รวบแก๊งลักของเก่าควงปืนปล้นโรงงานร้างกลางเมืองนครปฐม

นครปฐม 11 ม.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งลักของเก่า ควงอาก้า ปล้นโรงงานร้างกลางเมืองนครปฐม เสียหายกว่า 2 ล้านบาท


เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม 10 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ฐานความผิด “ร่วมกันลักทรัพย์โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า, โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด อาทิ รถยนต์กระบะ 2 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ผู้ต้องหากลุ่มแรกจำนวน 8 คน ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ได้เข้าไปลักสายไฟภายในโรงงานร้างแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม โดยถอดบานเกล็ดของอาคารแล้วมุดเข้าไปตัดลักสายไฟภายในโรงงาน ได้สายไฟหนักประมาณ 300 กิโลกรัม แล้วขนขึ้นรถกระบะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ


​ต่อมาวันเดียวกันกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มแรก 8 คน ได้ตกลงใจกันว่าจะเดินทางไปลักลอบตัดสายไฟที่โรงงานที่เกิดเหตุอีก แล้วชักชวนกำลังคนมาก่อเหตุเพิ่ม รวมเป็น 18 คน โดยเวลาประมาณ 22.00 น. กลุ่มผู้ต้องหาได้ลงมือก่อเหตุ โดยแบ่งการทำงานเป็น 3 กลุ่ม ได้สายไฟน้ำหนักราว 1 ตัน รวมความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

​หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหากับพวกจำนวน 14 คน (อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ 4 คน) โดยก่อนหน้านี้สามารถจับกุมได้ 3 คน เหลือที่ยังหลบหนีอีก 11 คน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้รับการประสานจาก ภ.จว.นครปฐม ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือ จนทราบว่าผู้ต้องหาที่เหลืออีก 11 คน หลบหนีไปซ่อนบริเวณแคมป์คนงาน ไม่มีเลขที่ ย่าน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหา ได้เพิ่มอีก 9 คน

​ต่อมาวันที่ 11 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 11.45 น. ได้สืบสวนต่อเนื่องจนทราบว่า นายภีราพัฒน์ หัวหน้ากลุ่มที่ 1 ซึ่งใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานรักษาความปลอดภัย ได้หลบหนีไปอยู่ที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ม.7 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังไปจับกุมได้ที่บริเวณดังกล่าว และพบรถยนต์คันที่ นายภีราพัฒน์ ขับไปก่อเหตุ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพิ่มเติมแล้วนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพรงมะเดื่อ จ.นครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


เบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1-9 ให้การภาคเสธ โดยให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันเข้าไปลักตัดสายไฟจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพกพาอาวุธปืนไปใช้บังคับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนผู้ต้องหาที่ 10 ให้การว่าในวันเกิดเหตุตนไปกับผู้ต้องหาที่ 1-9 จริง แต่ไม่ได้พกพาอาวุธไปแต่อย่างใด.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก