คุก 15 ปี 5 ตำรวจรีดเงินชาวจีนแลกไม่ดำเนินคดีสวมบัตร

12 ก.พ. – ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งจำคุก 15 ปี 5 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ส่วนพลเรือน คนชี้เป้า เจอคุก 10 ปี ฐานสนับสนุน จากเหตุรีดเงินชาวจีน 10 ล้าน แลกกับการไม่ดำเนินคดีสวมบัตรประชาชน


ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาในคดีอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ด.ต.พีระศักดิ์ ผบ.หมู่ สืบสวน บก.ตม.1 กับพวกรวม 6 คน เป็นจำเลย ในคดีร่วมกันรีดเงินจากนักธุรกิจชาวจีน 10 ล้านบาท

อัยการโจทก์ ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า จำเลยที่ 1-5 ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ควบคุมตัวผู้เสียหายชาวจีนทั้ง 2 คน ขึ้นรถยนต์ไปที่ทำการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 บริเวณศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ แล้วไม่นำตัวผู้เสียหายเข้าสำนักงานฯ แต่กลับขับรถพาผู้เสียหายทั้งสองวนไปสถานที่ต่างๆ และเจรจาต่อรองเรียกเงินจากผู้เสียหายที่ 1 เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีแก่ผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทยโดยมิชอบ


ส่วนจำเลยที่ 6 ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน แต่เป็นผู้ร่วมวางแผนและนัดหมายผู้เสียหายให้ไปพบ เพื่อให้จําเลยที่ 1-5 จับกุมและเรียกรับเงิน ขอให้ลงโทษจําเลยทั้ง 6 คน

โดยศาลพิเคราะห์แล้ว พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักให้ฟังได้มั่นคงว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยที่ 1-5 ซึ่งได้รับข้อมูลจากจำเลยที่ 6 แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผู้เสียหายที่ 1 บุคคลสัญชาติจีน มีบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกให้โดยมิชอบ ออกปฏิบัติหน้าที่ติดตามไปพบผู้เสียหายที่ 1 เป็นบุคคลต่างด้าวมีพฤติการณ์อันควรสงสัย โดยมีผู้เสียหายที่ 2 เป็นล่ามให้ จึงเชิญตัวบุคคลทั้งสองขึ้นรถยนต์ แล้วเจรจาเรียกเงินจากผู้เสียหายที่ 1 จนกระทั่งตกลงกันได้เป็นเงิน 10 ล้านบาท

โดยบุตรชายผู้เสียหายที่ 1 โอนเงินดิจิทัล เข้าหมายเลขบัญชีจำเลยที่ 2 แจ้งให้โอนเข้า แล้วจำเลยที่ 1-5 จึงปล่อยตัวบุคคลทั้งสอง อันเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ


โดยมีจำเลยที่ 6 ร่วมกันกระทำผิดดังกล่าวในลักษณะแบ่งหน้าที่กัน เป็นตัวการสมคบร่วมกันกระทำผิดกับจำเลยที่ 1-5 แต่เมื่อจำเลยที่ 6 ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน ขาดคุณสมบัติเฉพาะตัว ตามที่กฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ จึงมีความผิดเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น

นอกจากนี้ ตามข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การเชิญผู้เสียหายทั้งสองไปเพื่อตรวจสอบ สืบเนื่องจากผู้เสียหายที่ 1 เป็นบุคคลต่างด้าว มีลักษณะอันควรสงสัยว่ากระทำผิดกฎหมาย โดยมีผู้เสียหายที่ 2 ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อเป็นล่าม ซึ่งไม่ปรากฏพฤติการณ์ของจำเลยที่ 1-5 มีการใช้กำลังบังคับข่มขืนใจ นอกจากนี้ เมื่อตามพฤติการณ์ช่วงเกิดเหตุ ผู้เสียหายที่ 1 ก็ไม่ต้องการให้จำเลยที่ 1-5 ดำเนินคดีแก่ตน จึงได้เจรจาต่อรองจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้จำเลยที่ 1-5 โดยผู้เสียหายที่ 2 ก็ช่วยผู้เสียหายที่ 1 เจรจาต่อรอง และขอแบ่งเงินจากจำเลยที่ 1-5

กรณีจึงฟังไม่ได้ว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 6 เป็นการร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ การกระทำของจำเลยทั้ง 6 จึงไม่เป็นความผิดในข้อหาดังกล่าว

ศาลฯ พิพากษาว่า จำเลยที่ 1-5 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 83, จำเลยที่ 6 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1-5 คนละ 15 ปี และลงโทษจำคุกจำเลยที่ 6 เป็นเวลา 10 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก