กรมศุลฯ แถลงปิดคดีประมูลนาฬิกาหรูปลอม เตรียมฟ้องแพ่งตัวแทนสิทธิ

กรุงเทพฯ 11 ส.ค.- อธิบดีกรมศุลกากร แถลงปิดคดีประมูลนาฬิการหรูปลอม ถือเป็นบทเรียนราคาแพงในประวัติศาสตร์ ดําเนินการฟ้องแพ่งตัวแทนสิทธิเรียกค่าเสียหายจํานวนมาก สำหรับการประมูลหลังจากนี้จะปรับปรุงแนวทางให้ชัดเจนและรัดกุมมากขึ้น


นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงปิดคดีกรมศุลกากรประมูลขายนาฬิกาปลอม โดยยอมรับว่าความผิดพลาดครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ถือเป็นบทเรียนราคาแพง และยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซํ้าอีก

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2566 กรมศุลกากรมีการเปิดประมูลขายนาฬิกาหรูรวม 14 เรือน ที่ตรวจยึดได้จากร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวัน จากนั้นจึงดําเนินการตามขั้นตอนในการเก็บรักษาและตรวจสอบทรัพย์จากตัวแทนสิทธิในประเทศไทยที่ระบุว่าเป็นของจริง โดยมีหนังสือเอกสารยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษระบุว่าเป็นของแท้ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ จึงนําไปเก็บไว้ในห้องมั่นคง โดยมีกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างใกล้ชิด


จนกระทั่งเมื่อมีการประมูลเสร็จสิ้นเรียบร้อย ผู้ประมูลได้นาฬิกาที่ประมูลไปจํานวน 3 เรือน ราคารวมกว่า 4 ล้านบาท ไปตรวจสอบปรากฏว่าเป็นของปลอม จึงนํามาร้องต่อกรมศุลกากร และประสานขอตรวจสอบไปยังบริษัทตัวแทนสิทธิในประเทศไทยอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทางตัวแทนสิทธิในประเทศไทยประสานไปยังบริษัทตัวแทนสิทธิแม่ในฮ่องกง และระบุว่ามีการโทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ด้วยวาจาว่าพบนาฬิกาปลอม แต่ไม่มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรยืนยันกลับมา จึงทําให้ตัวแทนสิทธิในประเทศไทยกลับคําพูดว่าสรุปแล้วเป็นนาฬิกาปลอมทั้งหมด กรมศุลกากรจึงรับผิดชอบด้วยการคืนเงินเต็มจํานวน และยกเลิกการประมูลในครั้งนี้

นอกจากนี้ กรมศุลกากรตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยลงโทษเจ้าหน้าที่ด้วยการว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งมีการยอมรับว่ามีการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์แจ้งว่านาฬิกาเป็นของปลอมจริง แต่ไม่มีการติดตามเอกสาร จนระยะเวลาล่วงเลยไปถึงการเปิดประมูล นอกจากนี้ ทางกรมศุลกากรยังมีการฟ้องคดีเพ่งกับบริษัทตัวแทนสิทธิ โดยส่งสํานวนไปยังอัยการแล้ว

ในส่วนเจ้าของร้านที่ถูกจับกุมพร้อมตรวจยึดทรัพยสินที่อ้างว่านาฬิกาแท้นั้น ทางกรมศุลกากรเตรียมประสานไปยัง สคบ.ตรวจสอบ ส่วนจะมีการเปลี่ยนตัวแทนสิทธิบริษัทในประเทศไทยหรือไม่ เป็นหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่จะดําเนินการต่อ ซึ่งกรมศุลกากรไม่มีสิทธิเลือก


สำหรับการประมูลหลังจากนี้จะมีการปรับปรุงแนวทางให้ชัดเจนและรัดกุมมากขึ้น และจะมีระยะเวลาในการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินได้ภายใน 30 วัน โดยผู้ประมูลจะต้องนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบด้วย และหากจบการประมูลไปแล้วทางกรมศุลกากรจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับไทม์ไลน์ของเหตุการณ์เป็นดังนี้

1) วันที่ 24 กรกฎาคม 2565 กรมศุลกากรตรวจยึดนาฬิกาดังกล่าว และประสานงานไปยังตัวแทนสิทธิในประเทศไทย เพื่อดำเนินการตรวจสอบของกลางในคดี คือ นาฬิกาหรู จำนวน 13 เรือน

2) วันที่ 17 สิงหาคม 2565 ตัวแทนสิทธิเข้าตรวจสอบของกลาง ณ กรมศุลกากร และต่อมาวันที่ 8 กันยายน 2565 ตัวแทนสิทธิแจ้งผลการตรวจสอบเป็นหนังสือต่อกรมศุลกากรว่า นาฬิกาหรูดังกล่าวเป็นของแท้

3) หน่วยงานผู้รับผิดชอบในการจำหน่ายของกลางของกรมศุลกากรตรวจสอบเอกสารของแฟ้มคดีว่ามีความครบถ้วนถูกต้องแล้ว โดยยึดหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบจากตัวแทนสิทธิเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 เป็นเอกสารหลักฐาน และในวันที่ 18 เมษายน 2566 กรมศุลกากรอนุมัติให้มีการระงับคดี และดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการขออนุมัติจำหน่ายของกลาง โดยได้ทำการขายทอดตลาดนาฬิกาหรูดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2566 ซึ่งผู้ประมูลได้มาติดต่อชำระเงินค่าของและรับมอบนาฬิกาเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566

4) วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ผู้ประมูลได้มีความประสงค์ขอคืนของกลางที่ประมูลได้ และแจ้งว่านาฬิกาดังกล่าวเป็นของปลอม กรมศุลกากรจึงประสานตัวแทนสิทธิเพื่อตรวจสอบนาฬิกาที่จะคืนร่วมกันที่เป็นนาฬิกาชุดเดียวกันกับที่ตรวจยึด และตัวแทนสิทธิได้ยืนยันเป็นหนังสือว่านาฬิกาดังกล่าวเป็นของละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ของปลอม) กรมศุลกากรจึงยกเลิกการขายทอดตลาดนาฬิกาหรูแฟ้มคดีดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งคืนเงินที่ชำระทั้งจำนวน หรือเงินมัดจำให้แก่ผู้ประมูลทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย