กาญจนบุรี 15 ม.ค. -กรมอุทยานฯ ระบุตำรวจกำลังตรวจสอบรอยกระสุนที่เสือโคร่งทั้ง 2 ตัวที่ถูกยิงในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรีว่า ตรงกับอาวุธปืนกระบอกที่เป็นของเจ้าหน้าที่อพปร. หรือไม่ หากตรงจะขยายผลทางคดี วันนี้เจ้าหน้าที่แจ้งความเพิ่ม ฐานนำวัวไปเลี้ยงในเขตอุทยานแห่งชาติ
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบรอยกระสุนที่เสือโคร่งทั้ง 2 ตัวที่ถูกยิง แล้วเปรียบเทียบกับอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ในการเข้าจับกุมกลุ่มพราน 5 คนในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ สำหรับอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้แก่ ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ปืนยาว ขนาด .22 ติดกล้องเล็ง 1 กระบอก ปืนยาวไทยประดิษฐ์ (ปีนแก๊ป) 6 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 50 นัด ปลอกกระสุนปืน 5 ปลอก
นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิระบุว่า หลังตรวจยึดซากเสือและอาวุธปืนได้ นายป้อม ทองผาประวิตร โทรหาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาตินายหนึ่งเพื่อขอปืนลูกซองราชการคืน โดยระบุว่า 1 ในผู้กระทำผิดขอยืมปืนจากนายบุญถิ่น จันทร์เขต เจ้าหน้าที่อพปร. มาใช้ป้องกันตัว ทั้งนี้หากพบว่า อาวุธที่ใช้ยิงเสือโคร่งเป็นปืนกระบอกที่เจ้าหน้าที่อพปร. เบิกจากราชการมาใช้ ตำรวจจะขยายผลทางคดี รวมทั้งวันนี้แจ้งความต่อตำรวจสภ. ปิล็อกต่อผู้ต้องหาทั้ง 5 คนฐานนำวัวมาเลี้ยงในเขตอุทยานแห่งชาติ.-สำนักข่าวไทย