กรุงเทพฯ 28 ธ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งเงินกู้บัตรประชาชนใบเดียว ค้น 10 จุดเป้าหมาย จับ 14 ตัวการสำคัญ พร้อมยึดบัญชีธนาคารและของกลางอื่นๆ รวมกว่า 200 รายการ
กำลังตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ร่วมกับกองบังคับการปราบปราม และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดปฏิบัติการ “สอบสวนกลาง ปราบแก๊งโกงกู้” โดยกำลังกว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 10 จุด ในพื้นที่กบินทร์บุรี ปราจีนบุรี พัทยา สระแก้ว นครราชสีมา สมุทรสงคราม และฉะเชิงเทรา จับกุมผู้กระทำความผิดได้ 14 ราย ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ บัญชีธนาคาร 65 รายการ โทรศัพท์มือถือ 78 เครื่อง เอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกรรม 16 รายการ เอกสารเกี่ยวกับคดี 14 รายการ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 9 ใบ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1 รายการ และของกลางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 207 รายการ รวมมูลค่ากว่า 2,383,600 บาท
ทั้งนี้ หลังธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ออกผลิตภัณฑ์ให้สินเชื่อในรูปแบบออนไลน์ โดยประชาชนสามารถขอสินเชื่อผ่านสมาร์ทโฟนได้ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ซึ่งหากเอกสารครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อภายใน 30 นาที ทำให้ประชาชนได้รับอนุมัติวงเงินกู้เร็วขึ้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมิจฉาชีพเห็นช่องโอกาสจากมาตรการดังกล่าว จึงหลอกลวงประชาชนที่ขาดรายได้และต้องการเข้าถึงแหล่งทุน โดยออกกลอุบายชักชวนว่าสามารถหาแหล่งเงินทุนให้ได้ เพียงแค่นำบัตรประชาชนใบเดียวมาให้ ก็สามารถกู้เงินได้
กระทั่งประมาณเดือน ส.ค.64 มีประชาชนในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ร้องเรียนว่า ถูกกลุ่มมิจฉาชีพซึ่งเป็นนายหน้าอ้างว่าสามารถหาเงินกู้ให้ได้ จึงหลงเชื่อและมอบบัตรประชาชนให้ไป หลังจากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพพาไปสแกนใบหน้ากลางป่าในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งของการยื่นกู้
จากนั้นประมาณ 1 เดือน กลุ่มมิจฉาชีพได้นำโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมามอบให้ พร้อมกับเงินกว่า 40,000 บาท ซึ่งอยู่ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นไม่นานผู้เสียหายได้รับใบแจ้งหนี้จากธนาคารว่า ตนเองเป็นหนี้ 160,000 บาท จึงได้พากันมาร้องเรียน
จากกรณีดังกล่าวทำให้ประชาชนจำนวนมากตกเป็นลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์โดยไม่รู้ตัว แต่ได้รับเงินจริงเพียง 1 ใน 4 ของยอดเงินกู้ โดยคนร้ายได้เงินไปจำนวนมาก แต่ภาระหนี้สินตกอยู่กับพี่น้องประชาชนที่ถูกหลอกลวง จึงนำมาสู่ปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย