ชัวร์ก่อนแชร์: ยอดเสียชีวิตโควิด-19 จงใจทำให้สูงเกินจริง จริงหรือ?

10 พฤษภาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. ข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่ารายงานการเสียชีวิตจากโควิด-19 น้อยกว่าความเป็นจริง,
  2. เครื่องช่วยหายใจไม่ใช่สาเหตุให้ผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต
  3. ไม่พบหลักฐานว่าโรงพยาบาลในสหรัฐฯ เพิ่มยอดผู้ป่วยโควิดเพื่อหวังเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในสหรัฐอเมริกา โดย Epoch Times เว็บไซต์ที่มีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 ได้ตีพิมพ์บทความของ โจเซฟ เมอร์โคลา ผู้ที่ศูนย์ Center for Countering Digital Hate ยกให้เป็นเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพื่อการต่อต้านวัคซีนที่เลวร้ายที่สุด โดยเขาแสดงความเห็นว่ายอดการเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงเกินความเป็นจริง เพราะแพทย์จงใจรวมการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อที่มีโรคประจำตัวให้มีสาเหตุการตายจากโควิด-19 ทั้งหมด โดยตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่ มาจากการทำงานที่บกพร่องของเครื่องช่วยหายใจ และมีความพยายามของโรงพยาบาลในสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มยอดผู้ป่วยโควิด-19 เนื่องจากจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ มากกว่าการรักษาผู้ป่วยทั่วไป

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


จากการตรวจสอบโดย Science Feedback พบว่าข้ออ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง และสามารถแยกเป็นประเด็นได้ดังนี้

  1. การแจ้งยอดเสียชีวิตจากโควิด 19 สูงเกินความเป็นจริง (ข้อมูลเท็จ)

ข้ออ้างของ โจเซฟ เมอร์โคลา นำมาจากคลิปวิดีโอ Freedom of information revelation โดย จอห์น แคมป์เบล อดีตพยาบาลเวชปฏิบัติที่อ้างว่า ยอดยอดเสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรสูงเกินความเป็นจริง เนื่องจากผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ที่มีโรคประจำตัวจะถูกนับว่าเสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งหมด ซึ่งจอห์น แคมป์เบลและโจเซฟ เมอร์โคลาต่างมองว่า ผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 โดยไม่มีปัจจัยเสริมอื่นๆ เท่านั้น ที่ควรจัดว่าเสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรจัดอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19

แต่การอ้างดังกล่าวขาดซึ่งเหตุและผล เพราะผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ที่มีโรคประจำตัวส่วนใหญ่ อาจไม่ต้องจากไปหากพวกเขาไม่ติดเชื้อโควิด-19 ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะป่วยหนักหรือเสียชีวิตหากติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 และมีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว จะมีสาเหตุการเสียชีวิตจากโควิด-19 ไม่ใช่เพราะเป็นโรคเบาหวาน

ในความเป็นจริงแล้ว วงการแพทย์ทั่วโลกต่างประเมินว่ายอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ถูกรายงานต่ำกว่าความเป็นจริง โดยผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ ประเมินว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ สูงกว่ารายงานอย่างเป็นทางการประมาณ 20% ส่วนผลวิจัยในอินเดียที่เผยแพร่ทางวารสาร Science ประเมินว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียที่สำรวจจนถึงเดือนกันยายนปี 2021 สูงกว่ารายงานอย่างเป็นทางการ 6 ถึง 7 เท่า

  1. ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเป็นจำนวนมากเพราะเครื่องช่วยหายใจทำงานบกพร่อง (ข้อมูลเท็จ)

โจเซฟ เมอร์โคลา อ้างบทความจากเว็บไซต์ข่าวสุขภาพ STAT News เมื่อวันที่ 8 เมษายนปี 2020 ที่พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลในนครนิวยอร์ก ซิตี้เสียชีวิตถึง 80%

