DSI ส่งสำนวนสั่งฟ้อง “บอสพอล-สามารถและแม่” ร่วมกันฟอกเงิน “ดิไอคอน”

ดีเอสไอ 28 ม.ค. – DSI ส่งสำนวนเสนออัยการสั่งฟ้อง “บอสพอล-สามารถและแม่” ร่วมกันฟอกเงิน บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ลอตแรก จ่อดำเนินการต่ออีก 18 ราย


ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้บริหาร บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และมีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย ในความผิดฐาน 1.“ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่)” 2. “ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายเพิ่มขึ้น” 3. “ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต” 4. “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” และ 5.“ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิเศษไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 แล้วนั้น

เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานการฟอกเงิน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงสั่งการให้ กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บริหารและเครือข่ายของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ที่มีพฤติการณ์ฟอกเงินโดยนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดดังกล่าวไปทำการโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สิน เป็นคดีพิเศษที่ 115/2567


โดยวันนี้ (28 ม.ค.) พ.ต.ต.ยุทธนา ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และนายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว จำนวน 9 แฟ้ม รวมกว่า 3,000 แผ่น พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล นายสามารถ และนางวิลาวัลย์ ในข้อหากระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปส่งมอบให้ นางเยาวลักษณ์ นนทแก้ว อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษมีความเห็นทางคดีต่อไป

สำหรับกรณีการโอนและรับโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และผู้ต้องหาอีก 18 ราย ในคดีความผิดมูลฐานไปยังบุคคลอื่น ๆ ซึ่งอาจมีพฤติการณ์เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงินนั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีข้อสั่งการให้แยกสำนวนการสอบสวนเพื่อดำเนินการอีกส่วนหนึ่งด้วยแล้ว.-119-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

เตรียมฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ บ่ายวันนี้

บรรยากาศ วัดป่าวิเวกธรรมคุณ จ.บึงกาฬ ญาติผู้เสียชีวิตทยอยร่วมพิธีเช้า ก่อนฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ 13 ราย ช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนที่วัดวิเวกพัฒนาราม ก็จะมีพิธีฌาปนกิจเหยื่ออีก 4 ราย ช่วงบ่ายเช่นกัน

“ทรัมป์-เซเลนสกี” ปะทะคารมเดือดระหว่างหารือที่ทำเนียบขาว

วอชิงตัน 1 มี.ค. – การหารือระหว่างประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น จบลงอย่างล้มเหลวสิ้นเชิง หลังจากทั้งสองปะทะคารมกันอย่างดุเดือดต่อหน้าสื่อเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

“กุ้ง สุธิราช” เศร้า ทีมขนอุปกรณ์คณะลิเกถูกรถชนตกสะพานดับ

“กุ้ง สุธิราช” เศร้า ทีมขนอุปกรณ์คณะลิเกถูกรถชนตกสะพานเสียชีวิต ขณะยืนโบกรถที่จอดเสียบริเวณเชิงสะพานทางขึ้นต่างระดับฉิมพลี

นายกฯ รับรายงานเช้านี้ ยันไม่มีละเมิดสิทธิชาวอุยกูร์

นายกฯ รับรายงานเช้านี้ จากคณะผู้แทนไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับบ้าน ยันไม่มีการละเมิดสิทธิ ไม่ดำเนินคดีชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจากไทย ขณะเลขาฯ สมช. ชุดใหญ่ประกบส่งถึงบ้าน เผยนับจากนี้ 15-30 วัน จะกลับไปดูอีกครั้ง ชี้ทุกคนมีความสุขหลัง 11 ปี บ้านเกิดในมณฑลซินเจียงเปลี่ยนไป