กทม. 3 ส.ค. – กลุ่มผู้เสียหายร้องตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจให้ตามจับชายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนบริษัทน้ำมันดัง หลอกเงินผู้เสียหายมากกว่า 10 คน รวมมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท
น.ส.เพชรสุวรรณ เสื้อสุนทรชัยกุล และกลุ่มผู้เสียหายประมาณ 10 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจ ปอศ. หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนบริษัทน้ำมันดัง รวมมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท พร้อมเล่าพฤติการณ์ของชายมิจฉาชีพรายนี้ รู้จักเมื่อ 1-2 ปีก่อน ผ่านเพื่อนสนิทมาร่วมลงทุนธุรกิจจดจำนองที่ดินด้วยกัน ทำทีมาตีสนิทเชื่อใจกัน อ้างว่าทำงานอยู่ที่บริษัทน้ำมันดัง ดูแลด้านการลงทุนภายในบริษัทมีบัตรประจำตัวพนักงานเอกสารรับรองเงินเดือนรวมถึงโปรไฟล์ต่าง ๆ มาแสดงจนทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงยอมร่วมลงทุนด้วย และจะได้ค่าตอบแทนจากการร่วมเงินลงทุน 5-10% ทุกเดือน ช่วงแรกผู้เสียหายได้ลงทุน 1 แสนบาท ได้รับเงินตอบแทนตามที่ตกลงไว้จึงเริ่มลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ จากหลักแสนเป็นหลักล้าน มากที่สุดประมาณ 2 ล้านบาท จากนั้นจึงชักชวนญาติและเพื่อนสนิทมาร่วมลงทุนเพิ่ม ซึ่งตลอดการร่วมลงทุนในช่วงเวลา 4 ปี ไม่มีความผิดปกติจ่ายเงินปันผลให้ตามที่ตกลงกันไว้
กระทั่งเดือนที่แล้วเริ่มไม่จ่ายเงินปันผลให้ โดยอ้างว่าบริษัทปรับลดเงินเดือนพนักงานลง 50% และระงับการลงทุนต่างๆ จึงไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ กลุ่มผู้เสียหายจึงพยายามทวงถามชายคนดังกล่าวแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงและทยอยคืนเงินมาให้บางส่วน จนเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวและกลุ่มเพื่อนตัดการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มผู้เสียหายทุกคน จึงทราบว่าชายคนดังกล่าวและกลุ่มเพื่อนไม่น่าจะนำเงินไปลงทุนจริง จึงเริ่มแกะรอยไปยังบริษัทน้ำมันที่โดนแอบอ้าง ได้รับคำตอบว่าชายคนดังกล่าวไม่มีชื่ออยู่ในบริษัทหรือเคยเป็นพนักงานมาก่อน ส่วนชื่อที่เซ็นกำกับในบัตรพนักงานก็เป็นเจ้าหน้าที่ระดับบริหารที่เกษียณอายุไปนานแล้ว
นอกจากนี้ยังพบมีประวัติเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมากับหลายครอบครัวแล้ว มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าครั้งละ 10 ล้านบาท จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายและทรัพย์สินกลับมาคืน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 4 บก.ปอศ.จะสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายทุกคนอย่างละเอียด ก่อนทำเรื่องเสนอให้ผู้บังคับการพิจารณาดำเนินการสืบสวนติดตามคนร้ายต่อไป. – สำนักข่าวไทย