ปี 68 พลังงานทางเลือกมีบทบาทมากขึ้นทั่วโลก

กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเผย ปี 2568 พลังงานทางเลือกจะมีบทบาทมากขึ้นทั่วโลก โดยแนวโน้มในการใช้รถ EV และพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งพลังงานทางเลือกอื่น ๆ ได้รับความนิยมเพิ่มจากความตื่นตัวเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ทั่วโลกหันมาให้ตระหนักและให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยได้บูรณาการประเด็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเรื่องการค้าและการลงทุน โดยสิ่งที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ประการสำคัญคือ การผลิตและการบริโภคที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้พลังงานสะอาด ความตื่นตัวมากขึ้นในปัจจุบัน โดยพบแนวโน้มในการใช้รถ EV และพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งพลังงานทางเลือกอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม

สำหรับในประเทศไทยสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ ความมั่นคงทางพลังงานด้วยการบริหารจัดการการจัดเก็บพลังงานเพื่อให้เกิดความเสถียรมากพอและการรักษาสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม สถานการณ์พลังงานทางเลือกที่ประเทศต่าง ๆ เห็นว่าจะเป็นทางออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) หรือ Small Modular Reactor เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบโมดูลาร์ขนาดเล็ก ซึ่งหลายประเทศ เช่น อังกฤษ และแถบยุโรป เริ่มมีการศึกษาแล้ว ขณะที่ประเทศไทยก็ต้องศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติมในหลายมิติ เพื่อให้การวางแผนระยะยาวและให้เกิดการสมดุลทั้งในเรื่องการลดพลังงานจากน้ำมัน แก๊สธรรมชาติ ขณะเดียวกันพลังงานทดแทนก็ต้องเข้ามาช่วยเสริมในสิ่งที่ถูกลดลงไป


ในขณะเดียวกันทั่วโลกก็มีการพูดถึงและตื่นตัวในเรื่องคาร์บอนเครดิต เพื่อให้การซื้อขายอย่างมีกฎระเบียบที่ชัดเจน เราจะมีการดำเนินการให้เหมาะสม ขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการออกระเบียบ เพื่อให้มีความชัดเจน รวมทั้งการซื้อ-ขาย มีการแลกเปลี่ยนอย่างไร ทั้งในและต่างประเทศ ทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรม และสร้างความรู้ ความเข้าใจเพื่อลดความกังวลของฝ่ายที่เข้าใจว่าเป็นกระบวนการฟอกเขียวของผู้ประกอบการ

สำหรับเป้าหมายของประเทศไทยในตอนนี้ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 แม้จะเป็นเวลาอีกราว 20 – 30 ปี แต่จำเป็นต้องมีการกำหนดทิศทางที่ชัดเจน เพื่อมีเป้าหมายและการดำเนินงานความเป็นกลางไปสู่เป้าหมายโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยส่วนหนึ่งต้องมีพื้นที่สีเขียวเพื่อมาดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ตามยุทธศาสตร์ชาติจะมีพื้นที่สีเขียวของประเทศไทยประมาณ 55% ของพื้นที่ประเทศ ซึ่งหากสามารถสร้างได้ทั้ง ป่าอนุรักษ์ ป่าเศรษฐกิจ และป่าในเมือง จะสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาได้กว่า 120 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า รวมทั้งการดำเนินงานในการลดการปล่อย โดยนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยในการลด และหากได้รับความร่วมมือกับภาคภาคเอกชนจะสามารถขับเคลื่อนให้ถึงเป้าหมายตามกรอบเวลาได้ เพื่อให้ประเทศไทยมุ่งสู่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

ทั้งนี้ ปัญหาสิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยในปี 2567 พบว่าผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแปรปรวนสภาพอากาศ ส่งผลต่อความแห้งแล้งในช่วงต้นปี และน้ำท่วมช่วงปลายปีในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย และพื้นที่ภาคใต้ วิกฤตที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นทั้งความถี่ และความรุนแรง โดยน้ำท่วมที่เชียงรายได้นำพาตะกอนมาจำนวนมาก จะต้องใช้ทรัพยากรและงบประมาณในการฟื้นฟูจำนวนมาก


ปัจจุบันอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยตามความตกลงปารีสเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ที่มีเป้าหมายหลักในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคก่อนปฎิวัติอุตสาหกรรม โดยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งน้ำแข็งขั้วโลกละลายส่งผลสู่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และในอนาคตอาจเกิดเป็นวิกฤตต่างๆ ที่ตามมาได้ รวมถึงยังมีผลกระทบต่อการแปรปรวนสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว อย่าง เอลนีโญ หรือลานีญา เป็นต้น

ขณะเดียวกันทั่วโลกยังให้ความสำคัญในเรื่องความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเปรียบเทียบกับช่วงก่อนพัฒนาอุตสาหกรรม ประมาณ 280 ppm ซึ่งตอนนี้พบในปริมาณ 420 ppm ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก สำหรับประเทศไทยพบว่าปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่ถึง 1% ของทั่วโลก แต่กลับอยู่ในอันดับ 9 ของโลกที่จะได้รับผลกระทบเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งหมดนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไทยต้องให้ความสําคัญในการจัดการเพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย. -512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

จับลูกเรือประมงไทย

ไร้ 4 ลูกเรือประมงไทย ถูกปล่อยตัววันชาติเมียนมา

ครบรอบวันชาติเมียนมา ปล่อยตัว 151 คนไทยถูกหลอกทำงานคอลเซนเตอร์ หลังรับโทษจำนวนหนึ่งก่อนได้รับอภัยโทษ ยังไร้ 4 ลูกเรือประมง

วิสามัญผู้ป่วยคลั่ง

วิสามัญผู้ป่วยผ่าไส้ติ่ง คลั่งคว้าขวานไล่ฟันคนในโรงพยาบาล

ผู้ป่วยผ่าไส้ติ่ง คลั่งคว้าขวานดับเพลิง กำเสาน้ำเกลือ อาละวาดไล่ทำร้ายหมอ พยาบาล คนไข้ ตำรวจมาระงับเหตุไม่หยุดพุ่งเข้าใส่ โดนยิงสวนดับคาโรงพยาบาล

ยิงตำรวจ

ฟันข้อหาหนักมือยิง ตร.สายไหม ยังให้การวกวน

“ช่างสันต์” มือปืนยิงตำรวจสายไหม เสียชีวิต ยังมีสภาพเมาค้าง ให้การวกวน ตำรวจเตรียมสอบปากคำเพิ่ม ฟันข้อหาหนักฆ่าเจ้าพนักงาน ก่อนคุมตัวไปทำแผนพร้อมฝากขัง ด้านญาติยอมรับชอบดื่มสุรา มีนิสัยเงียบขรึม

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด ภาคเหนือ-อีสาน เย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ มวลอากาศเย็นค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมไทยแล้ว ทำให้ไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง ภาคเหนือและอีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ตอนล่างฝนเพิ่มขึ้น