“ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์” คุ้มครองผู้บริโภค

อินฟลูเอนเซอร์

14 มี.ค. – อินฟลูเอนเซอร์เตรียมตัว! องค์กรผู้บริโภค ผุด “ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอ็นเซอร์” เป็นข้อปฏิบัติก่อนรีวิวสินค้า


“ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์” ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย และเป็นอีกหนึ่งการยกระดับมาตรฐานการนำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือการรีวิวสินค้า ในยุคแห่งโลกออนไลน์ ที่อินฟลูเอนเซอร์มีผลอิทธิพลต่อการตัดสิน และความเชื่อถือของผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 สภาผู้บริโภค ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จัดแถลงข่าว “ผลทดสอบค่า SPF ครีมกันแดด” ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเจ้าของ หรือพรีเซ็นเตอร์ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ผู้มีชื่อเสียงหรือผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์


สาเหตุที่เลือกกลุ่มครีมกันแดดมาทดสอบ เนื่องจากเป็นสินค้าราคาค่อนข้างสูง และต้องใช้บ่อยในสภาพอากาศของเมืองไทย จึงเห็นว่าผู้บริโภคควรมีข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ให้เจ้าของแบรนด์ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า และปรับตัวตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงขึ้น

“ทดสอบค่า SPF ครีมกันแดดด้วยวิธี In vitro”
สภาผู้บริโภค และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แฝงตัวเสมือนเป็นผู้บริโภค สั่งสินค้าจากผู้จำหน่าย ผ่านช่องทาง official ของแบรนด์ครีมกันแดดทั้ง 20 ตัวอย่าง และส่งมาในรูปแบบเดียวกันกับที่ผู้บริโภค และส่งทั้งหมดวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ด้วยวิธี In vitro และเทียบข้อมูลโดยอ้างอิงตามประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง การแสดงค่าความสามารถ ในการป้องกันแสงแดดของเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด พ.ศ.2560 ภายใต้ พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558

“ผลการทดสอบพบ 20 ตัวอย่าง พบค่า SPF ต่ำสุด 8.4 สูงสุด 327.0”
นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ถึงผลการทดสอบ 20 ตัวอย่าง ที่ระบุบนฉลากว่ามีค่า SPF 50 มี 6 ตัวอย่าง และ SPF50+ 14 ตัวอย่าง ที่มีค่า SPF ต่ำกว่า 50 อยู่จำนวน 5 แบรนด์ และมีตัวอย่างที่มีค่า SPF สูงสุดถึง 327.0


“สาเหตุของค่า SPF ต่ำและสูง เกิดจากอะไร?”
เนื่องจากค่า SPF สามารถสลายไปได้ตามกาลเวลา และปัจจัยภายนอก เช่น การขนส่ง อุณหภูมิ การจัดเก็บ เช่นเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ต่ำกว่า 50 อาจเป็นเพราะปัจจัยแวดล้อม ซึ่งผู้ผลิตจะมีการส่งตรวจผลิตภัณฑ์โดยห้องแล็บ หลังออกจากโรงงานทันที หรือใช้เวลาไม่นาน เพื่อนำยื่นขออนุญาตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อมาถึงมือผู้บริโภคอาจใช้เวลาหลายเดือน อาจทำให้ค่า SPF มีความคลาดเคลื่อนออกไป

แต่ในอีกทางหนึ่ง เมื่อผลการทดสอบออกมาเช่นนี้ ทำให้เกิดกระแสในสังคม ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ จึงเกิดการเรียกร้องภาครัฐ ให้ระบุมาตรฐานการผลิตครีมกันแดดทุกแบรนด์

“ควรผ่านการตรวจแบบ In vivo” ก่อนออกขายสู่ผู้บริโภค ถ้าไม่มีห้ามขาย
แนะนำผู้บริโภค เมื่อซื้อครีมกันแดดทุกครั้งต้องดูวันผลิตด้วย ยิ่งนานอาจยิ่งทำให้ค่า SPF ลดลง ระยะเวลาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่อยู่ในระยะเหมาะสมคือไม่เกิน 2 ปี

