“ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์” คุ้มครองผู้บริโภค

อินฟลูเอนเซอร์

14 มี.ค. – อินฟลูเอนเซอร์เตรียมตัว! องค์กรผู้บริโภค ผุด “ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอ็นเซอร์” เป็นข้อปฏิบัติก่อนรีวิวสินค้า


“ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์” ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย และเป็นอีกหนึ่งการยกระดับมาตรฐานการนำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือการรีวิวสินค้า ในยุคแห่งโลกออนไลน์ ที่อินฟลูเอนเซอร์มีผลอิทธิพลต่อการตัดสิน และความเชื่อถือของผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 สภาผู้บริโภค ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จัดแถลงข่าว “ผลทดสอบค่า SPF ครีมกันแดด” ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเจ้าของ หรือพรีเซ็นเตอร์ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ผู้มีชื่อเสียงหรือผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์


สาเหตุที่เลือกกลุ่มครีมกันแดดมาทดสอบ เนื่องจากเป็นสินค้าราคาค่อนข้างสูง และต้องใช้บ่อยในสภาพอากาศของเมืองไทย จึงเห็นว่าผู้บริโภคควรมีข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ให้เจ้าของแบรนด์ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า และปรับตัวตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงขึ้น

“ทดสอบค่า SPF ครีมกันแดดด้วยวิธี In vitro”
สภาผู้บริโภค และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แฝงตัวเสมือนเป็นผู้บริโภค สั่งสินค้าจากผู้จำหน่าย ผ่านช่องทาง official ของแบรนด์ครีมกันแดดทั้ง 20 ตัวอย่าง และส่งมาในรูปแบบเดียวกันกับที่ผู้บริโภค และส่งทั้งหมดวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ด้วยวิธี In vitro และเทียบข้อมูลโดยอ้างอิงตามประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง การแสดงค่าความสามารถ ในการป้องกันแสงแดดของเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด พ.ศ.2560 ภายใต้ พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558

“ผลการทดสอบพบ 20 ตัวอย่าง พบค่า SPF ต่ำสุด 8.4 สูงสุด 327.0”
นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ถึงผลการทดสอบ 20 ตัวอย่าง ที่ระบุบนฉลากว่ามีค่า SPF 50 มี 6 ตัวอย่าง และ SPF50+ 14 ตัวอย่าง ที่มีค่า SPF ต่ำกว่า 50 อยู่จำนวน 5 แบรนด์ และมีตัวอย่างที่มีค่า SPF สูงสุดถึง 327.0


“สาเหตุของค่า SPF ต่ำและสูง เกิดจากอะไร?”
เนื่องจากค่า SPF สามารถสลายไปได้ตามกาลเวลา และปัจจัยภายนอก เช่น การขนส่ง อุณหภูมิ การจัดเก็บ เช่นเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ต่ำกว่า 50 อาจเป็นเพราะปัจจัยแวดล้อม ซึ่งผู้ผลิตจะมีการส่งตรวจผลิตภัณฑ์โดยห้องแล็บ หลังออกจากโรงงานทันที หรือใช้เวลาไม่นาน เพื่อนำยื่นขออนุญาตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อมาถึงมือผู้บริโภคอาจใช้เวลาหลายเดือน อาจทำให้ค่า SPF มีความคลาดเคลื่อนออกไป

แต่ในอีกทางหนึ่ง เมื่อผลการทดสอบออกมาเช่นนี้ ทำให้เกิดกระแสในสังคม ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ จึงเกิดการเรียกร้องภาครัฐ ให้ระบุมาตรฐานการผลิตครีมกันแดดทุกแบรนด์

“ควรผ่านการตรวจแบบ In vivo” ก่อนออกขายสู่ผู้บริโภค ถ้าไม่มีห้ามขาย
แนะนำผู้บริโภค เมื่อซื้อครีมกันแดดทุกครั้งต้องดูวันผลิตด้วย ยิ่งนานอาจยิ่งทำให้ค่า SPF ลดลง ระยะเวลาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่อยู่ในระยะเหมาะสมคือไม่เกิน 2 ปี

