เกาะกูด 2 พ.ย.-ผู้บัญชาการทหารเรือ ลงพื้นที่เกาะกูด ขอให้มั่นใจ ทร.ดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติ และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่ ยืนยันความสัมพันธ์ ทั้งสองประเทศ พื้นที่อ้างสิทธ์ทับซ้อนทั่งสองฝ่าย ไม่มีความขัดแย้งใดๆ
พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด (นปก.) อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อบำรุงขวัญ และตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลกองทัพเรือให้มีความพร้อมอยู่เสมอ
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวให้โอวาทกับกำลังพลของหน่วย และขอบคุณกำลังพลทุกนาย ที่เสียสละ ต้องห่างจากบ้าน จากครอบครัวที่รักมาประจำการอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ให้คงอยู่คู่กับประเทศตลอดไป พร้อมขอให้ผู้บังคับหน่วยดูแลกำลังพลในทุกระดับชั้นในเรื่องของความเป็นอยู่ สิทธิประโยชน์ของทุกคนให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง หากมีข้อขัดข้องสิ่งใดให้รายงานขึ้นมาผ่านสายงานผู้บังคับบัญชาได้ทันที ตนเองพร้อมที่จะช่วยแก้ปัญหาของหน่วย เพื่อให้มีความพร้อมในทุกมิติ
พร้อมเปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยม ว่าวันนี้ ตนเองมาดูความพร้อมกำลังพลอยู่ที่ว่าเป็นอย่างไร รวมถึงดูความพร้อมของยุทธโธปกรณ์ในการเฝ้าตรวจ และการเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบส่วนกลาง หรือ หน่วยควบคุมที่เชื่อมโยงสู่ศูนย์กลางของกองทัพเรือ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเห็นภาพพื้นที่ปฏิบัติการในพื้นที่ที่เราดูแล โดยตนเองได้ให้นโยบายไปว่าต้องทำอย่างไรให้มีความพร้อม ซึ่งปัจจุบันความพร้อมถูกยกระดับขึ้นมาจากเดิม ทั้งเครื่องมือ คน มีพร้อมในทุกจุด แต่สิ่งที่ยังติดขัด คือเรื่องของเทคโนโลยี ระบบสนับสนุนต่างๆ เช่นระบบไฟ น้ำ เป็นสิ่งจำเป็น ก็ต้องทำให้เพียงพอกับความต้องการของกำลังพล ส่วนสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่เกาะกูดของกองทัพเรือ มีหน่วยที่อยู่บนเกาะ คือ หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด และนาวิกโยธิน ซึ่งทั้งสองหน่วยได้ทำงานร่วมกัน เพื่อดูแลในพื้นที่ที่เป็นรอยต่อ รวมถึงมีเรดาร์ดูแลพื้นที่ในทะเล เพื่อส่งข้อมูลให้ส่วนกลางในภาพรวม ทั้งนี้ยืนยันว่ากองทัพเรือมีความพร้อม มีความปลอดภัย ประชาชนสามารถทำมาหากินในพื้นที่นี้ได้อย่างสงบสุข
สำหรับหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด (นปก.) เป็นหน่วยเฉพาะกิจของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ที่ขึ้นการควบคุมทางยุทธการกับกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด มีที่ตั้งหน่วยบนเกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด โดยกองทัพเรือจัดตั้งหน่วยตรวจการณ์พิเศษที่ 1 บนเกาะกูด เมื่อปีพุทธศักราช 2521 ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช 2529 กองทัพเรือ ได้อนุมัติเปลี่ยนชื่อจากหน่วยตรวจการณ์พิเศษที่ 1 เป็นหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด จนถึงปัจจุบัน และในปีพุทธศักราช 2534 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อนุมัติให้ กรมรักษาฝั่งที่ 1 เป็นหน่วยรับผิดชอบในการจัดกำลัง
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคง ในพื้นที่อำเภอเกาะกูด จ.ตราด กรณี เอ็มโอยู2544 นโยบายรัฐบาลเจรจาผลประโยชน์ทางทะเล ทำให้กองทัพเรือ ลำบากใจหรือไม่ ระบุว่า หน้าที่ของกองทัพเรือ คือการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลไทยได้ประกาศเขต เอาไว้แล้วเมื่อปี พุทธศักราช 2516 เราจะดูแลพื้นที่ตามเขตเเดนที่รัฐบาลประกาศไว้ ส่วนความคืบหน้าหรือข้อตกลงอะไรนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่จะดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้กับประชาชน
เมื่อถามว่ารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวว่า ได้ย้ำให้หน่วยมีความพร้อมที่จะดูแลพื้นที่ ตนเองจึงต้องลงมาดูแล ซึ่งเป็นไปตามนโยบายว่ากองทัพเรือต้องพร้อมที่จะดูแลพื้นที่ที่อยู่ในทะเลให้ได้ 100% เพราะฉะนั้นอะไรที่ติดขัดก็จะเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆให้สำเร็จ ซึ่งหลายเรื่องได้แก้ปัญหาไปแล้ว เหลือแค่บางเรื่องที่จะต้องค่อยๆแก้ไข เพราะต้องใช้งบประมาณ
เมื่อถามว่ากลุ่มที่มีการเรียกร้องอาจมีการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์เกรงว่าจะมีปัญหาหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุว่าขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่ากองทัพเรือจะดูแลพื้นที่ตรงนี้ได้ ไม่ต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่ ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนฝั่ง และบนเกาะมีความมั่นใจกับกองทัพเรืออยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามพื้นที่ของเรามีความสงบ ปลอดภัย ชาวประมงสามารถทำมาหากินได้ปกติ ขณะที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีความเข้าใจ และก็หากินในพื้นที่ของตนเอง ส่วนเราก็ทำมาหากินในพื้นที่ของเราไม่มีความขัดแย้งใดๆ
ส่วนพื้นที่เกาะกูดได้ถูกเชื่อมโยงเป็นประเด็นทางการเมือง กองทัพเรือได้กำชับกำลังพลอย่างไรบ้าง กล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเราและเรามีความสัมพันธ์กับพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างดีซึ่งจากการรับฟังบรรยายสรุปของหน่วยฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เรือประมงที่ทำมาหากินอย่างสุจริต ไม่เคยรุกล้ำเข้าพื้นที่มาเลย ยกเว้นเรือที่ลักลอบขนสินค้าหนีภาษี แต่ก็สามารถจับกุมได้ตามอำนาจหน้าที่ของเรา สำหรับประชาชนที่ทำมาหากินสุจริต ในทะเลทั้งสองฝั่งนั้น ทุกคนมีความสุข ไม่มีใครเดือดร้อน และประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ยืนยันหน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่มีความสัมพันธ์ที่ดี สามารถพูดคุยกันโดยไม่มีข้อขัดแย้งอะไรต่อกัน.-313.-สำนักข่าวไทย