พปชร. จ่อยื่นจม.เปิดผนึกปมเกาะกูด ชี้เอ็มโอยูทำเสี่ยงเสียดินแดน

พรรคพลังประชารัฐ 29 ต.ค.- “พปชร.” ยัน ขอปกป้องเกาะกูด ซัด เอ็มโอยูทำเสี่ยงเสียดินแดนซ้ำรอยเขาพระวิหาร เตรียมยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ


นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าวถึงกรณีการเรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2544 โดยนายธีระชัย กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สั่งการให้ สส.และบุคลากรของพรรค ขับเคลื่อนเพื่อที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ เพราะเราต้องคุ้มครองดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ที่เป็นสมบัติของคนไทย พรรคพลังประชารัฐจะไม่เป็นที่พึ่งของประชาชนในเรื่องนี้ไม่ได้

ด้าน ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อปี 2516 ได้มีพระบรมราชโองการ(Royal Command) ของในหลวงรัชกาลที่ 9 สรุปความว่า เพื่อการใช้สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงประโยชน์ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอ่าวไทย จึงกำหนดเขตไหล่ทวีปตามแผนที่และพิกัดภูมิศาสตร์โดยยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป เจนีวา 1958 อันเป็นที่ยอมรับนับถือกัน โดยท้ายพระบรมราชโองการยังกำหนดไว้ว่า สำหรับสิทธิที่เป็นอาณาเขตต่อเนื่องกับประเทศใกล้เคียง ก็ให้ยึดถือบทบัญญัติแห่งอนุสัญญา เจนีวา 1958


ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า การที่กัมพูชาขีดเส้นเขตแดนทางทะเล ทับน่านน้ำภายในของจังหวัดตราด ขีดข้ามเกาะกูดทะลุไปกลางอ่าวไทย ซึ่งขัดอนุสัญญาเจนีวา 1958 เส้นดังกล่าวจึงขัดกับแผนที่แนบ พระบรมราชโองการที่ประกาศไว้ โดย MOU 2544 ซึ่งรับรองการขีดเส้นแดนทางทะเลของกัมพูชาที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นการกระทำที่ขัดกับพระบรมราชโองการใช่หรือไม่ เพราะท้ายพระบรมราชโองการระบุชัดเจนว่า อาณาเขตต่อเนื่องกับประเทศใกล้เคียง ก็ให้ยึดถือบทบัญญัติแห่งอนุสัญญา เจนีวา 1958

ดังนั้น เมื่อเอกสารราชการมีการขัดกัน จึงมีความสุ่มเสี่ยงที่ต่างประเทศจะนำไปอ้างและอาจจะทำให้เราสูญเสียเหมือนกรณีเขาพระวิหาร นี่คือสาเหตุที่เราสมควรต้องยกเลิก MOU 2544 ซึ่งเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี จึงจำเป็นที่จะยื่นต่อนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องอันตราย โดย ในวันที่ 30 ต.ค.67 เวลา 09.00 น.ทีมพรรคพลังประชารัฐจะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่อาคารรัฐสภา พร้อมทั้งยื่นจดหมายเปิดผนึกให้กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี .-315 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]

“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบกัมพูชาในเวทีนานาชาติ

ก.ต่างประเทศ 31 ก.ค.-“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบกัมพูชาในเวทีนานาชาติ และไม่ได้นิ่งนอนใจเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา สั่งทูตเดินหน้าแจงทุกกรอบทุกเวที บอกนำทูตต่างประเทศลงดูพื้นที่ชายแดนช้า ห่วงความปลอดภัย ชี้ไปเร็ว ไม่ถือว่าชนะ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงยืนยัน จากสถานการณ์ปัญหาไทย-กัมพูชา ไทยไม่ได้เสียเปรียบ เพราะการชี้แจงอยู่ในกรอบของสหประชาชาติ เราได้ย้ำจุดยืนตั้งแต่ต้น ว่าเรายึดมั่นในสันติวิธีและกฎหมายระหว่างประเทศ กรอบกฎบัตรของอาเซียน แม้มีความพยายามนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC แต่ไม่ได้ออกข้อมติใดๆ และพูดว่าเป็นเรื่องของการเจรจาในระดับทวิภาคีไม่ต้องเอากลับมาในกรอบของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งการที่กัมพูชา พยายามพูดปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาในเวทีที่ปัญหาอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ก็ไม่ได้รับการบรรจุเรื่องนี้ในสเตทเมนท์ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแม้มีความพยายามบิดเบือนจากกัมพูชาในเวทีต่างๆ แต่กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เดินหน้ามาตรการทางการทูตโดยเร่งชี้แจงกับประเทศต่าง ๆ ทั้งกรอบทวิภาคี ภาคีในเวทีระหว่างประเทศทั้งหลาย ทั้งดำเนินการจากส่วนกลาง และการดำเนินการ ผานสถานทูตสถานกงสุญใหญ่ทั่วโลก ตั้งแต่เกิดกรณีการรุกราน เช่น ในเรื่องของ UNSC การวางทุ่นระเบิดสังหาร การโจมตีพลเรือน ในฝั่งไทย และประณามไปแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า เมื่อเช้าได้พบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึนตนได้พูดให้เห็นถึงภาพต่าง ๆ ในการพบกันกับผูนำกัมพูชาที่มาเลเซีย และบอกว่าเราต้องการเห็นการหยุดยิงที่ไม่มีเงื่อนไข และหยุดยิง เด็ดขาดตามที่ตกลงกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับความจริงใจจากกัมพูชา […]