ตร.เผยคดี “แอม ไซยาไนด์” คืบหน้า 80% เชื่อก่อเหตุคนเดียว

กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – รอง ผบก.ป. เผยสำนวนคดี “แอม” ในส่วนกองปราบฯ คืบหน้า 80% เชื่อก่อเหตุคนเดียว เนื่องจากแผนประทุษกรรมพบสบโอกาสลำพัง-ชวนกินข้าวทำบุญ ก่อนเหยื่อหลายรายดับปริศนา


เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 30 เม.ย.66 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีนางสรารัตน์ หรือ แอม ว่า วันนี้ได้เรียกสอบปากคำพยาน เป็นคนที่สนิทสนมกับแอม รวม 3 คน โดย พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ในวันนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้เชิญเพื่อน น.ส.แอม ซึ่งเป็นพยาบาลโรงพยาบาลย่านธนบุรี มาให้การในฐานะพยาน ในประเด็นข้อสงสัยพฤติกรรมโดยรวมของแอม รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มวงแชร์ต่างๆ เนื่องจากเพื่อนคนนี้จัดอยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของแอม เช่นเดียวกับ น.ส.จอย พยานที่เคยให้การไปก่อนหน้านี้ หลังแนวทางสืบสวนพบว่า เพื่อนคนนี้เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ แอม สรารัตน์ มักติดต่อไปหาเพื่อพูดคุยปรึกษาเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต รวมทั้งได้เรียกสอบปากคำนายกอล์ฟ ในประเด็นเรื่องถุงดำที่ใส่กระปุกสารไซยาไนด์ และ น.ส.แพร ด้วย หลังจากวานนี้ (29 เม.ย.) ได้มีการสอบปากคำนายรพี ในประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องและข้อมูลต่างๆ ไปแล้ว

ในส่วนคดี น.ส.ก้อย ของกองปราบฯ ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลอื่นที่ร่วมกระทำผิด รวมถึงตัวรอง ผกก.สอบสวน อดีตสามีของแอม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เรียกสอบปากคำไปแล้ว เจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นถึงการกระทำผิด เพียงแต่อยู่กินด้วยกันเท่านั้น หากพบหลักฐานเพิ่มเติมก็อาจเรียกสอบปากคำ ยืนยันตำรวจทำงานอย่างต่อเนื่องทุกวัน ตอนนี้คดีมีความคืบหน้าแล้ว 80%


ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า แอมอาจไม่ได้ลงมือก่อเหตุคนเดียว รอง ผบก.ป. บอกว่า จากแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหา พบว่าเจ้าตัวอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจของเหยื่อ ก่อนจะลวงไปทำบุญ กินข้าว ดื่มกาแฟ แม้คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก แต่ไม่จำเป็นต้องมีผู้ร่วมกระทำผิดหลายราย ส่วนเรื่องคดีความก็ได้กระจายให้ในแต่ละท้องที่ดำเนินการ

เมื่อถามถึงเรื่องการตรวจดีเอ็นเอบุตรในครรภ์ของแอม จะเป็นคณะทำงานชุดใดดำเนินการนั้น พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า เรื่องการตรวจดีเอ็นเอบุตรในครรภ์ของผู้ต้องหา อาจจะไม่ได้เกี่ยวในเรื่องของคดีอาญา ดังนั้น ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ต้องหา และในเรื่องของสำนวนคดี ไม่ว่าบุตรในครรภ์ของผู้ต้องหาจะเป็นบุตรของใคร ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญในทางคดี เป็นเรื่องที่สังคมคิดกันไปเท่านั้น

ส่วนภาพรวมของการดำเนินคดี ขณะนี้พบผู้เสียชีวิต 14 ราย (ที่เพิ่มมา คือ คดี น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย) รอด 1 คน รวมเป็น 15 กรณี โดยมีการรับเป็นคดีแล้ว 11 คดี ในจำนวนนี้มี 3 คดี ที่มีการออกหมายจับแล้ว คือ 1. คดีของ น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เม.ย.66 พื้นที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี (กองปราบฯ รับทำ) 2. คดีของ พ.ต.ต.หญิง นิภา หรือ ปู เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เม.ย.66 พื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม และ 3. ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นเคส น.ส.รสจรินทร์ หรือ เจ๊น้อยผัก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ส.ค.65 ส่วนคดีที่เหลืออยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลออกหมายจับ


ทั้งนี้ รายชื่อเหยื่อที่เพิ่มเข้ามาล่าสุด เพื่อตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นเหยื่อของแอมหรือไม่ คือ เคสของ น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย ซึ่งอยู่กับสามีที่ต่างประเทศ ก่อนกลับเข้ามาที่ประเทศไทย โดยแอมได้เดินทางไปรับที่สนามบิน และภายหลังเจอแอมก็เสียชีวิต ในพื้นที่ กทม. เมื่อปี 2558 เนื่องจากเหตุการณ์ของเหยื่อรายนี้เกิดขึ้นนานแล้ว จึงต้องนำมาตรวจสอบว่าเป็นกรณีของแอมด้วยหรือไม่ อีกทั้งทางครอบครัวของทรายยังไม่ได้แจ้งดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม เคสของทรายถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจ

ด้าน พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดีแอม เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (1 พ.ค.66) ที่สโมสรตำรวจ คณะพนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้นางลัดดา อายุ 64 ปี แม่ของ น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย อายุ 37 ปี ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ในพื้นที่กรุงเทพฯ เข้าให้ข้อมูล เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการสืบสวนว่า น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย มีความสัมพันธ์หรือมีความเชื่อมโยงกับแอมอย่างไรบ้าง ส่วนผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ได้มีการมอบหมายให้ตำรวจแต่ละท้องที่ดำเนินการ ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า ในการคลี่คลายคดีแอม คณะพนักงานสอบสวนไม่พบอุปสรรคแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น

นักการเมืองแห่งปี

“แพทองธาร” ปลื้ม นอร์ทโพล ประชาชนให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี”

“แพทองธาร” นายกฯ ปลื้ม นอร์ทโพล เผยประชาชนยกให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี” รับกดดัน แต่ขอทำงานเต็มที่-ไม่สร้างดราม่า ชี้ ครม.ทุกคนทำงานหนัก หากช่วยกันจะพัฒนาประเทศ