“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่สุรินทร์ เยี่ยมประชาชนศูนย์อพยพ-คุยผู้ว่าฯ

กทม. 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ควง “มาริษ-จิราพร” เปลี่ยนลงพื้นที่สุรินทร์ เยี่ยมประชาชนศูนย์อพยพ-คุยผู้ว่าฯ 4 จังหวัด ก่อนส่งประชาชนกลับบ้านวันนี้ และทยอยปิดศูนย์ ย้ำใช้งบกลางเยียวยาเพิ่ม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทาง ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยเปลี่ยนจากกำหนดการเดิมที่จะไปจังหวัดศรีสะเกษว่า ในพื้นที่ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยกลับบ้านแล้ว และเรายังมีความเป็นห่วงอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว จึงไปที่จังหวัดสุรินทร์ เพราะยังมีประชาชนที่อาจไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ จึงเลือกไปที่นี่เพื่อจะชี้แจง สถานการณ์ต่างๆ ให้ประชาชนเข้าใจ และยังมีอีกหลายภารกิจ ผู้สื่อข่าวถามว่าหากลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์วันนี้ พบเห็นสภาพพื้นที่ สามารถให้จังหวัดดำเนินการส่งกลับบ้านได้เลยหรือไม่ หรือจะพิจารณาเป็นรายศูนย์อพยพ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้สรุปภาพรวมไว้อยู่แล้ว โดยให้กรมการปกครอง ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ อบต.ต่างๆ ลงไปสำรวจสภาพ และคิดว่าสามารถส่งกลับได้ในวันนี้ และวันนี้ ได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดอีสานใต้ เพื่อวางแผนเตรียมการให้เรียบร้อย โดยหากวันนี้ลงไปดูแล้วเรียบร้อยวันพรุ่งนี้เช้า คงทยอยปิดศูนย์อพยพ และเดินทางกลับได้ ยกเว้นบ้านที่ เสียหายยังไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้ จะหามาตรการช่วยเหลือต่อไป เมื่อถามว่า บ้านบางหลังเสียหายทั้งหมดจะมีการเพิ่มเติมมาตรการเยียวยาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ให้ดูระเบียบและจะปรับปรุง […]

“ภูมิธรรม” ยันไม่ได้ปิดศูนย์อพยพ เหตุสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย

ทำเนียบ 5 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ยันไม่ได้ปิดศูนย์อพยพให้ประชาชนกลับบ้าน เหตุสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย ย้ำสั่งผู้ว่าฯ ดูแลชีวิต-ทรัพย์สิน ขู่จัดการคนดึงงบฯ ลั่นไม่มีสิทธิทำให้เกิดปัญหา ส่วนเงินเยียวยารอดูรายละเอียด ชี้อาจน้อยกว่า 8-10 ล้านบาท นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการเสียชีวิตของทหารกัมพูชา จากการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า หลักพันคน ได้รับรายงานมาหรือไม่ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฟังมาจากข่าว เราไม่มานั่งรายงานเรื่องนี้ ซึ่งไม่ทราบว่าความจริงแล้วทหารกัมพูชาเสียชีวิตเท่าไหร่ เพราะการชนะ หรือแพ้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนการเสียชีวิตของทหาร และเราให้เกียรตินักรบทุกคนที่อยู่ในสมรภูมิ ซึ่งไม่ควรเอาเรื่องการเสียชีวิตของคนมาเล่นประเด็น ขณะที่กระแสข่าวเรื่องการปิดศูนย์อพยพ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่จริง เพราะขณะนี้ทหารยังไม่อนุญาตให้ประชาชนกลับเข้าพื้นที่ และหากพบว่า มีความบกพร่อง หรือการจัดการที่ไม่ถูกต้องก็ต้องถูกพิจารณาไม่ว่าใครก็ตาม ที่ทำให้เป็นปัญหาด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ เพราะไม่มีสิทธิที่จะมาทำอะไรให้เป็นปัญหา พร้อมย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ยังไม่ปลอดภัย โดยได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดจัดการดูแลชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนตามสมควร และหากตรงไหนยังไม่มีดึงงบฯ ไว้ตามที่เป็นข่าว ก็ต้องไปจัดการ เช่นเดียวกับกรณีที่มีการตั้งกระทู้ในสภาฯ ถามนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย […]

