ปัญหาอุ้มซ้อมทรมานเกิดซ้ำซาก-ไม่มีหลักฐาน

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – องค์กรเอกชนที่ช่วยเหลือด้านคดีแก่เหยื่อที่ถูกอุ้มซ้อมทรมาน เปิดเผยข้อมูลว่าตลอดระยะเวลา 17 ปี เข้าไปช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกซ้อมทรมานแล้วประมาณ 500 กว่ากรณี ซึ่งมากที่สุดคือที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่มักไม่มีพยานหลักฐาน ทำให้เหยื่อไม่กล้าร้องเรียน ดังนั้น การมีกฎหมายเอาผิดผู้ซ้อมทรมาน จะเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยป้องปรามเจ้าหน้าที่ที่คิดจะซ้อมทรมาน


นี่คือผู้ถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิตและทุพพลภาพ ที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เข้าช่วยเหลือทางคดี อันเป็นเพียงส่วนหนึ่งในจำนวนผู้ถูกซ้อมทรมาน 500 กว่ากรณี ที่มูลนิธิแห่งนี้ให้การช่วยเหลือนับจากปี 47 เป็นต้นมา

พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เล่าว่า เหยื่อซ้อมทรมานที่เข้าช่วยเหลือ ส่วนใหญ่เป็นคดีความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คดียาเสพติด นอกนั้นเป็นคดีอาชญากรรมที่โด่งดัง แรงงานข้ามชาติที่ตกเป็นผู้ต้องหา และพลทหารถูกซ้อม


แต่การซ้อมทรมานมักไม่มีพยานหลักฐาน ถ้าไม่รุนแรง เหยื่อมักไม่กล้าร้องเรียน อีกทั้งระยะหลังร่องรอยจากการซ้อมทรมานแทบไม่มีให้เห็น เพราะผู้ซ้อมทรมานมีวิธีไม่ให้เกิดร่องรอย เคยมีผู้เสียหายบอกว่าถูกทรมานโดยใช้ถุงพลาสติกคลุมหัว 3-4 ใบ แต่ไม่เคยเห็นภาพ เหตุการณ์ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนครสวรรค์ ซ้อมทรมาน จึงเป็นครั้งแรกที่มีภาพปรากฏให้สังคมได้เห็น

จากประสบการณ์ช่วยเหลือเหยื่อซ้อมทรมาน พบว่ากรณีเหยื่อเสียชีวิต การปกปิดการตาย อาจทำได้ยาก แต่กรณีเหยื่อรอดชีวิตมักถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอื่นอีก การร้องเรียนยิ่งทำให้ถูกข่มขู่ คุกคาม

ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม บอกว่า การมีกฎหมายป้องกันการซ้อมทรมาน อุ้มหาย จะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยปฏิรูปตำรวจ กระบวนยุติธรรม เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้หลายร่างที่ค้างคาอยู่นานหลายปีแล้ว กำหนดให้การอุ้มหาย ทรมาน เป็นความผิดทางอาญา การสืบสวนสอบสวนเป็นอิสระ ไม่มีอายุความ และผู้บังคับบัญชาต้องร่วมรับผิดด้วย


ในมุมมองของผู้ที่ต่อต้านการอุ้มซ้อมทรมาน จึงเห็นว่ากฎหมายอุ้มซ้อมทรมานที่สอดคล้องหลักสากล น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แม้ไม่สามารถยุติการอุ้มซ้อมทรมานได้ แต่อย่างน้อยจะมีกรอบกฎหมายที่เข้มแข็งมากขึ้นว่าหากใครใช้วิธีอุ้มซ้อมทรมาน จากเจ้าหน้าที่จะกลายเป็นอาชญากร และผู้บังคับบัญชาไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบต่อการอุ้มซ้อมทรมานได้เหมือนในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