ดาราสาวไต้หวัน ออกสื่อ ยืนยันไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้า

ไต้หวัน 31 ม.ค. – ดาราสาวไต้หวันอ้างถูกตำรวจไทยรีดเงิน ยืนยันไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมโพสต์ขอบคุณสื่อที่ช่วยแชร์ความจริง


“อันหยูชิง” ดาราสาวไต้หวัน โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมล่าสุด ระบุว่า “ขอขอบคุณ BBC และทุกท่าน สื่อทุกสื่อจากไต้หวันที่ได้ร่วมสละเวลาอันมีค่าของทุกท่าน เพื่อรับฟังและแชร์ความจริงขอบคุณในทุกๆคำพูด ที่แสดงถึงการให้กำลังใจ เพื่อสนับสนุนและใส่ใจในการให้ความช่วยเหลือฉัน ในการก้าวผ่านบาดแผลและความมืดมิด ขอบคุณในน้ำใจสำหรับสิ่งที่เพื่อนใหม่ชาวไทยร่วมกันทำ คุณสอนให้ฉันได้รู้จักความกล้าหาญที่ไม่มีกำแพงด้านภาษามาปิดกั้น ประเทศไทย วัฒนธรรมไทย ประชาชน อาหาร จะเป็นสิ่งที่พิเศษกับฉันเสมอไป ฉันจะมองไปข้างหน้าเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้น สำหรับการมาเยือนในอนาคต การค้นพบความจริงจะทำให้เรื่องนี้ยุติลง ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ “อันหยูชิง”

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังได้สัมภาษณ์สื่อไต้หวัน เคลียร์ปมเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเพจ “หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว” ได้แปลสรุป มี 6 ข้อหลักๆ โดยมีเนื้อหาบางช่วงบางตอน บอกว่า เรื่องการมีบุหรี่ไฟฟ้าและการไม่พกหนังสือเดินทางติดตัว เธอบอกว่าหากมีการละเมิดหรือทำกฎหมาย ก็ควรทำตามระเบียบแจ้งโทษและปรับเธอตามกฎมีใบเสร็จอย่างถูกต้อง แต่ตอนนั้นที่พวกเราถูกเรียกตรวจ กลับบอกให้พวกเราทุกคนจ่ายเงิน และหลบกล้อง


ตลอดตั้งแต่ที่มีเกิดเรื่องทั้งหมด ใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมง และตลอดเวลานั้นฉันไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้เลย เธอบอกว่าให้เพื่อนที่พูดไทยได้สื่อสารกับตำรวจ สุดท้ายเพื่อนก็บอกว่า “…พวกเขา (ชี้ไปที่รวจ) ต้องการให้เรานับเงิน 27,000 บาท และหลบกล้องด้วย…”

ส่วนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า เธอบอกว่า ตอนนั้นที่ด่านไม่มีบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไม่แน่ใจที่ว่าเพื่อนๆ ที่มาด้วยกัน มีการพกมาหรือไม่ แต่ตัวเองยืนยันได้เลยในตอนที่ถูกตรวจที่ด่านไม่มีบุหรี่ไฟฟ้า พวกเรามีกัน 8 คน แบ่งรถเป็น 2 คัน แต่ที่เธอมั่นใจ คือ ตอนก่อนจะถูกปล่อยตัวมา ตำรวจเป็นคนเอาบุหรี่ไฟฟ้ามาให้เธอและถ่ายรูป เธอบอกว่าเธอคงจะไม่กล้าบ้าขนาดถือบุหรี่ไฟฟ้าสูบต่อหน้าตำรวจ หากกล่าวหาว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นของเธอ ก็ต้องมีหลักฐาน และยังมาว่าเธอพูดมั่วได้อย่างไร เพราะเธอสามารถจะพูดตัวเลขเงินที่มากกว่านี้ก็ได้ แต่ทำไมต้องมาเจาะจง 27,000 บาท และถ้าเธอละเมิดเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าจริง ก็ออกใบเสร็จค่าปรับมา แต่นี่เธอกลับไม่ได้รับใบเสร็จ และยังยื้อให้อยู่ตรงนั้นนาน และเอาไป 27,000 บาท

สุดท้ายเธอย้ำว่า ผิดอะไรก็บอกมา ชี้แจงมา และปรับเธออย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่อยากเรียกเท่าไหร่ตามอำเภอใจ แล้วให้หลบกล้อง เธอได้ให้ความร่วมมือไปแล้ว เรื่องทุกอย่างส่งไปหมดแล้ว


ทั้งนี้บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย การจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ามีความผิดฐาน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ใดนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า หรือ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จะต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 โทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงินห้าเท่าของสินค้าที่นำเข้าหรือส่งออก หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 242 ของ พ.ร.บ.ศุลกากร หากนำเข้ามาใน หรือ ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ไม่ได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ

และมาตรา 246 ผู้ใดซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ ซึ่งของอันเป็นความผิดตามมาตรา 242 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคา ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งความผิดตามมาตรา 246 นี้ เป็นฐานความผิดที่เหมารวมตั้งแต่ “ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ” ผู้ขาย ผู้ซื้อ ตลอดจนผู้ครอบครองหรือได้รับมา ล้วนมีความผิดตามมาตรานี้ทั้งสิ้น

หากมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร สามารถระงับคดีในชั้นศุลกากรได้ ไม่ต้องส่งฟ้องคดีต่อศาล โดยจะปรับ 1 เท่า ของราคาของ รวมค่าอากร และปรับ 1 เท่า ของภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต ภาษีเพื่อมหาดไทย และภาษีอื่นๆ (ถ้ามี) พร้อมยกของกลางให้เป็นของแผ่นดิน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]

ศาล รธน.สั่ง “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ

ศาลรัฐธรรมนูญ 14 พ.ค.- มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ สั่ง “พ.ต.อ.ทวี​” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานบอร์ดคดีพิเศษ เหตุสงสัยว่าแทรกแซงรับสอบฮั้วเลือก สว. ส่วน “ภูมิธรรม” ยังรอด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีผู้ถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการ […]

แก๊งเผานั่งยางหนีขึ้นภูเขา จนท.จัดกำลังเร่งล่า

ตรัง 14 พ.ค. – เกาะติดคดีเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบกว่า 50 นาย เร่งวางกำลังไล่ล่า 4 มือเผา หลังได้เบาะแสทั้งหมดหนีขึ้นไปบนเขา ที่โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ชุดสืบสวนสอบสวน ภาค 9 ชุดสืบสวนสอบตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รวมกว่า 50 นาย พร้อมกับพราน และชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ ร่วมกันวางแผนติดตาม 4 ผู้ต้องหา คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

โป๊ปองค์ใหม่เริ่มใช้งานโซเชียลมีเดีย

วาติกัน 14 พ.ค. – สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเริ่มใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้หลังทรงได้รับเลือกเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงโพสต์ข้อความลงบนสื่อโซเชียลครั้งแรกเมื่อวานนี้ หลังจากทรงได้รับเลือกให้เป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื้อหาที่โพสต์มาจากพระดำรัสของพระองค์ที่ทรงปราศรัยต่อสาธารณชนครั้งแรก และมีรูปถ่ายบางส่วนซึ่งเป็นภาพในวันแรกที่ทรงเข้ารับตำแหน่งของพระองค์ เนื้อหาข้อความที่โพสต์มีใจความว่า “ขอให้สันติสุขอยู่กับพวกท่านทุกคน นี่คือคำทักทายแรกที่พระคริสต์ผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์ ข้าพเจ้าอยากให้คำทักทายแห่งสันติสุขนี้ก้องอยู่ในใจของพวกท่าน ในครอบครัวของท่าน และในหมู่ผู้คนทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดในทุกประเทศ และทั่วโลก” โป๊ปเลโอที่ 14 ทรงเลือกใช้บัญชีแพลตฟอร๋มเอ็กซ์ ที่เป็นบัญชีเดิมที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสผู้ล่วงลับ และสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงเคยใช้งานมาก่อนซึ่งบัญชีดังกล่าวมีผู้ติดตามมากถึง 52 ล้านคนจากบัญชีทั้ง 9 ภาษา ส่วนแพล็ตฟอร์มอินสตาแกรมทรงใช้ชื่อบัญชีใหม่ของพระองค์เอง คือ Pontifex – Pope Leo XIV ซึ่งจะเป็นบัญชีอย่างเป็นทางการเพียงบัญชีเดียวบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นของบริษัทเมตา ล่าสุดมียอดผู้ติดตามแล้ว 3.2 ล้านคน.-816.-สำนักข่าวไทย