อย่างไรก็ดี รายงานของ STAT News ไม่ได้บอกว่าผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพราะการใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่รายงานว่า เมื่อแพทย์มีความเข้าใจเกี่ยวกับโควิด-19 มากขึ้น จึงลงความเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีค่าออกซิเจนในกระแสเลือดในระดับ 93% ใช้เครื่องช่วยหายใจเสมอไป และมีการกำหนดค่าออกซิเจนในกระแสเลือดที่เหมาะสมต่อการใช้เครื่องช่วยหายใจให้ต่ำลงกว่าเดิม

แม้ในรายงานข่าวจะกล่าวถึงประเด็นที่พบว่า เครื่องช่วยหายใจไม่มีผลต่อการยื้อชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ระยะสุดท้าย และอาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยบางราย แต่ในรายงานข่าวไม่ได้บอกว่าเครื่องช่วยหายใจคือสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 แต่อย่างใด

ข้ออ้างที่บอกว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลในนครนิวยอร์ก ซิตี้เสียชีวิตถึง 80% นำมาจากงานวิจัยที่เผยแพร่ทางวารสารงานวิจัย JAMA เมื่อวันที่ 22 เมษายนปี 2020 ที่พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาล Northwell Health ในนครนิวยอร์ก ซิตี้เสียชีวิตถึง 88%

อย่างไรก็ดี หลังงานวิจัยเผยแพร่ไปเพียง 2 วัน ก็มีการแก้ไขจำนวนผู้เสียชีวิตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจจาก 88% เหลือเพียง 24.5%

สอดคล้องกับงานวิจัยที่เผยแพร่ทางวารสารงานวิจัย ATS เมื่อเดือนเมษายนปี 2020 ที่พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาล Massachusetts General Hospital ในเมืองบอสตันเสียชีวิตไม่ถึง 17%

แม้เครื่องช่วยหายใจจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ แต่หน้าที่ของเครื่องช่วยหายใจคือการช่วยให้ผู้ป่วยมีออกซิเจนเพียงพอระหว่างการรักษาตัว ไม่ได้มีหน้าที่ช่วยให้ผู้ป่วยหายจากโควิด 19

  1. โรงพยาบาลพยายามเพิ่มยอดผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อหวังเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล (ทำให้เข้าใจผิด)

โจเซฟ เมอร์โคลา อ้างว่าโรงพยาบาลหลายแห่งในสหรัฐฯ พยายามเพิ่มยอดการตรวจหาเชื้อโควิด-19, ยอดการพบเชื้อโควิด-19, ยอดการรับผู้ป่วยโควิด-19, ยอดการใช้ยารักษาผู้ป่วยโควิด-19, ยอดการใช้เครื่องช่วยหายใจ และยอดการเสียชีวิตจากโควิด-19 เพื่อหวังเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ

ศูนย์บริการด้านประกันสุขภาพของสหรัฐ (CMS) จะจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่าผู้ป่วยอื่นๆ ประมาณ 20% และให้เงินช่วยเหลือผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจมากกว่าผู้ป่วยทั่วไปถึง 3 เท่า และยังสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับยารักษาโควิด-19 ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ทั้ง Remdesivir, Molnupiravir, Baricitinib, Paxlovid รวมถึงพลาสม่าจากผู้ป่วยโควิด-19

แม้จะเป็นจริงที่ว่า โรงพยาบาลในสหรัฐฯ จะทำเงินจากระบบประกันสุขภาพได้มากกว่า หากรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่ไม่หลักฐานว่ามีโรงพยาบาลบิดเบือนยอดผู้ป่วยโควิด-19 ให้สูงเกินจริงเพื่อหวังกำไร เพราะการรายงานยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิด-19 มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ยังคาดว่ายอดผู้ป่วยโควิด-19 ในสหรัฐฯ ต่ำกว่าความเป็นจริงจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อ

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/claim-covid-19-deaths-vastly-overcounted-baseless-evidence-suggests-the-opposite-joseph-mercola-epoch-times/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย