ร้องดีเอสไอ ตรวจสอบการทำงาน จนท.รัฐคดีแตงโม

17 ม.ค.- “อัจฉริยะ” ร้องดีเอสไอ ตรวจสอบการทำงานเจ้าหน้าที่รัฐคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม”


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา โดยร้องขอให้มีการสืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งมีข้อพิรุธอันเป็นเหตุสงสัยที่เชื่อว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง และหากพบการกระทำความผิดของผู้ที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พร้อมนำเอกสารหลักฐานที่อ้างว่าได้จากการจำลองเหตุการณ์การตกเรือ และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เข้าร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม โดยอ้างว่าการทำสำนวนคดีพบข้อพิรุธ มีลักษณะให้ความช่วยเหลือฝ่ายจำเลย เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาได้มีการจำลองเหตุการณ์การตกเรือมีคำถามมากมายเกิดขึ้น โดยตัวเองจะนำข้อมูลทั้งหมด มาใช้ในคดีใหม่ ซึ่งจะขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีนี้ไว้สอบสวน โดยอ้างอิงจากคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเคยรับไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกัน สาเหตุที่เดินทางมาร้องดีเอสไอก่อนการไปร้องที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือปปป. เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานหน่วยงานดังกล่าว เพราะเป็นองค์กรตำรวจ ส่วนที่ไม่ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพราะมองว่าต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน โดยหากไปร้องทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร


นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากการจำลองสถานการณ์ตกเรือทั้ง 2 วันที่ผ่านมามีคำถามมากมายเกิดขึ้น จะนำผลการจำลองไปใช้กับคดีใหม่ แซนได้มีการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกผ่านรายการโหนกระแสบอกว่าแตงโมได้จับขาแซนและพลัดตกเรือทางกราบเรือด้านซ้าย และช่วงเวลาเดียวกันแซนได้มีการไลฟ์สดในลักษณะทำนองเดียวกันแต่มีการเพิ่มว่าขอให้ตัวเองได้ตั้งตัวก่อน และครั้งที่ 3 ไปออกรายการหนึ่งอ้างว่าตัวเองเจ็บตาจึงถอดคอนแทคเลนส์จำไม่ได้ว่าแตงโมใส่ชุดอะไร แล้วจำไม่ได้ว่าแตงโมพลัดตกเรืออย่างไร ก่อนที่เมื่อวานนี้ได้มีการแถลงข่าวบอกว่าแตงโมมีการจับที่กราบเรือ
3 วินาที

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ด้วยความเร็วเรือที่ 8 น็อต จะอยู่ที่ความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ความเร็วจะอยู่ที่ 4.16 เมตรต่อวินาที หากแซนบอกว่าแตงโมจับกราบเรือ 3 วินาทีเท่ากับแตงโมต้องจับกราบเรือถึง 12 เมตร จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมาจับกราบเรือถึง 12 เมตร ส่วนตัวมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีที่จับและกราบเรือลื่น หากสังเกตผู้ทดสอบตกเรือโดยไม่ตั้งใจเมื่อวานนี้คนที่ 4 ที่ตกเรือ 2 ครั้ง ไม่สามารถจับกราบเรือได้เลย

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ผลที่ทำการจำลองจะนำมามอบให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้มีการรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ โดยขอให้มีการสืบสวนสอบสวนในการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการทำคดีแตงโม รวมทั้งพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคนบนเรือทั้ง 5 คน เนื่องจากการสอบสวนเชื่อว่ามีการสอบไปในทางไม่สุจริตและมีการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ มีการให้การเท็จของคนบางคน และมีพยานเท็จมากมายที่ได้รวบรวมมา จึงมาร้องต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้มีการสืบสวนสอบสวนที่เป็นคดีใหม่ ไม่เกี่ยวกับคดีที่เคยมาร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่นำผลจากการจำลองเมื่อวานนี้มาใช้ประกอบขอให้มีการแก้ไขคำฟ้องด้วย ซึ่งการแก้ไขคำร้องได้มีการให้ปากคำไปแล้ว 4 ปาก และจะมีการทยอยมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีก


นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ส่วนการมายื่นเรื่องในวันนี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะต้องรับคดีตามกฎหมาย เมื่อดีเอสไอสืบสวนสอบสวนเสร็จสิ้นตัวเองก็จะมาร้องทุกข์กล่าวโทษตามรายงานการสืบสวนของดีเอสไอที่มีการสืบสวนเสร็จสิ้น จะร้องทุกข์ตามพยานหลักฐานที่ดีเอสไอได้สืบสวนสอบสวนมา ดีเอสไอจะได้มีอำนาจในการเรียกพยานทั้งพยานเอกสาร วัตถุพยาน พยานบุคคลต่างๆ หรือจะสั่งให้มีการจำลองใหม่อีกครั้งก็สามารถทำได้ตามกฎหมาย

ด้านพันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า คดีนี้เป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือมีคดีนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลซึ่งเป็นสิ่งที่ก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนที่ 2 คือทางผู้ร้องได้เข้ามาร้องให้สอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เป็นคดีใหม่ ซึ่งส่วนนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องนำข้อมูลทั้งหมดไปพิจารณาว่า สามารถดำเนินการอะไรได้บ้างเนื่องจากคดีนี้เข้าสู่กระบวนการของศาลแล้วทำให้ต้องระมัดระวังและตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน รวมถึงดูว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจหน้าที่อะไรที่จะสามารถ เข้าไปทำอะไรได้บ้าง

สำหรับเรื่องที่นำมาร้องจะใช้เวลาในการ พิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้เพราะต้องให้เวลาพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ได้มาก่อน

ส่วนเมื่อวานนี้ที่ดีเอสไอส่งทีมไปร่วมสังเกตการณ์การจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลไปแล้วและจะเอามาประกอบกับคำร้องต่อไป พร้อมยอมรับว่าเราต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะคดีนี้มีผู้กระทำความผิด ตามหลักการโดยปกติแล้วคดีอยู่ในมือของศาล ทางพนักงานสอบสวนจะไม่มีอำนาจหน้าที่แล้ว เว้นแต่จะมีข้อเท็จจริงที่จะนำไปสู่การสอบสวนต่อได้ การจำลองเมื่อวานนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ดีที่ภาคประชาชนให้ความสำคัญกับการทำงานกับภาครัฐ แต่ในเรื่องข้อเท็จจริงก็ต้องมาดูกันอีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ .419 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]