดยซาโมราชี้แจงผ่านทาง Twitter ว่า ไม่มีเหตุผลที่จะทำการศึกษาต่อเพราะงานวิจัยที่ใช้การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมที่น่าเชื่อถือหลายชิ้นต่างยืนยันว่า Ivermectin ไม่มีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19

ภายหลัง จอห์น แคมป์เบล ได้ลบคลิปดังกล่าว ก่อนทำการอัพโหลดคลิปวิดีโอตัวใหม่เพื่อสนับสนุนการใช้ยา Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อีกครั้งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ปี 2022

โดยคลิปตัวล่าสุด เป็นการอ้างงานวิจัยของ ดร.ปีแอร์ คอรี และกลุ่ม Front Line COVID-19 Critical Care Alliance ซึ่งสนับสนุนการใช้ยา Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในสหรัฐฯ เนื้อหากล่าวถึงผลการวิจัยในเมืองอิตาไชอิของประเทศบราซิลซึ่งพบว่า การใช้ยา Ivermectin ลดการติดเชื้อโควิด-19 ได้ถึง 50%, ลดการรักษาตัวในโรงพยาบาลจากโควิด-19 ได้ถึง 67% และลดการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ถึง 70%

อย่างไรก็ดี งานวิจัยของดร.ปีแอร์ คอรี สร้างเสียงวิจารณ์เรื่องความไม่โปร่งใสตั้งแต่ก่อนการตีพิมพ์ ทั้งปัญหาด้านการติดตามการใช้ยาในกลุ่มตัวอย่าง, ไม่มีการพิจารณาผลกระทบจากตัวแปรกวน และพบว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้วิจัยและบริษัทผู้ผลิตยา Ivermectin

งานวิจัยของ ดร.ปีแอร์ คอรี ได้รับการเผยแพร่ทางวารสารงานวิจัย Cureus เมื่อวันที่ 15 มกราคมปี 2022 ซึ่งถือเป็นวารสารที่เปิดให้ผู้วิจัยนำผลงานมาเผยแพร่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในระยะเวลาที่สั้นกว่าวารสาร peer-reviewed เจ้าอื่นๆ

การตื่นตัวต่อยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทำให้นักวิทยาศาสตร์นำยา Ivermectin มาศึกษาประสิทธิผลในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างแพร่หลาย

หนึ่งในงานวิจัยชิ้นล่าสุด คืองานวิจัยที่ใช้การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมที่น่าเชื่อถือจากประเทศมาเลเซีย และได้รับการเผยแพร่ทางวารสารงานวิจัย JAMA Internal Medicine เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ปี 2022 ผู้วิจัยพบว่า การใช้ยา Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ระยะเริ่มต้นจำนวน 490 คน ไม่พบว่าตัวยามีประโยชน์ในการป้องกันการป่วยหนักจากการติดเชื้อโควิด-19 และพบว่า 21.6% ของคนไข้กลุ่มที่ใช้ยา Ivermectin ลงเอยด้วยการป่วยหนักจากโควิด-19 แต่คนไข้ในกลุ่มควบคุมที่ไม่ใช้ยา Ivermectin มีอัตราการป่วยหนักจากโควิด-19 เพียง 17.3% เท่านั้น

ดร.สตีเวน ชี ลูน ลิม แพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาล Raja Permaisuri Bainun Hospital ในมาเลเซีย และผู้ร่วมวิจัยชิ้นนี้ ชี้แจงว่าการศึกษาของตนพิสูจน์คือการว่า Ivermectin ไม่ใช่ยาวิเศษเหมือนที่ผู้คนกล่าวอ้าง ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ควรเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที การหลงเชื่อข้อมูลเท็จแล้วตัดสินใจรักษาตัวเองด้วยยาที่ไร้ประสิทธิผล จะทำให้การรักษาเป็นไปอย่างล่าช้าและอาการป่วยจะรุนแรงยิ่งขึ้น

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.factcheck.org/2022/03/scicheck-evidence-still-lacking-to-support-ivermectin-as-treatment-for-covid-19/
https://healthfeedback.org/claimreview/ivermectin-wasnt-shown-more-effective-than-remdesivir-contrary-to-claim-by-john-campbell/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

จับตา ครม.เศรษฐา 2 โผเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์

จับตา “ครม.เศรษฐา 2” โผเพื่อไทยเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์ รอตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรี “สุทิน-หมอชลน่าน-ไชยา-เกรียง” ส่อหลุดเก้าอี้ ด้าน “ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. อีก 1 ตำแหน่ง เป็นของ “ไผ่ ลิกค์”

“ดาว บ้านดอน” ลูกทุ่งดัง ล้มในห้องน้ำ

“ดาว บ้านดอน” วัย 76 ปี เจ้าของผลงานเพลงดัง ประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ ล่าสุดลุกนั่งได้ ลืมตาได้ และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

“บิ๊กต่าย” เซ็นให้ “บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง” ออกจากราชการไว้ก่อน

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีอาญา

แพทย์ห่วง ด.ต.ปิยนันท์ มีเลือดคั่งในสมอง

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขอบคุณประชาชน เปิดทางเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ รักษา รพ.ตำรวจ ขณะที่แพทย์รับห่วง พบยังมีเลือดคั่งในสมอง เตรียมผ่าตัดสมองซ้ำนำเลือดที่คั่งออก