cleaning up เมืองปทุม พบคาราโอเกะเถื่อนแฝงขายยาเสพติด

ปทุมธานี 2 มี.ค.-เปิดปฏิบัติการ cleaning up เมืองปทุม ทลายห้องแห่งความลับคาราโอเกะย่านรังสิตคลองสอง พบลักลอบเปิดคาราโอเกะเถื่อนติดต่อเอเย่นต์แอบแฝงขายยาเสพติดให้ลูกค้าครบวงจร ด้าน ผู้ว่าฯ ปทุม เตรียมสั่งปิด 5 ปี ขยายผลเส้นทางการเงินดำเนินคดียาเสพติด

เมื่อเวลา 03.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี โดย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี สั่งการให้นายธรรมนูญ แจ่มใส ปลัดจังหวัดปทุมธานี นายรณกร เผ่าวิจารณ์ นายอำเภอธัญบุรี บูรณาการร่วมกับเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จากสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 นำกำลังเข้าจับกุมสถานบริการคาราโอเกะเถื่อน ย่านรังสิตคลองสอง ลักลอบเปิดเป็นคาราโอเกะให้บริการลูกค้า แอบแฝงการขายยาเสพติดอย่างครบวงจร ภายใต้ ปฏิบัติการปฏิบัติ cleaning up เมืองปทุมทลายห้องแห่งความลับคาราโอเกะ


จุดเริ่มต้นของปฏิบัติการมาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ตามนโยบายจัดระเบียบสังคม กรณีมีสถานบริการผิดกฎหมาย เปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต มีการจำหน่ายยาเสพติดภายในสถานบริการ และจงใจปล่อยปละละเลยให้มีการใช้ยาเสพติดภายในสถานบริการ ในพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ทำให้ย่านนั้นเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด และก่อให้เกิดภัยสังคมในรูปแบบอื่นตามมา ประชาชนอยู่อย่างไม่สงบสุข

โดยสายลับพนักงานฝ่ายปกครองได้เข้าทำการสืบสวนข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนดังกล่าว พบว่า จุดสำคัญของนักเที่ยวในย่านนั้น เป็นสถานที่จำหน่าย สุรา อาหาร และเครื่องดื่ม มีดนตรีการแสดงดนตรีเพื่อการบันเทิงและยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้พนักงานนั่งกับลูกค้า อันเป็นการตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และที่สำคัญเมื่อร้านหยุดให้บริการในทุกคืนแล้ว จะมีพนักงานคอยแนะนำลูกค้าให้ไปใช้บริการต่อที่ห้องลับคาราโอเกะ แบบ VIP ซึ่งแฝงตัวอยู่ในชั้น 2 ของอาคาร อาร์ บี ดี เพลส ซึ่งอยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามร้าน… และยังสามารถติดต่อขอซื้อยาเสพติดได้จากพนักงานของร้าน ซึ่งตามมาให้บริการลูกค้าต่อหลังจากที่ร้านปิดให้บริการแล้วด้วย โดยมีผู้จัดการเป็นคนเดียวกันกับผู้จัดการของร้าน ซึ่งการโอนเงินซื้อยาเสพติด สามารถโอนเข้าบัญชีของพนักงานหรือของผู้จัดการร้านได้


ทั้งนี้ในบริเวณซอย รังสิต – นครนายก 32 ยังมีห้องคาราโอเกะขนาดใหญ่ อยู่ติดกับอาคาร อาร์ บี ดี เพลส พนักงานแจ้งกับทีมสายลับว่าเป็นห้องที่ไว้ต้อนรับนักเที่ยวเพื่อปาร์ตี้เสพยาเสพติด ซึ่งต้องมีลูกค้าจำนวนมากจึงจะสามารถเข้าใช้ได้ และเป็นแหล่งจำหน่ายยาเสพติดหลากหลายประเภท มีทั้ง ยาอี ยาเค แฮปปี้วอเตอร์ และน้ำบลู ยาเสพติดรูปแบบใหม่ เป็นที่ยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นย่านรังสิต สิ่งที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ ภายในร้าน พนักงานสามารถติดต่อขอซื้อยาเสพติดมาให้บริการลูกค้า พร้อมอุปกรณ์การเสพอย่างครบครัน พนักงานบริการดีเยี่ยม เสพยาเสพติดไปพร้อมกับลูกค้าเพื่อไม่ให้ลูกค้าเหงา

จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.50 น. สายลับพนักงานฝ่ายปกครองทำการสืบสวนจนทราบการกระทำความผิดจนแน่ชัด และได้แจ้งชุดจับกุมเข้าทำการตรวจค้น ห้องลับคาราโอเกะในเครือเดียวกับร้านแรก เจ้าพนักงานเข้าตรวจค้นห้องคาราโอเกะทุกห้อง พบยาเสพติดในตัวพนักงานของร้าน และหลักฐานการโอนเงินค่ายาเสพติด พร้อมทั้งหลักฐานการติดต่อซื้อยาจากเอเย่นต์ในกลุ่มไลน์ นอกจากนี้ยังได้พบยาเสพติดในรถของผู้มาใช้บริการบางคนด้วย

ภายหลังการเข้าตรวจค้น จับกุม เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 ได้ตรวจปัสสาวะนักเที่ยวและพนักงานของคาราโอเกะทุกห้อง พบปัสสาวะมีสารเสพติด จำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่ได้นำเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายยาเสพติดต่อไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สอบถามพนักงาน ยอมรับว่าได้ติดต่อเอเย่นต์เพื่อนำยามาบริการลูกค้าจริง


สำหรับคาราโอเกะที่ลับลอบเปิดเป็นสถานบริการ และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ ซึ่งชุดจับกุมได้จับกุมผู้แสดงตัวเป็น ผู้จัดการ/เจ้าของร้าน ในข้อหาตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และจับกุมพนักงานบริการของร้านในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เตรียมพิจารณาสั่งปิดสถานที่มีกำหนด 5 ปี

ส่วนกรณียาเสพติด เจ้าพนักงานชุดจับกุมจะได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าไปถึงผู้ใดบ้าง เพื่อดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินตามมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อไป.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย