ชัวร์ก่อนแชร์: FDA ปกปิดความปลอดภัยวัคซีน Pfizer พบฉีดแล้วตายนับพัน จริงหรือ?

11 พฤษภาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Factcheck.org / Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:


  1. ข้อมูลวัคซีน Pfizer ที่ FDA เปิดเผยไม่อาจใช้เป็นหลักฐานด้อยค่าวัคซีนได้ เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันว่าการเสียชีวิตและอาการข้างเคียงทั้งหมดมีสาเหตุจากวัคซีน
  2. ความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลของ FDA เนื่องจากมีเอกสารให้ตรวจสอบกว่า 329,000 หน้า

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) พยายามปกปิดปัญหาความปลอดภัยของวัคซีนโควิด 19 จากบริษัท Pfizer-BioNTech โดยข้อมูลบางส่วนที่เปิดเผยออกมา ระบุว่าวัคซีนโควิด 19 ของ Pfizer ทำให้ผู้รับวัคซีนเสียชีวิตถึง 1,223 คน และมีการระบุรายชื่ออาการข้างเคียงจากวัคซีนถึง 1,291 รายการ ทำให้กลุ่มต่อต้านวัคซีนนำประเด็นดังกล่าวไปโจมตีความปลอดภัยของวัคซีนอย่างแพร่หลาย

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


เมื่อองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ให้การรับรองแบบเต็มรูปแบบแก่วัคซีนโควิด 19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech ไปเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมปี 2021 ข้อมูลการขึ้นทะเบียนชีววัตถุหรือ Biologics license application (BLA) ยังคงถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน จนกระทั่งศูนย์วิจัยและประเมินผลทางชีววิทยา (CBER) ของ FDA ได้นำข้อมูลส่วนหนึ่งมาเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มีนาคมปี 2022 ที่ผ่านมา

เนื้อหาที่นำมาเปิดเผย ได้แก่ข้อมูลด้านการตรวจสอบความปลอดภัยของวัคซีน Pfizer ในช่วง 3 เดือนแรกหลังวัคซีนได้รับการอนุมัติแบบฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเอกสารจำนวน 38 หน้า และรายชื่ออาการไม่พึงประสงค์ที่ต้องเฝ้าระวังจากการใช้วัคซีน Pfizer จำนวน 9 หน้า

รายงานระบุว่า ในระหว่างเดือนธันวาคมปี 2020 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากผู้รับวัคซีน Pfizer ใน 63 ประเทศทั่วโลกจำนวน 42,086 ครั้ง และมีรายงานการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน Pfizer ทั่วโลกจำนวน 1,223 ครั้ง โดยข้อมูลไม่ได้ระบุว่า ยอดการฉีดวัคซีนทั้งหมดเป็นจำนวนเท่าใด

การเปิดเผยดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มต่อต้านวัคซีน ทั้งองค์กร Children’s Health Defense ของ โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้, ยูทูเบอร์ จอห์น แคมป์เบล, ผู้ประกาศข่าว ลิซ เวลเลอร์ รวมถึงหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน นำประเด็นดังกล่าวไปโจมตีความปลอดภัยของวัคซีนโควิด 19 ของ Pfizer อย่างแพร่หลาย

อย่างไรก็ดี เอกสารดังกล่าวไม่อาจใช้เป็นข้อมูลโจมตีความปลอดภัยของวัคซีนได้ เนื่องจากข้อมูลนำมาจากระบบรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีนในประเทศต่างๆ เช่น VAERS ของสหรัฐอเมริกา และ Yellow Card Scheme ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นรายงานอาการไม่พึงประสงค์เบื้องต้น ที่ยังไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าการเสียชีวิตหรืออาการไม่พึงประสงค์เป็นผลจากวัคซีนโดยตรงหรือไม่

ยังมีการอ้างว่า อาการข้างเคียงจากวัคซีนจำนวน 1,291 รายการ ที่ระบุเอาไว้ในเอกสารแบบเรียงตามตัวอักษร คือเหตุผลให้เชื่อว่าวัคซีนโควิด 19 ของ Pfizer ไม่มีความปลอดภัย แต่ ดร.พอล เบนนิงเจอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย Tufts University ชี้แจงว่า รายการดังกล่าวเป็นรายชื่ออาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดจากการใช้วัคซีน ซึ่งทาง Pfizer เฝ้าติดตามและให้ความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ใช่อาการข้างเคียงหลังจากฉีดวัคซีนทั้งหมดตามที่กล่าวอ้าง ดร.พอล เบนนิงเจอร์ยังให้ความเห็นว่า รายงานอาการข้างเคียงจะต้องนำเสนอในรูปแบบของบทความวิเคราะห์ ไม่ใช่การนำเสนอข้อมูลแบบเรียงรายชื่อตามตัวอักษรเช่นนี้

