“ซาบีดา” ต้อนรับ ทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย

กทม. 22 พ.ย.-“ซาบีดา” รมช.มหาดไทย ต้อนรับ ทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เข้าหารือแลกเปลี่ยนบทบาทภารกิจของกระทรวงมหาดไทย พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สิงคโปร์ มุ่งส่งเสริมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ให้การต้อนรับ น.ส.หว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอรีน (Ms. Wong Siew Ping Catherine) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย พร้อมด้วย น.ส.อแมนดา พูน (Ms. Amanda Poon) เลขานุการเอก (ฝ่ายการเมือง) เข้าเยี่ยมคารวะและหารือเกี่ยวกับภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องดำรงราชานุภาพ ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย


น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับ และขอขอบคุณในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างสิงคโปร์กับประเทศไทย รวมถึงการสนับสนุนงานของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ด้วยดีเสมอมา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีภารกิจในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในการทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านความสะดวกสบาย โดยเฉพาะในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้มีมาตรฐาน มีน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ตลอดจนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ “Smart City” เพื่อส่งเสริมการลงทุนและยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทย

“ตนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล 1 กรม และ 2 รัฐวิสาหกิจ ประกอบด้วย กรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) การประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยในส่วนของ กปน. นั้น ที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือกับหน่วยงานการสาธารณูปโภครวมของประเทศสิงคโปร์ (Public Utilities Board: PUB) และมีกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างกัน ผ่านการประชุมทางวิชาการ (Singapore International Water Week) การเยี่ยมชมศึกษาดูงาน (site visit) กีฬาระหว่างหน่วยงาน โดย คณะกรรมการ กปน. มีกำหนดเดินทางเยี่ยมเยือนหน่วยงานการสาธารณูปโภครวมของประเทศสิงคโปร์ (PUB) ในเดือนธ.ค. 2567” น.ส.ซาบีดา กล่าว


น.ส.ซาบีดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและสิงคโปร์ เพราะทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีและมีโอกาสร่วมมือในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือในการขับเคลื่อนงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป และได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างสิงคโปร์กับไทยในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน (Sustainable Urban Development)”

“ตนมีความสนใจที่จะเรียนรู้ Best practice ของสิงคโปร์ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (City of the Smartness) การพัฒนาเมืองสีเขียวที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ (The Garden City) มาเป็นตัวอย่างในการพัฒนาเมืองของประเทศไทยให้สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”

ด้าน น.ส.หว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอรีน ได้กล่าวถึง ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านต่าง ๆ พร้อมให้ข้อมูลว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว (Tourism Destination) ของชาวสิงคโปร์ ซึ่งในปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2566) ประเทศไทยเป็นประเทศอันดับ 3 ที่นักท่องเที่ยวสิงคโปร์นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวสูงที่สุด จำนวนกว่า 1.1 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 6 ล้านคน สามารถสร้างมูลค่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 48,000 ล้านบาท นอกจากนี้สิงคโปร์กับไทยมุ่งเน้นความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน (People-to-people Connectivity) ไม่เพียงแค่ด้านการท่องเที่ยว แต่ยังมุ่งเน้นความร่วมมือเชื่อมโยงกันด้านการศึกษาและวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป


“ประเทศไทยเป็นมิตรสำคัญที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศสิงคโปร์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2508 ซึ่งในปีหน้าจะมีการจัดกิจกรรมการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ ทวิภาคีระหว่างไทยและสาธารณรัฐสิงคโปร์ (วันที่ 20 กันยายน 2568) โดยทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทยขอเรียนเชิญทางผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยร่วมในงานที่จะมีขึ้นด้วย”

การหารือในครั้งนี้ น.ส.อรอุมา วรแสน รก.ผอ.กองการต่างประเทศ สนง.ปลัดกระทรวงมหาดไทย น.ส.จริยาพร จิตต์ใจมั่น ผอ.สำนักผังประเทศและผังภาค กรมโยธาธิการและผังเมือง นายธัชษิต สกุลพอง ผอ.กองความร่วมมือระหว่างประเทศ การประปานครหลวง นายณฐนน มีสุวรรณ ผอ.ฝ่ายวิศวกรรม การประปาส่วนภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง