รวบสาวสองหลอกลงทุนผลิตชุดตรวจ ATK ทิพย์

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – ตำรวจรวบสาวสองหลอกลงทุนผลิตชุดตรวจ ATK ระบุมีการจ้างโรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกในการผลิต แต่เมื่อได้เงินทุนมาแล้วได้นำไปเล่นพนันจนหมดตัว มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก “ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวน ภ.2 รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าได้ถูกหลอกให้ลงทุนและถูกโกงเงินลงทุนไป เป็นเงินจำนวนประมาณ 2,300,000 บาท โดยอาศัยช่วงวิกฤติ Covid-19 หลอกให้ผู้เสียหายออกทุน เพื่อผลิตชุดตรวจ ATK โดยหลอกว่าจะมีการว่าจ้างโรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกในการผลิต แต่ปรากฏว่าเมื่อได้เงินทุนมาแล้วได้นำไปเล่นพนันจนหมดตัว ต่อมาเดือน มิ.ย.65 ผู้ต้องหาก็หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ จึงประสานความร่วมมือกับนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ได้วิเคราะห์รูปแบบการกระทำความผิดพบว่า มีผู้เสียหายทั่วไทยอีกไม่ต่ำกว่า 30 คน ถูกหลอกลวงในแผนประทุษกรรมเดียวกัน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

โดยมีรูปแบบการกระทำความผิดเริ่มจากผู้ต้องหาจะใช้ความสามารถพิเศษของการให้ทำตัวน่าเชื่อถือมีอาชีพบังหน้าว่าเป็นเจ้าของออแกไนซ์รับจัดงานแต่งงาน งานอีเว้นท์ต่าง ๆ สร้างเครดิตให้ตนเอง แล้วอาศัยการตีสนิทในการเข้าหาสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น และจากข้อมูลของผู้เสียหายพบว่ามิจฉาชีพรายนี้เป็นสาวประเภท 2 ทำให้บุคลิกการพูดคุยเข้าหาผู้อื่นทำให้เกิดความสนิทสนมได้ง่าย โดยผู้เสียหายทั้งหมดที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้หลอกลวงล้วนเป็นคอนเนคชั่นที่มิจฉาชีพตั้งใจสร้างขึ้นทั้งสิ้น ซึ่งน่าตกใจที่ผู้เสียหายทั้งหมดกล่าวเป็นเสียงเดียวกันถึงมิจฉาชีพว่า “รู้จักแต่ไม่สนิท” ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กับมิจฉาชีพจนกระทั่ง พนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายพงศ์ดนัย หรือเฟรน ชาว อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 489/2565 ลงวันที่ 18 ก.ค. 65 ข้อหา “ฉ้อโกง” และยังมีอีกไม่ต่ำกว่า 10 คดี พนักงานสอบสวนท้องที่ต่าง ๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหารายนี้ อาศัยสถานการณ์โรคระบาดซ้ำเติมหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุนผลิตชุดตรวจสอบโควิด-19 สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จนมีเหยื่อโพสต์โลกโซเชียลติดตามตัวจำนวนมาก

วานนี้ (2 ส.ค.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร (PCT) สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พร้อมคณะได้นำกำลังบุกจับกุมนายพงศ์ดนัย จับกุมได้ที่ในพื้นที่ ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยชั้นจับกุม นายพงศ์ดนัย ให้การภาคเสธโดยแจ้งว่า “ตนเองจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.พิษณุโลก จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ ได้ใช้อาชีพออน์แกนไนท์เข้าตีสนิททำความรู้จักคนมีฐานะดี โดยหลอกว่าจะนำเงินไปลงทุนเพื่อซื้อชุดตรวจ ATK โดยจะปลอมใบเสนอราคาไปให้กับผู้เสียหายเพื่อให้หลงเชื่อ แต่ความจริงไม่ได้นำเงินไปซื้อชุดตรวจ แต่นำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ โดยยอมรับว่าตนเองแทงหวย 3 ตัวแม่น และเมื่อได้เงินกำไรก็จะคืนไปยังผู้เสียหายตามรอบบิลที่ตกลงกันเสมือนว่ามีการขายชุดตรวจ ATK จริง ๆ กระทั่งเมื่อถึงเดือน มิ.ย.65 ตนเองนำเงินที่หลอกผู้เสียหายมาเล่นพนัน แต่ตนเสียจนเงินหมดตัว จากนั้นก็ไล่ยืมคนอื่น ๆ เอามาทบไปทบมาจนสุดท้ายเหลือเงินติดตัวเพียง 50,000 บาท และไม่สามารถชดใช้เงินให้ใครได้ จึงเริ่มปิดช่องทางการติดต่อและหลบหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ จ.กาญจนบุรี และนำอุปกรณ์สื่อสารเครื่องเก่าไปขาย จากนั้นได้เริ่มตัวตนใหม่เข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาญจนบุรีโดยไม่ติดต่อกับใครอีก หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวนายพงศ์ดนัย มาถึง สน.บึงกุ่ม เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ได้มีผู้เสียหายหลายรายได้มารอเพื่อพบและทวงหนี้กับผู้ต้องหาซึ่งพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ได้รับตัวผู้ต้องหาและทำการสอบสวนขยายผลต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า “ชุดลาดตระเวนออนไลน์ตามแนวคิดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 รับแจ้งและวิเคราะห์กระทำต่อเหยื่ออาศัยช่วงเหตุการณ์โควิด-19 ให้ดูน่าเชื่อถือใน 3 ลักษณะคือ ใช้ความสนิท โดยจะใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการเข้าหาเหยื่อ สร้างคอนเนคชั่นกับเหยื่อ จากนั้นจะสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะตบท้ายด้วยการสร้างความโลภให้กับเหยื่อ จึงเข้าสู่กระบวนการหลอกลวง ฉะนั้นแล้วขอเตือนประชาชนว่าการตัดสินใจลงทุนต่าง ๆ นั้น ต้องมองให้ถึงหลักการและเหตุผลที่แท้จริงของการลงทุน และผู้ใดถูกหลอกให้ลงทุนชุดตรวจสอบ ATK โดยเฉพาะในภาคตะวันออก บางแสน พัทยา ชลบุรี ให้ติดต่อสืบสวน ภาค 2 ผ่านทางเพจ หรือ Facebook. -สำนักข่าวไทย