“ไอติม” ถามไปตกลงอะไรกัน ทำ ภท.กลับลำเอาด้วย กม.กาสิโน

รัฐสภา 20 ก.พ.-“ไอติม” ปั่นรัฐบาลแตกแยกหรือไม่ ลั่นความขัดแย้งเป็นที่ประจักษ์ ถาม “นายกฯ อิ๊งค์-อนุทิน” ใครพูดความจริง สงสัยเรื่องแก้ รธน. “พรรคร่วมฯ-สว.” แค่กังวลข้อกฎหมายหรือไม่อยากแก้ จี้ไปตกลงอะไรกัน ทำ “ภูมิใจไทย” กลับลำเอาด้วยกฎหมาย “กาสิโน” ด้าน “ประเสริฐ” ลุกแจง ยันไม่มีความขัดแย้ง ชี้ทำแบบนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ขณะ “กรวีร์” ลุกประท้วง บอกอดทนตั้งแต่คำถามแรกแล้ว เดี๋ยวจะกลายเป็นภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับการแก้ รธน.

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในการประชุม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจากับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องแนวทางการแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างต่อนโยบายรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นผู้ตอบแทน


นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนมี 2 นโยบาย ที่เป็นที่คาดหวังว่ารัฐบาลจะดำเนินการสุดความสามารถ แต่กลับเหมือนมีความเห็นต่างของพรรคร่วมรัฐบาล นโยบายแรกเป็นนโยบายเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แม้รัฐบาลทราบเรื่องการพิจารณาการจัดทำรัฐธรรมนูญในสภามาตั้งแต่สิ้นปี แต่กลับไม่ได้มีความพยายามมากพอในการผลักดัน จะเสนอร่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาก็ไม่มี แม้แต่พูดคุยในที่ประชุม ครม.ก็ไม่มี แล้วพอถึงคิวที่ต้องพิจารณาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สส.รัฐบาลก็พยายามร่วมมือกันทำให้การประชุมดังกล่าวล่มลงไป

“พรรคต้นสังกัดของนายกรัฐมนตรี ก็พยายามหาคำตอบให้กับสังคมว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะพรรคร่วมรัฐบาลและ สว. ที่ว่าหัวใจเดียวกันนั้น มีข้อกังวลทางกฎหมายว่าสิ่งที่เราดำเนินการอยู่นั้น ไปขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เลยจำเป็นต้องเดินอ้อม เพื่อส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญก่อน” นายพริษฐ์ กล่าว


นายพริษฐ์ ถามว่า รัฐบาลยืนยันใช่หรือไม่ ว่าเหตุผลที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลและสว. ยังไม่พร้อมสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ เป็นเพราะข้อกังวลทางกฎหมาย ไม่ใช่เพราะจุดยืนทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ลึกๆ แล้ว ไม่ได้อยากแก้รัฐธรรมนูญ

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในคำถามหลักนี้มีข้อสอบสงสัยย่อย 3 ประการ คือ 1.หากสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาล และ สว.ต้องการ เพื่อเดินหน้าต่อคือความชัดเจนทางศาลรัฐธรรมนูญ เหตุใด พรรคภูมิใจไทยและ สว.กลับไม่มาลงมติสนับสนุนให้เร่งส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ 2. อะไรจะเป็นหลักประกัน แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้คำตอบกลับมาว่าสามารถเดินหน้าต่อได้ ส.ว. จะไม่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผลอื่น 3. แม้ว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะออกมาสัมภาษณ์ เมื่อ 2 วันที่แล้ว แต่ ณ เวลานี้ เราต้องตั้งคำถามของตัวเองว่าคำพูดของใครบ้างที่สามารถเชื่อถือได้ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราเห็นว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกับนายกรัฐมนตรีก็พูดไม่ตรงกันต่อหน้าพี่น้องประชาชน

“เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ในขณะที่ท่านนายกฯ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าเคยมีการคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว แต่พอผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงในรายการสัมภาษณ์ออนไลน์ช่วงเย็นวันเดียวกัน ท่านรองนายกฯหรือหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กลับให้สัมภาษณ์ว่านายกฯไม่เคยมาคุยเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อนเลย ตกลงแล้วคำพูดของใครที่เราควรจะเชื่อถือกันได้” นายพริษฐ์ กล่าว


ทำให้นายประเสริฐ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน จน มาถึงรัฐบาลนางสาวแพทองธาร โดยเสนอร่างกฎหมายจนประธานรัฐสภาบรรจุเข้าในวาระ ซึ่งมีฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลยังมีเจตนารมย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่

“ท่านก็ทราบดีว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้มีการเสนอญัตติเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในการเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่สมาชิกสงสัยเสียก่อน เพื่อป้องกันว่าเรามีเจตนาอันบริสุทธิ์ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าปล่อยให้มีการโหวต ก็จะไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ ผมยืนยันว่าในพรรคร่วมรัฐบาลกันเองไม่มีความขัดแย้งในเรื่องนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แต่อาจจะมีความเห็นต่างกันบ้างในเรื่องกระบวนการเท่านั้น เรามีจุดหมายปลายทางเดียวกัน การมีความเห็นแตกต่างกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมคิดว่าเป็นความงดงามของระบอบประชาธิปไตย” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ ย้ำว่า “ท่านถามถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนะครับ ก็เป็นคำสัมภาษณ์ของท่านหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ผมเชื่อว่าถ้าสมาชิกคลายข้อสงสัย สมาชิกเขาก็พร้อมโหวต ซึ่งในเรื่องนี้ผมคิดว่าไม่มีใครขัดขวาง”

จากนั้น นายพริษฐ์ โต้ว่า ที่บอกว่าไม่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล คงไม่ใช่ เพราะสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้เร่งส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยไม่มาร่วมสนับสนุนญัตติดังกล่าว เพราะฉะนั้น ความขัดแย้งก็เป็นที่ประจักษ์ แต่ที่สงสัยคือนายกรัฐมนตรีได้พยายามคลี่คลายความขัดแย้งก่อนหน้านั้นแล้วหรือไม่

“ที่สำคัญคือท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่าคุยแล้ว แต่ท่านอนุทินบอกว่านายกฯ ยังไม่เคยมาคุย ณ เวลา ท่านก็ยังไม่ตอบผมว่าตกลงใครพูดความจริงใครพูดความเท็จกันแน่” นายพริษฐ์ กล่าว

จากนั้น นายพริษฐ์ ถามคำถามที่ 2 ถึงนโยบายเอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์ ความพยายามของพรรคเพื่อไทยเริ่มต้นอย่างจริงจัง หลังจากที่สภามีมติรับทราบรายงานผลการศึกษาร่างกฎหมายดังกล่าว ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยน้าออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าไม่เห็นด้วยกับร่างกฏหมายกาสิโน แต่เวลาผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกลับให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้มีปัญหา

“ตอนแรกผมก็สงสัยว่า ร่างของ ครม. ได้คลายข้อสงสัยของพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว แต่ผมมาเปิดดู เรากลับเห็นว่า 4 ข้อกังวลที่พรรคภูมิใจไทยเคยแถลงไว้ กลับไม่ได้รับการแก้ไขเลยแม้แต่เรื่องเดียว” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ ถามจี้ว่า รัฐบาลทำอะไรถึงไปโน้มน้าวพรรคภูมิใจไทยได้ ไม่ได้ตกลงหลังห้อง ว่าจะตั้งจังหวัดไหนแล้วหรือไม่ ไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยนกันระหว่างการทำกาสิโนบนดินและออนไลน์ ไม่ได้เอาเรื่องกัญชามาแลก

ช่วงหนึ่งของการตั้งคำถาม นายวันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวเตือนว่า อย่าไปพาดพิงถึงพรรคอื่นโดยไม่จำเป็น ขอให้ฝากไปถึงรัฐบาลก็แล้วกัน เดี๋ยวจะมีการประท้วง เราอภิปรายรัฐบาลไม่ได้อธิบายพรรคการเมือง

จังหวะนั้น นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกประท้วงว่าตนอดทนตั้งแต่คำถามแรกแล้ว ไม่อยากขัดจังหวะพอรู้ว่านายพริษฐ์ตั้งใจที่จะหาคำตอบ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสภา แต่อยากฝากว่าไม่จำเป็นจริงๆ คำพูดต่างๆ ที่บอกว่ามีความขัดแย้งจากพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เดี๋ยวจะกลายเป็นพรรคภูมิใจไทยเราไม่ได้เห็นด้วยกับการแก้ไข

แต่นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ลุกท้วงประธาน ให้ควบคุมดูแลการประชุม พร้อมกล่าวว่า การเอ่ยชื่อพรรคการเมืองโดยที่ยังไม่ได้อะไรเสียหาย ไม่แน่ใจว่าผิดข้อบังคับข้อไหน ในสภามีความแตกต่างหลากหลายทางประชาธิปไตย

ต่อมา นายประเสริฐ ชี้แจงว่า “การที่ท่านพยายามทำให้รัฐบาลเกิดความแตกแยก รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่อาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับฟังความคิดเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลเอง”

นายประเสริฐ กล่าวว่า การทำนโยบายดังกล่าวที่มีพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยตอนแรกและภายหลังต่อมาไม่มีปัญหา เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองพูดคุยในรายละเอียดของข้อที่ไม่เข้าใจ เมื่อพูดคุยได้เข้าใจและเห็นด้วย ไร้ข้อสงสัย ดังนั้นร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เมื่อเข้าสภาฯแล้ว สส.สามารถแสดงความเห็นได้ตั้งแต่วาระรับหลักการและวาระสาม รวมถึงยังมีชั้นสว.

“กระบวนการตรากฎหมายมีกระบวนการ เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาอยากให้ร่างกฎหมายออกมาให้ดีที่สุด ส่วนรายละเอียดของกฎหมายที่มีการปรับปรุงและถูกท้วงว่าไม่ตอบโจทย์นั้น ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่สมาชิกต้องแสดงความเห็น ซึ่งรายละเอียดนั้นต้องให้ประโยชน์ประชาชนสูงสุด ส่วนการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลของนายกฯ นั้น เพราะนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องคุยกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลต่างๆ ทั้งใน ครม. และที่ต่างๆ ที่ต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น หลายเรื่องต้องสร้างความเข้าใจ ซึ่งการสร้างความเข้าใจไม่มีข้อแลกเปลี่ยนใดๆ” นายประเสริฐ ชี้แจง

ทำให้นายพริษฐ์ตั้งคำถามด้วยว่าเป็นความแตกต่างในการทำงานของรัฐบาลที่ปล่อยเกียร์ว่างในนโยบายที่ต้องการผลักดัน ไม่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่กับอีกนโยบายที่ไม่ประกาศไว้ตอนหาเสียงกลับใช้วิธีการพูดคุย ทั้่งนี้ได้ตั้งคำถามถึงการเรียงลำดับความสำคัญในนโยบายรัฐบาล เช่น ค่าแรง นิรโทษกรรมทางการเมือง

นายประเสริฐ ชี้แจงว่า เจตจำนง 2 นโยบายหลักได้แถลงไว้ต่อสภาฯ และนายกฯ ใช้ภาวะผู้นำในการคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีเดินอ้อม เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องดำเนินการต่อ ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น กัญชา ค่าแรง ผู้ว่าราชการจังหวัด รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่การเรียงลำดับขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย