ก.ล.ต. เตรียมทบทวนค่าธรรมเนียมเทรดหุ้น – TFEX ตามข้อร้องเรียนสมาคมโบรกฯ

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – ก.ล.ต. กับตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมหารือเพื่อพิจารณากรณีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้น เพื่อลดอุปสรรคของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตามที่ได้รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของภาคธุรกิจในการประชุมรายไตรมาสระหว่าง ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563



ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีนโยบายรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนโดยจัดประชุมร่วมกับสมาคมต่าง ๆ เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ก.ล.ต. ได้จัดประชุมรายไตรมาสกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ซึ่งสมาคมฯได้นำเสนอข้อมูลสถานการณ์การประกอบธุรกิจโบรกเกอร์ของบริษัทหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และประเด็นที่เกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ค่าคอมมิชชั่น) โดยให้ข้อมูลว่า
แม้ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ค่าคอมมิชชั่นที่บริษัทเรียกเก็บจากผู้ลงทุนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในช่วงที่ผ่านมา โบรกเกอร์ได้ลดค่าคอมมิชชั่นให้แก่ลูกค้า ส่งผลให้รายได้ของโบรกเกอร์ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้ค่าคอมมิชชั่น จึงขอให้ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พิจารณาทบทวนประเด็นดังกล่าว


ก.ล.ต. เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันของตลาดทุนไทย ก.ล.ต. ไม่มีแผนที่จะเพิ่มอัตราการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจากโบรกเกอร์ ซึ่งปัจจุบันเรียกเก็บจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ในอัตราร้อยละ 0.001 ของมูลค่าการซื้อขาย และสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในอัตรา 0.01 และ 0.10 บาทต่อสัญญา ขึ้นอยู่กับราคาหลักทรัพย์อ้างอิง ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2560 และเป็นอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมในต่างประเทศ

สำหรับค่าธรรมเนียมการซื้อขายในส่วนที่ตลาดหลักทรัพย์เรียกเก็บเพื่อเป็นค่าบริการซื้อขาย (Trading Fee) อยู่ที่อัตราร้อยละ 0.005 ของมูลค่าการซื้อขาย และค่าการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (Clearing Fee) อยู่ที่อัตราร้อยละ 0.001 ของมูลค่าการซื้อขาย รวมทั้งค่าธรรมเนียมการรักษาหลักทรัพย์ในบัญชีหลักทรัพย์ 1.50 บาท
ต่อเดือนต่อมูลค่าหลักทรัพย์คงเหลือทุกจำนวน 1 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ในส่วนค่าธรรมเนียมที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียกเก็บจากโบรกเกอร์เป็นเรื่องทางธุรกิจระหว่างตลาดหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์สมาชิก ซึ่ง ก.ล.ต. ไม่ได้เป็นผู้กำหนด

ในส่วนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX ในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจรายปี เพื่อให้สอดคล้องกับภาระและต้นทุนการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ซึ่งแปรผันตามปริมาณธุรกรรมการซื้อขายในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นมากจากในอดีต และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของตลาดทุน ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจาก TFEX เป็นอัตรา 0.05 บาทต่อสัญญาที่มีการซื้อขายใน TFEX และมีอัตราขั้นต่ำ 2 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่ TFEX ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2547 ก.ล.ต. ไม่ได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมจาก TFEX เพื่อส่งเสริมการซื้อขายในตลาด จนได้เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมในปี 2554 ซึ่งโบรกเกอร์เห็นว่า เป็นอัตราที่สูงและขอให้ปรับลดลง เนื่องจากจะทำให้เกิดการส่งผ่านค่าใช้จ่ายดังกล่าวจาก TFEX ไปยังโบรกเกอร์และต่อไปยังผู้ลงทุน


ขณะนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างดำเนินการทบทวนค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจาก TFEX โดยจะนำข้อเสนอแนะที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณา เพื่อให้ค่าธรรมเนียมอยู่ในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุน ในขณะเดียวกันก็ไม่เป็นภาระแก่ผู้เกี่ยวข้องเกินสมควร และจะยกประเด็นที่โบรกเกอร์มีข้อเสนอเรื่องค่าธรรมเนียมการซื้อขายดังกล่าว เพื่อหารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]