กทม.6 ธ.ค.- รอง ผบช.น. รับมีการรายงานข้อมูลลอบเล่นการพนันในพื้นที่ กทม. เมื่อเข้าตรวจสอบมักไม่พบการกระทำความผิดชัดเจน ย้ำตำรวจกวดขันและขยายผลทุกคดี
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยผลการเข้าตรวจค้นสถานที่ที่ได้รับข้อมูลว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน โดยจุดแรก เป็นคอนโดมิเนียมย่านปิ่นเกล้า พบเป็นเพียงห้องจัดเลี้ยง ไม่พบการกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนอีกจุด เป็นห้องพักรายวัน ย่านดอนเมือง พบตู้ไฟฟ้ารวม 5 ตู้ และโต๊ะพนัน 1 โต๊ะ พร้อมดำเนินคดีผู้ต้องหา 1 คน ซึ่งมีหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง ในข้อหาให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพักอาศัยซ่อนเร้นฯ และรับคนต่างด้าวเข้าทำงาน และเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเสือ-มังกร และทำกิจกรรมมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
ส่วนการจับบ่อนการพนันย่านแจ้งวัฒนะ 14 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ล่าสุด ศาลมีคำพิพากษาจำคุกเจ้ามือ 13 คน เป็นเวลา 7 เดือน ปรับ 15,000 บาท เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง ในส่วนของผู้เล่น 81 คน จำคุก 15 วัน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี ส่วนความผิดอื่น ทั้งฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ อยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมหลักฐาน ก่อนส่งอัยการมีความเห็นทางคดีต่อไป
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าตำรวจจะขยายผลทุกกรณีที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอ้างว่าเข้าไปเล่นการพนันในสถานที่ต่าง ๆ ส่วนการเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย แล้วไม่พบผู้เล่นการพนัน เชื่อว่ามีการเคลื่อนย้ายสถานที่และอุปกรณ์การพนันไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีบุคคลหรือหน่วยงานใด อนุญาตให้เปิดให้เล่นการพนัน พร้อมยืนยันว่ามีการแจ้งเบาะแสข้อมูลการลักลอบเล่นพนัน และหากมีพยานหลักฐานถึงนายทุน เจ้ามือ ผู้เล่น ก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด ส่วนการพิจารณาโยกย้ายนายตำรวจในท้องที่ที่ตรวจพบบ่อนการพนัน จะต้องดูที่พฤติกรรม และความบกพร่องที่ผ่านมา หากพบว่าปล่อยปละละเลยก็ต้องถูกดำเนินการทางวินัยโดยไม่ละเว้น.- สำนักข่าวไทย