“ทำความรู้จัก ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์”
นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค อธิบายว่า ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์ เป็นแนวปฏิบัติที่พึงกระทำ แต่ไม่ได้มีสภาพบังคับ เพราะไม่ใช่กฎหมาย และให้ถือเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำว่าอินฟลูเอนเซอร์จะต้องทำอะไรบ้างเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์ ประกอบด้วย 5 ข้อปฏิบัติหลักๆ
1.ตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า ก่อนรับโฆษณา
ปัจจุบันอินฟลูเอนเซอร์ มี 2 ฐานะ คือผู้จำหน่าย กับรับจ้างโฆษณา จึงต้องศึกษาสินค้าก่อนรีวิว ต้องรู้จักส่วนผสมสินค้า ไม่ใช่ฟังแต่ผู้จ้าง หรือเจ้าของแบรนด์อย่างเดียว และต้องขอตรวจสอบใบอนุญาตจากผู้ผลิต ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ และตรวจสอบซ้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าสินค้าและเลขจดแจ้งตรงกันหรือไม่ และเพื่อให้มั่นใจว่าไม่เคยเป็นสินค้าที่มีแบล็กลิสต์

2.การทดลองใช้สินค้าจริง
อินฟลูเอนเซอร์ ต้องทดลองใช้สินค้าเอง และใช้จริง และต้องมีหลักฐานด้วยว่าใช้แล้วเป็นอย่างไร และผลการใช้ต้องเป็นไปตามที่โฆษณา และต้องมีจรรณยาบรรณ ไม่รับรีวิวสินค้าที่มีอันตรายต่อสุขภาพ หรือไม่ปลอดภัย เช่น สินค้าปลอมแปลง สินค้าที่ไม่มี อย. หรือ มอก.

3.ยอมรับว่าการรีวิว คือการโฆษณา
อินฟลูเอนเซอร์ ต้องยอมรับว่าการรีวิวสินค้า คือการโฆษณา ดังนั้นต้องทำให้มีความโปร่งใส รีวิวตามข้อเท็จจริง ที่สำคัญต้องรู้กฎหมาย ว่าคำไหนพูดได้ พูดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง

4.เลี่ยงสินค้าผิดกฎหมาย หรือไม่ได้รับการรับรอง
อินฟลูเอนเซอร์ ต้องยึดจรรณยาบรรณ ไม่รับรีวิวสินค้าผิดกฎหมาย หรือยังไม่ได้รับการรับรองที่ถูกต้อง เช่นบุหรี่ไฟฟ้า การเล่นพนัน

5.มีการเยียวยาผู้บริโภค
อินฟลูเอนเซอร์ ต้องระวังข้อนี้ไว้ให้ดี เพราะคุณคือผู้โฆษณาเชิญชวน เมื่อเกิดผลลบกับผู้บริโภค อินฟลูเอนเซอร์จะต้องรับผิดชอบร่วม

“สัปดาห์หน้าจะหารือร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์ กับอินฟลูเอนเซอร์ตัวจริง”
นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค ระบุขั้นตอนการเดินหน้าผลักดันร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์ว่า สัปดาห์หน้า (17-23 มี.ค.68) จะพูดคุยกับสมาคมอินฟลูเอนเซอร์ และจะเชิญเหล่าอินฟลูเอนเซอร์มาหารือว่าร่างที่มีการเขียนไว้แล้ว มีความคิดเห็นอย่างไร มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปฏิบัติตาม

ส่วนการผลักดันกฎหมาย ขณะนี้ในสภาจะเดินหน้าเสนอแก้ พ.ร.บ.อินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งจะมีเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาหาร และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคอยู่ด้วย เป็นความรับผิดชอบของผู้โฆษณา เพราะอินฟลูเอนเซอร์ ถือเป็นผู้โฆษณา และการโฆษณาเป็นเป็นส่วนหนึ่งของสินค้า อินฟลูเอนเซอร์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาที่ต้องรับผิดต่อผู้บริโภค. -918 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย