กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-“เท้ง” ติงไม่มีใครอยากเห็น “นิติบัญญัติ” ตีกับ “บริหาร” หลัง สว.ขู่จะยื่นถอด “ทวี” ยันข้อมูลลับ “พรรคร่วมรัฐบาล” มีแน่ อภิปราย รมต.รายบุคคล เชื่อไม่มี “สส.ประชาชน” ถูกซื้อเสียงไปเสริมทัพรัฐมนตรี เย้ย “เพื่อไทย” ผลผลักดันนโยบายไม่ได้เพราะ “พรรคร่วมฯ”
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการทำงานของรัฐบาล ว่า ที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีความเป็นเอกภาพ ล่าสุด ที่เป็นประเด็นที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการที่สภาฯล่ม จากการประชุมวาระที่หนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะมีอีกหลายประเด็นที่พวกเราได้ข้อมูลมาหลายทาง บางส่วนก็ได้รับมาจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง สิ่งต่างๆ เหล่านี้เห็นได้ชัดว่าการที่รัฐบาลขาดความมีเอกภาพ ทำให้การดำเนินนโยบายหลายอย่าง ซึ่งหลายนโยบายได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาไม่สามารถที่จะเดินหน้าเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะไปรอด 4 ปีหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น เป็นการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ซึ่งเราเองไม่เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้จะช่วยในการผลักดันนโยบายที่สำคัญเป็นนโยบายใหญ่ให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ ครึ่งเทอมที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดที่สุดแล้ว ตนเชื่อว่าประชาชนเฝ้ามองอยู่เช่นเดียวกัน และเชื่อว่า ณ ตอนนี้ รอยร้าวก็จะยิ่งแสดงให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภา แต่ไม่สามารถผลักกันได้ เพราะพรรคร่วมฯ ไม่เอาด้วย
เมื่อถามว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน วุฒิสภา (สว.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาซัดกัน จะมีข้อมูลลับมาถึงฝ่ายค้านให้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของดีเอสไอกำลังดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว. ตนคิดว่า เป็นไปตามกระบวนการ สามารถดำเนินการได้ ส่วนมีข้อมูลที่จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ตนคิดว่า เรื่องนี้อยู่ในกรอบญัตติที่เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนจะมีเรื่องนี้หรือไม่ขอให้รอติดตามดูกัน
เมื่อถามว่า 2 ฝ่าย นิติบัญญัติและบริหารปะทะกันแบบนี้ มองอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ในส่วนต่างๆ ของฝั่งรัฐบาลเอง ถึงแม้ สว. โดยหลักการ อาจจะไม่ได้มีความยึดโยงกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ในสังคมเอง เราก็มีข้อคิดเห็นว่ามีความยึดโยงกับการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราจะเห็นแต่ว่า สว. มีการโต้ตอบ ขู่กลับว่าจะมีการร่วมลงชื่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญในการดำเนินการถอดถอนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นการตอบโต้การทางการเมือง เป็นสิ่งที่ตนคิดว่าประชาชนไม่อยากเห็น เราอยากจะเห็นการเมืองที่ตรงไปตรงมา
ส่วนความขัดแย้งนี้จะนำมาสู่การยื่นข้อมูลลับ เพื่ออภิปราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า อย่างที่ได้บอก ประเด็นนี้อยู่ในกรอบญัตติแน่นอน จะมีเรื่องความไม่โปร่งใส การไม่ลงรอยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง รวมถึงปัญหาที่สำคัญของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือปัญหาอื่น ส่วนในรายละเอียดว่าตนจะพูดถึงไม่พูดเรื่องใดบ้าง ขอให้รอติดตามกันการอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงๆ
นายณัฐพงษ์ ยังยิ้ม กล่าวถึงการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ตอนนี้เกือบ 100% แล้ว เรื่องเนื้อหาก็มีความเข้มข้น แต่ตัวผู้อภิปรายเองรวมถึงประเด็นที่จะอภิปราย ขอยังไม่บอก รอให้อภิปรายจริงๆ รอติดตามกันดีกว่า
เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันแบบนี้ จะส่งผลให้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการซื้อเสียงงูเห่าจากพรรคประชาชนไปโหวตรัฐมนตรีรายบุคคลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าพรรคประชาชนเป็น 1 ในกระบวนการอย่างนั้น
“ถ้ามีก็อาจจะมีได้ แต่ผมเชื่อมั่นว่าไม่มี สส.ของพรรคประชาชนคนไหนที่จะโหวตสวนหรือถูกซื้อตัวไปโหวตให้กับฝั่งรัฐบาลแน่นอน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ส่วนจะมีการคาดโทษคนในฝ่ายค้านหรือไม่ หากโหวตสวน นายณัฐพงษ์ ระบุว่า นิยามของพรรคร่วมฝ่ายค้านคือคนที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้น จะไปคาดโทษเขาไม่ได้ สส.ของแต่ละพรรคที่จะโหวตหรือไม่โหวตอย่างไรก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรคร่วมฝ่ายค้านเอง แต่ตนคิดว่าสิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากฝ่ายค้านคือการตรวจสอบรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ตรวจสอบเพื่อที่จะเอาไปใช้เป็นผลประโยชน์หรือข้อต่อรองทางการเมืองใดๆหรือไม่
ช่วงท้ายสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามถึงสูตรรัฐบาลใหม่ เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคประชาชนจะเข้าร่วม นายณัฐพงษ์ กล่าวทันทีว่า “คงเป็นไปไม่ได้ครับ เราประกาศชัดว่าในสมัยสภาชุดนี้คงไม่ได้ไปร่วมเป็นฝ่ายบริหารแน่นอน ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อ”.-312.-สำนักข่าวไทย