กรมอุตุฯ แจงยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุในทะเลจีนใต้

กรุงเทพฯ 7 ต.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุจากนี้จนถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นปลายฤดูฝนของประเทศไทยตอนบน ยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุใกล้ประเทศไทย ชี้ในมหาสมุทรแปซิฟิกอาจมีพายุลูกใหม่ก่อตัวขึ้น แต่คาดเส้นทางการเคลื่อนตัวจะไปทางประเทศญี่ปุ่น


นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า จากวันนี้จนถึงกลางเดือนตุลาคมยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุในทะเลจีนใต้ โดยปัจจุบันใกล้สิ้นสุดฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนและคาดว่า จะเข้าสู่ฤดูหนาวในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม มวลอากาศเย็นจากจีนเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมแล้ว ฝนจะค่อยๆ ลดลง อาจมีฝนและฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่จากแนวปะทะของมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมากับมวลอากาศที่อุ่นกว่า

ทั้งในสถิติการเกิดพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกจะเกิดขึ้นเฉลี่ยปีละ 27 ลูก เกิดขึ้นแล้ว 18 ลูก สำหรับสถิติของพายุที่มีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยเฉลี่ยปี 1 – 2 ลูก ขณะนี้เข้ามาแล้ว 1 ลูกคือ พายุซูลิก ดังนั้นพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เหลืออีก 9 ลูก หากจะเข้าสู่ประเทศไทยจะมีทิศทางการเคลื่อนตัวจากตะวันออกไปตะวันตก โดยเข้าสู่ภาคใต้ในเดือนตุลาคมถึงธันวาคมซึ่งเป็นฤดูฝนของภาคใต้ ส่วนทางตอนบนเชื่อว่า จะไม่มีพายุเข้ามาและเพิ่มปริมาณฝนในพื้นที่แล้ว


นายสมควร กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงวันที่ 8 – 9 ตุลาคม 2567 ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยเนื่องจากมวลอากาศเย็นเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้ คลื่นลมแรงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนตอนบนของประเทศฝนลดลง แต่ด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลางได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก กาญจนบุรี อุทัยธานี และราชบุรียังมีฝนและฝนฟ้าคะนองจึงยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนสะสม ขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ในตอนเช้าๆ อากาศเย็นเริ่มเย็น จากนั้นระหว่างวันที่ 10 – 16 ตุลาคม 2567 มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง จึงทำให้ลมที่พัดปกคลุมมีทิศทางแปรปรวน ฝนจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยยังเกิดขึ้นได้บริเวณภาคเหนือด้านตะวันตก ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล รวมถึงภาคใต้

ในอีก 2 วันข้างหน้า หย่อมความกดอากาศต่ำในมหาสมุทรแปซิฟิกอาจพัฒนาเป็นพายุ แต่มีทิศทางเคลื่อนไปยังประเทศญี่ปุ่น.- 512 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน