รวบเจ้าแม่บัญชีม้า ร่วมขบวนการหาบัญชีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้บอสคนจีน

16 ก.พ. – ตำรวจ PCT แกะรอยรวบ “ม้ามล” เจ้าแม่บัญชีม้า ยอมแฉหมดเปลือก ติดหนี้พนัน เข้าร่วมขบวนการหาบัญชีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้บอสคนจีน มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรม ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 และทีมสืบสวนนครบาลแกะรอยสืบสวนทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการปราบปรามขบวนการเปิดบัญชีม้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างเด็ดขาด พบมีการเปลี่ยนรูปแบบการหาบัญชีม้าต่างไปจากเดิม ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หน.PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 สืบสวนพบว่านางมล เป็นเจ้าแม่เปิดบัญชีม้าให้กับบอสชาวจีน หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท

วานนี้ (15 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัว นางมล อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับ โดยกล่าวหาว่าฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี


โดยสืบเนื่องจากปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดในปัจจุบันซึ่ง ผบ.ตร.ได้วางแนวทางการป้องกันและปราบปรามในทุกมิติ เสมือนการทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้มีการจัดตั้งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมคอยวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ ซึ่งต่อมาได้สืบสวนกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบ “หลอกให้หลงรักและลงทุนเหรียญดิจิทัล” จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT5 ทำการสืบสวนจนทราบแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้คือ จะมีการสร้างโปรไฟล์เป็นหนุ่มเกาหลีที่มีโปรไฟล์ดี อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาตีสนิท โดยพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อพูดคุยก็รู้ว่าคนร้ายเป็นคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้จริงๆ ทำให้เกิดความเชื่อใจ คนร้ายจึงชักชวนลงทุนเทรดสกุลเงินดิจิทัล Crytocurrency ผู้เสียหายก็มีความรู้ด้านสกุลเงินดิจิทัล Crytocurrency อยู่บ้าง จึงหลงกลคนร้ายลงทุนเทรดผ่าน MetaTrader 5 และ ในเว็บไซต์ ก็สามารถถอนออกได้จริง จึงหลงกลอุบายของคนร้าย ทำให้ใช้เงินลงทุนมากขึ้น โดยมีการโอนเงินไปให้กับคนร้ายที่บัญชีชื่อ น.ส.ดวงกมล จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ น.ส.ดวงกมล 3 หมาย คือ ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

ต่อมาตำรวจชุด PCT5 และสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ดวงกมล กบดานอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และมีพฤติกรรมพบปะกับ “บอสชาวจีน” ที่โรงแรมชื่อดังในพื้นที่พัทยาบ่อยครั้ง จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ในชั้นจับกุม น.ส.ดวงกมล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองไม่มีงานทำและติดการพนันออนไลน์ โดยเล่นในเว็บไซค์ และได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งทางเฟซบุ๊ก ซึ่งชักชวนให้เปิดบัญชีม้า ซึ่งตนเองต้องการใช้เงินจึงยอมทำทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย โดยจะมีคนพาไปที่ธนาคารและให้ตนเองเข้าไปเปิดบัญชีคนเดียว และเมื่อเสร็จแล้วก็จะส่งมอบสมุดบัญชีและบัตรให้ จากนั้นก็จะซื้อซิมเปิดเบอร์โทรศัพท์ให้ และจากนั้นจะไปพบกับบอสชาวจีนที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา เพื่อทำการยืนยันตัวตนในแอปฯ ธนาคาร ให้กับบอสชาวจีนคนนั้น ซึ่งหลังเสร็จแล้วจะได้ค่าเปิดบัญชีละ 1,500 บาท โดยผู้ที่ให้เปิดบัญชีอ้างว่าจะนำบัญชีไปใช้หมุนเวียนเว็บพนัน ตนเองไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้หลอกลวงเยอะขนาดนี้ โดยยอมรับว่าเปิดบัญชีจำนวนมากให้กับคนนี้ไปหลายบัญชีแล้ว” หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ได้นำตัว น.ส.ดวงกมล ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ด้วยระบบแอปฯ ของธนาคารในปัจจุบันมีการพัฒนา มีมาตรการที่รัดกุมมากขึ้น และด้วยจากสื่อสังคมที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ทำให้ประชาชนได้ทราบถึงโทษของการเปิดบัญชีม้า ซึ่งทำให้เหล่าผู้รับจ้างเปิดบัญชีย่อมมีน้อยลง แต่ด้วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้มีการพัฒนารูปแบบอยู่ตลอดเวลา มีการปรับแผนประทุษกรรมในการหาบัญชีที่มีความยากและรัดกุมมากขึ้น ซึ่งเราจะมีการขยายผลเพื่อตัดช่องทางการเปิดบัญชีม้าเหล่านี้ให้สิ้นซาก และขอเตือนไปยังประชาชนว่าการรับจ้างเปิดบัญชีม้านั้น ผู้ที่มาจ้างเปิดย่อมนำไปใช้ในทางที่ผิดอยู่แล้ว มิเช่นนั้นก็คงไม่ใช้ชื่อผู้อื่นเป็นคนเปิด และด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการระดมจับกุมกวาดล้างเหล่าผู้ต้องหา บัญชีม้า อย่างเข้มข้นตลอดมา ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ขอเตือนว่าอย่าคิดที่จะรับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้ใด มันไม่คุ้มได้คุ้มเสีย เพราะเมื่อได้รับจ้างเปิดบัญชีให้เหล่ามิจฉาชีพแล้ว อย่างไรก็ต้องถูกจับกุม เพียงแต่จะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล