ธอส. เปิด 5 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ วงเงินรวม 23,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 25ก.พ.- ธอส. เตรียมกรอบวงเงินรวมอีก 23,000 ล้านบาท เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับกลุ่มพนักงานที่ประกอบอาชีพประจำ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 25,000 บาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้นต่ำสุดเพียงร้อยละ 1.75 ต่อปี ให้ชำระเงินงวดแบบขั้นบันได ตัดชำระเงินต้นและตัดชำระดอกเบี้ยทุกเดือน ลูกค้าไม่ Payment  Shock กู้ 1 ล้านบาท เงินงวดปีแรกเพียง 3,500 บาทต่อเดือน ผ่อนได้นานสูงสุด 40 ปี พิเศษฟรี!! ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ร้อยละ 0.1 ของวงเงินทำนิติกรรม


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มพนักงานที่ประกอบอาชีพประจำ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 25,000 บาทขึ้นไป ให้ได้มีที่อยู่อาศัยเพื่อความมั่นคงในชีวิตของตนเองและครอบครัวได้ง่ายมากขึ้น ภายใต้แนวคิด “Be Simple, Make it Simple” ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ได้เตรียมกรอบวงเงินอีก 23,000 ล้านบาท จัดทำ 5 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำในกลุ่ม Business Solution เพิ่มเติมจากการออก 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย (Social Solution) กรอบวงเงิน 70,000 ล้านบาท ที่ออกไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ 5 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ออกมาเพื่อให้ลูกค้าที่มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป สามารถผ่อนชำระด้วยเงินงวดที่ปรับขึ้นในจำนวนที่สอดคล้องกับรายได้แบบขั้นบันได และตัดชำระเงินต้นและตัดชำระดอกเบี้ย ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 40 ปี พิเศษ!! ลดภาระให้กับลูกค้าโดยได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ร้อยละ 0.1 ของวงเงินทำนิติกรรม

ทั้งนี้  ซึ่งมีรายละเอียดของทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์ ดังนี้ คือ 1.โครงการสินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข กรอบวงเงิน 4,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมกับวัตถุประสงค์ตามที่ธนาคารกำหนดสำหรับที่อยู่อาศัยที่มีระบบพลังงานทดแทน หรือระบบช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ช่วยลดความร้อนภายในที่อยู่อาศัย เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงาน (ECO House) อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น ปีที่ 1 เท่ากับ ร้อยละ 1.75 ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 3.40 ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 2.45 ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ ร้อยละ 2.73 ต่อปีเท่านั้น (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ร้อยละ  6.150 กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,600 บาทต่อเดือน   ยื่นคำขอกู้ อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564


 2.โครงการสินเชื่อบ้าน D Plus กรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ตั้งแต่ 2,500,000 บาท     ขึ้นไปและซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านจัดสรรที่เข้าร่วมโครงการพิเศษที่ธนาคารจัดทำขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการพิจารณาสินเชื่อให้กับลูกค้า อาทิ โครงการ Fast Track โครงการ Smart Fast Track และโครงการ Regional Fast Track เป็นต้น อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น ปีที่ 1 เท่ากับ ร้อยละ 1.99  ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 3.40 ต่อปี     ปีที่ 3 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 2.45 ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ ร้อยละ

2.81 ต่อปี กรณีกู้ 2,500,000 บาท  ผ่อนชำระเริ่มต้น 10,300 บาทต่อเดือน ยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 

 3.โครงการสินเชื่อบ้าน สร้างสมใจ กรอบวงเงิน 3,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นสมาชิกของของสมาคมไทยรับสร้างบ้าน สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และบริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด เพื่อปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย และซ่อมแซมอาคาร และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับวัตถุประสงค์ตามที่ธนาคารกำหนดโดย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น ปีที่ 1 เท่ากับร้อยละ 2.80 ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 3.05 ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 2.65 ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ ร้อยละ  3.13 ต่อปี    กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 4,200 บาทต่อเดือนยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564  อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 


4.โครงการสินเชื่อบ้าน All Home กรอบวงเงิน 6,500 ล้านบาท สำหรับลูกค้ารายที่มีวัตถุประสงค์การกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท  ปีที่ 1 เท่ากับ ร้อยละ 3.25 ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 2.65 ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 2.25 ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ ร้อยละ  3.55 ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 4,400 บาทต่อเดือน และอัตราดอกเบี้ย วงเงินกู้ 3 ล้านบาทขึ้นไป ปีที่ 1 เท่ากับ ร้อยละ  3.00 ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ MRR- ร้อยละ 2.90 ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับร้อยละ  3.33 ต่อปี กรณีกู้ 3 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,500 บาทต่อเดือน ยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 อนุมัติ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 

5.โครงการสินเชื่อบ้าน Dream Homes by GHB กรอบวงเงิน 7,500 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ไม่มีการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัย กับ ธอส. และสถาบันการเงินอื่น ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เท่ากับร้อยละ  3.25 ต่อปี ปีที่ 4-5 เท่ากับ ร้อยละ 4.15 ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,500 บาทต่อเดือน ยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564  อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 

“การออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ ธอส. ซึ่งกำหนดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวดเป็นแบบขั้นบันได จะช่วยให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระได้โดยไม่ประสบปัญหาเงินงวดสูงขึ้นเกินกว่าความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต   หรือ Payment Shock อาทิ โครงการสินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ ร้อยละ  1.75 ต่อปีจะมีเงินงวดผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,600 บาท ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย MRR- ร้อยละ 3.40 ต่อปี โดย MRR ของธนาคารในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ  6.150 อัตราดอกเบี้ยในปีที่ 2 จึงเหลือเพียงร้อยละ  2.75 ต่อปี ชำระเงินงวดเดือนละ 4,400 บาท และปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 3.70 ต่อปี เงินงวดเดือนละ 4,900 บาท ซึ่งเป็นเงินงวดที่ปรับขึ้นในระดับที่สอดคล้องกับรายได้ของผู้กู้ และจำนวนเงินงวดที่ผ่อนชำระยังเพียงพอที่จะตัดทั้งเงินต้นและตัดดอกเบี้ยในระดับที่เหมาะสม   ทำให้ลูกค้ามีโอกาสที่จะปิดบัญชีเงินกู้ได้ก่อนหรือภายในระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญาเงินกู้ได้”นายฉัตรชัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้ง 5 ประเภท มีส่วนสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง (Business Solution) ในปี 2564  ให้เป็นไปตามเป้าหมายจำนวน 75,474 ล้านบาท จากเป้าหมายสินเชื่อปล่อยใหม่รวม      215,641 ล้านบาท สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์(Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Application : GHB ALL และ www.ghbank.co.th

ฝ่ายสื่อสารองค์กร

25 กุมภาพันธ์ 2564

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]