ตรวจสอบความเสียหายพื้นที่แนวปะทะ จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่แนวปะทะ จ.สุรินทร์ พบกระสุนปืนใหญ่แบบจรวดของกัมพูชากว่า 100 ลูก ส่วนใหญ่จะตกลงในหมู่บ้าน ถนน และพื้นที่ทางการเกษตร ไม่พบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มเติม บรรยากาศที่ศูนย์อพยพแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ที่รองรับผู้อพยพมากกว่า 8,000 คน ทางเจ้าหน้าที่ยังช่วยกันดูแลและจัดอาหาร ให้ประชาชนครบ 3 มื้อ ซึ่งเป็นภาพกิจวัตรประจำวันของผู้อพยพและเจ้าหน้าที่ ต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยเข้าสู่วันที่ 10 ประชาชนส่วนใหญ่ เริ่มปรับตัวได้ และเข้าใจสถานการณ์ แต่อยากให้ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และตลอดทั้งวัน มีประชาชน ทั้งภาครัฐและเอก นำสิ่งของมามอบให้ผู้อพยพเพื่อให้กำลังใจ โดยเฉพาะมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่นำที่นอน อาหารแห้งและเครื่องใช้จำเป็นอย่างรองเท้าแตะมามอบให้ ทั้งนี้ศูนย์อพยพแห่งนี้มีพื้นที่บริเวณกว้างจึงทำให้ครอบครัวรวมไปถึงผู้อพยพได้ทำกิจกรรมร่วมกันทั้ง การเล่นกีฬาออกกำลังกายอีกทั้งในบริเวณศูนย์แห่งนี้ยังมีจิตอาสา นำหนังกลางแปลงเข้ามาฉายเพื่อสร้างความบันเทิง และผ่อนคลายให้กับประชาชนในศูนย์อพยพ โดยเจ้าของหนังกลางแปลงใน จ.สุรินทร์ ที่ทำอาชีพนี้ มาแล้วกว่า 40 ปี ให้ข้อมูลว่า ด้วยความเป็นคนพื้นที่ อยากช่วยเหลือประชาชนในสิ่งที่ตนเองทำได้และถนัดจึงเดินทางมามอบความบันเทิงให้กับผู้อพยพในศูนด้วยการฉายภาพยนตร์โดยจะเริ่มฉายตั้งแต่ฟ้ามืดจนถึงเวลาประมาณ 23.00 น. และนำสิ่งของมามอบเป็นกำลังใจให้กับผู้อพยพอีกด้วย ส่วนบรรยายกาศในพื้นที่ปะทะ ในจังหวัดสุรินทร์ วันนี้เจ้าหน้าที่ปกครอง […]

“อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนบ้านกรวด ให้กำลังใจทหาร-ชรบ.

บุรีรัมย์ 2 ส.ค.-“อนุทิน” ควง “ซาบีดา-สส.ภูมิใจไทย” ลงพื้นที่ชายแดนบ้านกรวด ให้กำลังใจ ทหาร-ชรบ. เผยคุยกับนายอำเภอในพื้นที่ แนะให้ชาวบ้านอยู่ศูนย์อพยพพ้นวันที่ 4 ส.ค.ไปก่อน แม้วันนี้สถานการณ์ดีขึ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย และสส.ของพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ชายแดนบริเวณ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ขณะนี้ยังได้รับคำแนะนำจากนายอำเภอ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่เป็นหลัก ว่าถ้าใครยังอยู่ที่ศูนย์อพยพขอให้อยู่เลยวันที่ 4 ส.ค. ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไปก่อน แม้สถานการณ์ในขณะนี้จะดีขึ้น แต่เรายังต้องเฝ้าระวังเรื่องโดรนกันอย่างเต็มที่ เพราะยังมีการบินเข้ามา ซึ่งมีวัตถุประสงค์อย่างไรต้องรอฝ่ายทหารเป็นผู้ประเมิน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ไทยก็ต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเท่าที่จะทำได้ ขณะที่ สส.ในพื้นที่ก็ทำหน้าที่ดูแลชาวบ้าน ขอร้องให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย.-315.-สำนักข่าวไทย

ระดมจิตอาสาด้านการแพทย์ ดูแลผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพ

ทำเนียบ 30 ก.ค.-รัฐบาล ระดมจิตอาสาด้านการแพทย์ดูแลผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพชายแดนไทย-กัมพูชา พบ 24-29 ก.ค. ประชาชนมีภาวะเครียดสูง 293 ราย นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังคงมีความตึงเครียด ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 38 ราย ในจำนวนนี้ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 11 ราย โดยมีผู้ป่วยอาการหนัก 8 ราย และอาการปานกลาง 3 ราย ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลในพื้นที่ 20 แห่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โดย 11 แห่งต้องปิดให้บริการ และอีก 9 แห่งให้บริการเฉพาะกรณีฉุกเฉิน ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับผลกระทบรวม […]

เสียงสะท้อน หลังระเบิดเงียบลง

ศรีสะเกษ 29 ก.ค. – แม้เสียงระเบิดเงียบลงแล้ว แต่เสียงสะท้อนของชาวบ้านยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ ขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งกลับเข้าสำรวจบ้านเรือน แต่เมื่อได้รับการประชาสัมพันธ์จากทางการ ก็กลับเข้ามาที่ศูนย์อพยพอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

แม่หลั่งน้ำตา รู้ข่าวลูกชายพลีชีพในสนามรบ

บุรีรัมย์ 29 ก.ค. – เจ้าหน้าที่แจ้งข่าวร้ายลูกชายเสียชีวิตในสนามรบที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้เป็นแม่ถึงกลับหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ สร้างความสะเทือนใจให้กับเพื่อนร่วมศูนย์อพยพ หลังจากแม่ของพลทหารธีรยุทธ กระจ่างทอง อายุ 22 ปี ซึ่งเดินทางไปสู้รบแนวชายแดนด้านจังหวัดศรีสะเกษ และเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ก.ค.) คลายความโศกเศร้าลง ชาวบ้านที่พักอยู่ศูนย์อพยพวัดตาไก้พลวง ต.ตาไก้ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ต่างเอาด้ายมาผูกข้อมือเพื่อให้กำลังใจนางติน และนายกิมแดง กระจ่างทอง ผู้เป็นแม่และพ่อของพลทหารธีรยุทธ น.ส.หอมจันทร์ กระจ่างทอง พี่สาวพลทหารธีรยุทธ เล่าว่า น้องชายติดต่อมาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม บอกครอบครัวไม่ต้องเป็นห่วง ปลอดภัยดี แต่พอช่วงเช้าของวันนี้ (29 ก.ค.) ได้รับโทรศัพ์จาก ผบ.ร้อยประจำหน่วย ว่าพลทหารธีรยุทธ ได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว “ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย” ส่วนสถานการณ์ทั่วไปตามแนวชายแดนด้านจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังกันอยู่แม้จะมีผลการหารือระดับตัวแทนกองทัพทั้ง 2 ฝ่าย ออกมา 7 ข้อก็ตาม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ส่งหนังสือไปยังนายอำเภอชายแดนอ้างถึงกองทัพภาคที่ 2 แจ้งว่า”ขอให้ประชาชนงดเดินทางกลับภูมิลำเนาพื้นที่ใกล้ชายแดนจนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ”.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านเข้าสำรวจความเสียหายในบ้านเรือน

สุรินทร์ 29 ก.ค. – ผู้อพยพใน จ.สุรินทร์ เริ่มกลับเข้าไปสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย มีบางส่วนตกสำรวจเนื่องจากช่วงชุลมุนและหนีเอาชีวิตรอดออกมา วันนี้ได้กลับเข้าไปสำรวจ เพื่อนำข้อมูลไปรับการช่วยเหลือต่อไป ทีมข่าวรับแจ้งการตกสำรวจความเสียหายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอปราสาท จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบซึ่งเป็นบ้านที่ตกสำรวจยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล จึงพาทีมข่าวเข้าไปสำรวจ โดยเจ้าของบ้านไปให้ข้อมูลว่าบ้านตนได้รับความเสียหาย จากแรงระเบิด ช่วงเช้าวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ลูกกระสุนเป็นของจรวด BM-21 ได้ตกใส่ห้องน้ำข้างบ้านทำให้ห้องน้ำพังท่อน้ำแตกไม่สามารถใช้การได้ เจ้าของบ้านยังเล่าวินาทีที่ระเบิดเฉียดตนเองไปเพียง 100 เมตร โดยให้ข้อมูลว่าในขณะนั้นเป็นช่วงเวลา 06.00 น. ซึ่งตนยืนอยู่ข้างบ้านจากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นทำให้ตัวเองหมอบเอาชีวิตรอดและวิ่งออกจากพื้นที่ ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดผวา เมื่อได้ยินเสียงดัง ซึ่งในขณะเดียวกันหมู่บ้านของตนก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ทั้งหมด 25 จุด ซึ่งบ้านของตนได้ตกสำรวจวันนี้จึงเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอเยียวยาความช่วยเหลือกับหน่วยงานภาครัฐต่อไป จากนั้นทีมข่าวเดินทางมายังศูนย์อพยพแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งพบกับประชาชนที่อพยพมาเป็นจำนวนมาก ให้ข้อมูลว่า ได้ทางมาพักที่ศูนย์ เข้าสู่คืนที่ 6 เริ่มปรับตัวได้ แต่ยังเป็นห่วงทรัพย์สินในบ้านเรือน แต่เพื่อความไม่ประมาทจึงรอคำสั่งจากทางรัฐบาลและกองทัพ ในขณะเดียวกัน ได้มีประชาชนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางมามอบสิ่งของเพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้อพยพโดยเฉพาะพระสงฆ์ เป็นตัวแทนเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เมตตาห่วงใยและให้ความช่วยเหลือเป็นกำลังใจแก่ทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดนนำโดยพระมหาต่อ รักษาการเจ้าอาวาสวัดแจ้งในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกจิดังแห่งจังหวัดนครราชสีมาที่แม่ทัพภาคที่ 2 ให้ความเคารพนับถือ และให้ข้อมูลว่า […]

มท. เตือนประชาชนชะลอกลับเข้าที่พัก รอฝ่ายมั่นคงยืนยัน

กทม 29 ก.ค.-มท.ร่อนหนังสือด่วน ถึงผู้ว่าฯ ชายแดน เตือนประชาชนชะลอการกลับเข้าที่พัก​ จนกว่าจะได้รับการยืนยันจากฝ่ายความมั่นคง​ ยึดหลักปฏิบัติ “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” กระทรวงมหาดไทย​ ออกโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย​ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นหนังสือด่วนที่สุด​ ที่ มท ​0231/ว จาก ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา กระทรวงมหาดไทย ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนด้านกัมพูชา 7 จังหวัด ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงว่าหลังจากเวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ยังมีเหตุการณ์ ยิงปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง ในคราวประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ครั้งที่ 22/2568 วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 มีมติให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งผู้ว่าราชการ จังหวัดชายแดนด้านกัมพูชาสร้างการรับรู้ให้ประชาชนผู้อพยพในศูนย์พักพิงชั่วคราวชะลอการกลับเข้าที่พักอาศัย จนกว่าจะได้รับการยืนยันจากฝ่ายความมั่นคง และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนด้านกัมพูชาในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านกัมพูชาจังหวัดดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวอย่างต่อเนื่อง และยึดหลักปฏิบัติ “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ในระดับสูงสุด.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.2 ลงพื้นที่อุบลราชธานี สั่งการ ชรบ. ดูแลป้องกันหมู่บ้าน

อุบลราชธานี 27 ก.ค. – มท.2 ลงพื้นที่ศูนย์อพยพชายแดนไทย–กัมพูชา จ.อุบลราชธานี สั่งการชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ดูแลความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนในศูนย์อพยพชายแดนไทย–กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ได้เดินทางลงพื้นที่พบปะและให้กำลังใจประชาชน พร้อมรับทราบข้อมูลว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเรือน ขณะนี้ได้สั่งการให้ระดมกำลังจากท้องถิ่น ทั้งผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน รวมถึงชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และอาสาสมัคร (อส.) เข้าดูแลความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ นางสาวธีรรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 1,000,000 บาท กรณีทุพพลภาพ 700,000 บาท และกรณีบาดเจ็บสาหัส 200,000 บาท – 716. – สำนักข่าวไทย

ครอบครัวรับร่าง ส.อ.นพพล วีรชนทหารกล้า

อุบลราชธานี 27 ก.ค.-ครอบครัวรับร่าง ส.อ.นพพล เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องปราสาทตาควาย ส่วนพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีเสียงปืนใหญ่ดังเป็นระยะ ส่วนศูนย์อพยพ ยังขาดเบาะปูนอน และมุ้ง ช่วงคืนที่ผ่านมา บรรยากาศที่วัดสุสานไตรลักษณ์ จ.อุบลราชธานี เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและภาคภูมิใจของครอบครัว ที่ได้รับร่าง ส.อ.นพพล บุญเลิศ วีรบุรุษจากกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ จากการปะทะกับทหารกัมพูชา เมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีครอบครัวและประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเพื่อนร่วมงานมาร่วมพิธี ด้านครอบครัวเปิดใจด้วยน้ำตา ทั้งแม่ น้องสาว และแฟนสาว ต่างยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ ส.อ.นพพล ในการเป็นทหารรับใช้ชาติ แม้จะรู้ว่าเสี่ยงอันตราย แต่ก็ไม่เคยถอย ส่วนบรรยากาศในศูนย์อพยพใน จ.อุบลราชธานี เช้านี้มีฝนตกตลอดทั้งคืน สร้างความลำบากแก่ผู้อพยพ ต้องทนต่อสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ แต่ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ และขอให้ยุติความรุนแรงเกิดขึ้นโดยเร็ว และข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ดูแลศูนย์อพยพสำหรับสิ่งของที่จำเป็นขณะนี้คือ มุ้งกันยุง รวมไปถึงเบาะสำหรับใช้ปูนอนเนื่องจากปัจจุบันชาวบ้านผู้อพยพได้ใช้เสื่อในการปู ทำให้ปวดหลัง ซึ่งตลอดช่วงเช้า ได้มีประชาชนจากนอกพื้นที่ที่ติดตามสถานการณ์ รวบรวมสิ่งของมามอบให้ […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

1 2 3
...