ส่วนข้ออ้างที่ว่าองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) พยายามปกปิดปัญหาด้านความปลอดภัยของวัคซีนโควิด 19 บริษัท Pfizer-BioNTech ก็ไม่เป็นความจริง เพราะความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลมาจากความไม่พร้อมของ FDA ในการรับมือกับข้อมูลจำนวนมหาศาลของบริษัท Pfizer จนถูก Public Health and Medical Professionals for Transparency Documents (PHMPT) หน่ายงานที่ตรวจสอบความโปร่งใสของบุคลากรและหน่วยงานด้านสาธารณสุข ทำการกดดันให้ FDA เร่งเปิดเผยข้อมูลของวัคซีนแก่สาธารณชน

PHMPT อ้างกฎหมายเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร (FOIA) เพื่อเรียกร้องให้ FDA เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 จากบริษัท Pfizer-BioNTech ต่อสาธารณชนทั้งหมด หลังจาก FDA ให้การรับรองแบบเต็มรูปแบบกับวัคซีนของ Pfizer ได้เพียง 4 วัน

แต่การที่เอกสารทั้งหมดมีจำนวนรวมกันกว่า 329,000 หน้า จึงต้องใช้เวลาอย่างมากในการตรวจสอบแก้ไขข้อมูลเพื่อการนำเสนอต่อสาธารณชน โดย PHMPT เรียกร้องให้ FDA เปิดเผยเอกสารจำนวน 80,000 หน้าต่อเดือน แต่ทาง FDA ยืนยันว่าสามารถเปิดเผยเอกสารได้เพียง 500 หน้าต่อเดือน เนื่องจากมีพนักงานตรวจสอบไม่เพียงพอ และยังต้องแบ่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเอกสารอื่นๆ อีกด้วย

PHMPT ประเมินว่า หาก FDA เปิดเผยเอกสาร 500 หน้าต่อเดือน จำเป็นต้องใช้เวลาถึง 55 ปีกว่าเอกสารทั้งหมดจะเผยแพร่สู่สาธารณชนอย่างสมบูรณ์ PHMPT จึงตัดสินใจยืนคำร้องต่อศาลของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เมื่อเดือนกันยายนปี 2021

โดยวันที่ 6 มกราคมปี 2022 ศาลในเขตนอร์ธ เท็กซัส พิจารณาว่า แม้การเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดในเวลาอันสั้นจะเป็นภาระที่ยากลำบาก แต่ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อสาธารณชนอย่างยิ่งยวด จึงมีคำสั่งให้ FDA เปิดเผยเอกสารเป็นงวดๆ เดือนละ 55,000 หน้า ซึ่งคาดว่าเอกสารทั้งหมดจะได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชนในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้

ดร.พอล เบนนิงเจอร์ วิจารณ์ท่าทีของ FDA ว่าทำตัวอยู่เหนือความขัดแย้งท่ามกลางกระแสกดดันของกลุ่มต่อต้านวัคซีนโควิด 19 และคิดว่า FDA ควรมีแนวทางดำเนินงานที่เน้นความโปร่งใสขององค์กรมากกว่านี้

ทันทีที่ PHMPT นำข้อมูลวัคซีนโควิด 19 ของ Pfizer จาก FDA ไปโพสต์ทางเว็บไซต์ ก็มีการนำข้อมูลดังกล่าวไปบิดเบือนกลายเป็นข่าวปลอมที่เผยแพร่ทางโลกออนไลน์ในเวลาต่อมาอย่างแพร่หลาย

แม้ PHMPT จะได้ชื่อว่าเป็นหน่วยงานที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากหลายวงการ แต่สมาชิกบางรายก็ได้รับการจับตาเรื่องการเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง ทั้ง ดร.ไรอัน โคล นักพยาธิวิทยาผู้อ้างโดยไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนโควิด 19 ทำให้ป่วยเป็นมะเร็ง และ ดร.สเตลลา อิมมานูเอล ผู้สนับสนุนการใช้ยา Hydroxychloroquine รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ก็เคยอ้างว่ามียาบางชนิดผลิตจาก DNA ของมนุษย์ต่างดาว

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.factcheck.org/2022/03/scicheck-posts-misinterpret-pfizer-covid-19-vaccine-safety-monitoring-document/
https://healthfeedback.org/claimreview/pfizers-confidential-document-shows-adverse-events-reported-following-vaccination-it-doesnt-demonstrate-vaccine-caused-events-or-is-unsafe/

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้