กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – ตำรวจ ปคบ.ส่งสำนวนคดีซูชิชื่อดังให้อัยการ สั่งฟ้อง 4 ข้อหา ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.ฟอกเงิน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหาย 42 ล้านบาท
คณะพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.ส่งสำนวนคดีดารุมะ ซูชิ จำนวน 7 กล่อง ส่งต่อพนักงานอัยการ ณ สำนักงานอัยการ ถนนรัชดาภิเษก ขณะที่นายเมธา อายุ 39 ปี ผู้บริหารของดารุมะ ซูชิ ถูกคุมตัวอยู่เรือนจำ หลังถูกจับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
พนักงานสอบสวนมีความเห็นให้สั่งฟ้องผู้ต้องหา 2 ราย คือ บริษัท ดารุมะ ซูชิ จำกัด เป็นนิติบุคคล และนายเมธา ประธานกรรมการบริษัทฯ ใน 4 ข้อหา คือ ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค , ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ , ผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จากการตรวจสอบพบว่านายเมธา กระทำผิดเพียงคนเดียว ไม่พบมีผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย
นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า หลังจากได้รับสำนวนการสอบสวนแล้ว ก็จะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร มีการโอนเงินการกระทำความผิดไปยังต่างประเทศ แม้ว่าธุรกิจจะเกิดขึ้นในประเทศไทยก็ตาม
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่าคดีนอกราชอาณาจักรอำนาจการสอบสวนอยู่ที่อัยการสูงสุดเพียงผู้เดียว ก่อนที่จะมอบหมายให้อัยการคดีพิเศษรับผิดชอบ จากการตรวจสอบสำนวนเบื้องต้น พบว่าคดีนี้มีผู้เสียหาย 999 คน ความเสียหายกว่า 42 ล้านบาท ส่วนคูปองที่ยังไม่ได้นำไปใช้มีอีกกว่า 120,000 ใบ มูลค่ารวมกว่า 28 ล้านบาท
สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับได้แล้วนั้น พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลอาญาฝากขังครบผัดสุดท้ายวันที่ 14 กันยายนนี้ ทางอัยการเชื่อว่าจะสามารถพิจารณาสำนวนสั่งฟ้องคดีได้ทันตามกำหนดฝากขัง
ด้านพันตำรวจโทปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 1 ปคบ. เปิดเผยว่า คดีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งเป็นคณะกรรมการดำเนินคดี เชื่อว่ามีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ แต่หากอัยการมีคำชี้แนะ หรือให้สอบสวนเพิ่มเติมก็พร้อมที่จะดำเนินการให้ทันตามกำหนดครับฝากขัง และจากการอายัดทรัพย์ขณะนี้พบเงินสดกว่าล้านบาท รถหรู และกระเป๋าแบรนด์เนม คาดมูลค่าไม่ถึง 45 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้เสียหายสามารถยื่นคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายได้ที่ ปปง.-สำนักข่าวไทย