“ทำความรู้จัก ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์”
นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค อธิบายว่า ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์ เป็นแนวปฏิบัติที่พึงกระทำ แต่ไม่ได้มีสภาพบังคับ เพราะไม่ใช่กฎหมาย และให้ถือเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำว่าอินฟลูเอนเซอร์จะต้องทำอะไรบ้างเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์ ประกอบด้วย 5 ข้อปฏิบัติหลักๆ
1.ตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า ก่อนรับโฆษณา
ปัจจุบันอินฟลูเอนเซอร์ มี 2 ฐานะ คือผู้จำหน่าย กับรับจ้างโฆษณา จึงต้องศึกษาสินค้าก่อนรีวิว ต้องรู้จักส่วนผสมสินค้า ไม่ใช่ฟังแต่ผู้จ้าง หรือเจ้าของแบรนด์อย่างเดียว และต้องขอตรวจสอบใบอนุญาตจากผู้ผลิต ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ และตรวจสอบซ้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าสินค้าและเลขจดแจ้งตรงกันหรือไม่ และเพื่อให้มั่นใจว่าไม่เคยเป็นสินค้าที่มีแบล็กลิสต์

2.การทดลองใช้สินค้าจริง
อินฟลูเอนเซอร์ ต้องทดลองใช้สินค้าเอง และใช้จริง และต้องมีหลักฐานด้วยว่าใช้แล้วเป็นอย่างไร และผลการใช้ต้องเป็นไปตามที่โฆษณา และต้องมีจรรณยาบรรณ ไม่รับรีวิวสินค้าที่มีอันตรายต่อสุขภาพ หรือไม่ปลอดภัย เช่น สินค้าปลอมแปลง สินค้าที่ไม่มี อย. หรือ มอก.

3.ยอมรับว่าการรีวิว คือการโฆษณา
อินฟลูเอนเซอร์ ต้องยอมรับว่าการรีวิวสินค้า คือการโฆษณา ดังนั้นต้องทำให้มีความโปร่งใส รีวิวตามข้อเท็จจริง ที่สำคัญต้องรู้กฎหมาย ว่าคำไหนพูดได้ พูดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง

4.เลี่ยงสินค้าผิดกฎหมาย หรือไม่ได้รับการรับรอง
อินฟลูเอนเซอร์ ต้องยึดจรรณยาบรรณ ไม่รับรีวิวสินค้าผิดกฎหมาย หรือยังไม่ได้รับการรับรองที่ถูกต้อง เช่นบุหรี่ไฟฟ้า การเล่นพนัน

5.มีการเยียวยาผู้บริโภค
อินฟลูเอนเซอร์ ต้องระวังข้อนี้ไว้ให้ดี เพราะคุณคือผู้โฆษณาเชิญชวน เมื่อเกิดผลลบกับผู้บริโภค อินฟลูเอนเซอร์จะต้องรับผิดชอบร่วม

“สัปดาห์หน้าจะหารือร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์ กับอินฟลูเอนเซอร์ตัวจริง”
นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค ระบุขั้นตอนการเดินหน้าผลักดันร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์ว่า สัปดาห์หน้า (17-23 มี.ค.68) จะพูดคุยกับสมาคมอินฟลูเอนเซอร์ และจะเชิญเหล่าอินฟลูเอนเซอร์มาหารือว่าร่างที่มีการเขียนไว้แล้ว มีความคิดเห็นอย่างไร มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปฏิบัติตาม

ส่วนการผลักดันกฎหมาย ขณะนี้ในสภาจะเดินหน้าเสนอแก้ พ.ร.บ.อินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งจะมีเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาหาร และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคอยู่ด้วย เป็นความรับผิดชอบของผู้โฆษณา เพราะอินฟลูเอนเซอร์ ถือเป็นผู้โฆษณา และการโฆษณาเป็นเป็นส่วนหนึ่งของสินค้า อินฟลูเอนเซอร์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาที่ต้องรับผิดต่อผู้บริโภค. -918 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย