DSI จับ พนง.ช่วยผู้บริหาร บ.สังหาริมทรัพย์ มีชื่อยักยอก 480 ล้านบาท

19 ม.ค.- DSI จับพนักงานช่วยเหลือผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มีชื่อยักยอก 480 ล้านบาท จากการออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E)


วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568) เวลาประมาณ 11.00 น. ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ร่วมกันจับกุม ว่าที่ ร.ต.หญิง นิษฐา หรือจิรัชญา หรือจรูญลักษณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 113/2568 ลงวันที่ 9 มกราคม 2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำผิดของกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคล ซึ่งได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของนิติบุคคลนั้นฯ ทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริตฯ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ร่วมกันปลอมตั๋วแลกเงินและใช้ตั๋วแลกเงินปลอม โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนในพื้นที่ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมทั้งแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาทราบแล้ว จากนั้นควบคุมตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าว ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 151/2561 ของกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน โดย ว่าที่ ร.ต.หญิง นิษฐา หรือจิรัชญา หรือจรูญลักษณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์เป็นพนักงานบริษัทฯ ช่วยกรรมการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์มีชื่อที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในการปลอมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) และยังให้ใช้บัญชีเงินฝากของตนเองเพื่อช่วยดำเนินการธุรกรรมทางการเงินของบริษัทฯ จากการออกตั๋วแลกเงินระยะสั้นกับธนาคาร


ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชา จัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป .413.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดี ได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท