กทม.28 ธ.ค. – “อนุกูล” เผย “กะทิไทย” โดดเด่นบนเวทีโลก ส่งออกไป 131 ประเทศ มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านต่อปี เพิ่มขึ้น 16.85%
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ข้อมูลสถานการณ์การค้าสินค้ามะพร้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูป พบว่า สินค้ากะทิของไทย เป็นสินค้าที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการอุตสาหกรรมโลก ทั้งนี้ ไทยถือเป็นผู้ส่งออกกะทิรายสำคัญ ซึ่งปัจจุบันสามารถส่งออกจำหน่ายทั่วโลกได้ประมาณ 131 ประเทศ โดยปัจจัยที่ทำให้การส่งออกกะทิเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก จากข้อมูลของ The Business Research Company ระบุว่า ตลาดอาหารและเครื่องดื่มโลก ในปี 2567 มีอัตราการเติบโต 6.4% และคาดว่าปี 2571 จะมีอัตราการเติบโต 5.9%
สำหรับภาพรวมการส่งออกกะทิของไทยในช่วง 10 เดือนของปี 2567 (ม.ค.–ต.ค.) ไทยสามารถส่งออกกะทิคิดเป็นมูลค่า 341.11 ล้านเหรียญสหรัฐ (12,064 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึง 16.85% เมื่อเปรียบเทียบในปี 2566 ไทยส่งออกกะทิ เป็นมูลค่า 353.54 ล้านเหรียญสหรัฐ (12,208 ล้านบาท) ซึ่งสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นการส่งออกกะทิสำเร็จรูป สัดส่วนสูงถึง 93.13% มีมูลค่า 326.55 ล้านเหรียญสหรัฐ (11,277 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 42.26% และในช่วง 10 เดือน ส่งออกมูลค่า 317.68 ล้านเหรียญสหรัฐ (11,235 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 18.12% ส่วนการส่งออกกะทิในแต่ละกลุ่ม อาทิ กะทิสำเร็จรูปอินทรีย์ แม้ยังมีสัดส่วนการส่งออกน้อย แต่เป็นสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบในปี 2566 มีการส่งออกมูลค่า 4.78 ล้านเหรียญสหรัฐ (165 ล้านบาท) ลดลง 20.07% และในช่วง 10 เดือนปี 2567 ส่งออกมูลค่า 5.35 ล้านเหรียญสหรัฐ (189 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 36.83% โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ สัดส่วน 70.50% เนเธอร์แลนด์ 10.43% และสวิตเซอร์แลนด์ 6.21% มีสัดส่วน 1.57% ของมูลค่าการส่งออกกะทิทั้งหมดของไทย
“รัฐบาลมุ่งส่งเสริมการปลูกและผลิตมะพร้าวให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ รวมถึงมีโครงการนำร่อง GAP-Monkey Free Plus (GAP-MFP) เพื่อรับรองแปลงผลิตมะพร้าวปลอดภัย ยกระดับภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของไทย ให้ต่างชาติเชื่อมั่นว่ากะทิที่ผลิตจากประเทศไทยมีคุณภาพสูงทั้งในผลผลิตและกระบวนการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อหนุนผู้ประกอบการไทยให้เป็นผู้ส่งออกกะทิรายสำคัญของโลก” นายอนุกูล ระบุ .-319-สำนักข่าวไทย