เซอร์เบียตั้ง ‘เฉินหลง’ แบรนด์แอมบาสเดอร์ ‘เอ็กซโป 2027’

เบลเกรด 11 ก.ย. — ประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูชิช ของเซอร์เบีย ประกาศว่าแจ็กกี ชาน หรือเฉินหลง นักแสดงภาพยนตร์แอคชั่นชื่อดัง ได้รับการแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ (brand ambassador) ประจำงานเอ็กซ์โป 2027 (Expo 2027) ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเบลเกรดของประเทศเซอร์เบีย สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอังคาร วูชิชโพสต์รูปภาพการพบปะกับเฉินหลงบนอินสตาแกรม ซึ่งเป็นรูปภาพทั้งสองถ่ายรูปคู่กับตุ๊กตาแพนด้ายักษ์ โดยวูชิชชื่นชมเฉินหลงเป็นนักแสดงภาพยนตร์ระดับโลกและหนึ่งในทูตวัฒนธรรมผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งพรสวรรค์และพลังของเขาจะช่วยนำเสนอเซอร์เบียสู่สายตาชาวโลก วูชิชเขียนข้อความว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เฉินหลงจะเป็นตัวแทนงานเอ็กซ์โปในเซอร์เบีย และเชื่อมั่นว่าเฉินหลงในฐานะผู้ประชาสัมพันธ์งานเอ็กซ์โป 2027 จะได้ช่วยสนับสนุนการนำเสนองานนี้ ซึ่งจะทำให้เซอร์เบียกลายเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจจากทั่วโลก เซอร์เบียได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โป 2027 ภายใต้แนวคิด “เล่นเพื่อมนุษยชาติ : กีฬาและดนตรีสำหรับทุกคน” (Play for Humanity: Sport and Music for All) โดยก่อนหน้านี้เซอร์เบียได้แต่งตั้งยูเซน โบลต์ นักวิ่งแชมป์โอลิมปิก เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งสะท้อนความพยายามเชื่อมโยงงานนี้กับคนดังระดับโลกในแวดวงกีฬาและความบันเทิง.-813.-สำนักข่าวไทย

เผยผู้นำเกาหลีเหนือเสริมสถานะบุตรสาวให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจ

โซล 11 ก.ย. – สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้เปิดเผยในวันพฤหัสบดีโดยอ้างข้อมูลจากสำนักข่าวกรองของประเทศว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนจะกำลังเสริมสถานะของ คิม จู แอ บุตรสาวของเขา ให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไป หลังจากที่เธอได้ร่วมเดินทางไปเยือนประเทศจีนพร้อมกับเขา นายอี ซอง-กเวิน สมาชิกรัฐสภาในคณะกรรมาธิการข่าวกรองของรัฐสภาเกาหลีใต้ กล่าวว่า คิม จู แอ ได้พักอยู่ในสถานทูตเกาหลีเหนือและหลีกเลี่ยงการปรากฏตัวต่อสาธารณะระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่ง แต่การที่ได้เดินทางไปต่างประเทศกับบิดาของเธอก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างเรื่องราวในฐานะผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไปของระบอบการปกครอง นายพัค ซุน-วอน สมาชิกรัฐสภาอีกคนในคณะกรรมาธิการกล่าวว่า มีการให้ข้อสังเกตว่า สถานะของ คิม จู แอ ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไป ด้วยการให้เธอปรากฏตัวเป็นครั้งคราว ในขณะที่เปิดโอกาสให้เธอได้สร้างประสบการณ์ในต่างประเทศ แต่ไม่ต้องออกงานสาธารณะ นอกจากนี้ สำนักข่าวกรองของเกาหลีใต้ยังเปิดเผยกับสมาชิกรัฐสภาอีกว่า เจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือได้ถูกพบว่าพยายามทำลายร่องรอยเพื่อไม่ให้ข้อมูลทางชีวภาพของนายคิมและลูกสาวของเขาถูกเปิดเผยระหว่างการเดินทางไปจีน ซึ่งรวมถึงการใช้เครื่องบินพิเศษเพื่อขนส่งขยะ และการที่ทั้งสองคนเข้าพักในสถานทูตเกาหลีเหนือ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายคิมได้เดินทางไปกรุงปักกิ่งอย่างไม่เคยมีมาก่อนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมขนาดใหญ่ โดยได้ยืนเคียงข้างกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ของจีน สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้กล่าวอีกว่า นายคิมยังได้ประชุมทวิภาคีกับผู้นำจีนและรัสเซียเพื่อแสดงภาพลักษณ์ว่าเกาหลีเหนือไม่ใช่ประเทศที่โดดเดี่ยวอีกต่อไป และกำลังพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน […]

South Korea's Lee says immigration raid targeting Korean workers could hit US investment

เกาหลีใต้ชี้เหตุจับแรงงานอาจกระทบลงทุนในสหรัฐ

โซล 11 ก.ย.- ประธานาธิบดีอี แจ มยองของเกาหลีใต้ระบุว่า การที่สหรัฐบุกจับแรงงานหลายร้อยคนในโครงการของธุรกิจเกาหลีใต้ในสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของบริษัทเกาหลีใต้เรื่องการลงทุนในสหรัฐ ประธานาธิบดีอีกล่าวในการแถลงข่าววันนี้ว่า การที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐบุกค้นสถานที่ก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรียานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นการร่วมทุนระหว่างฮุนไดมอเตอร์กรุ๊ปกับแอลจีเอนเนอร์จีโซลูชัน ในรัฐจอร์เจียเมื่อวันที่ 4 กันยายน เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงและสร้างความสับสนอย่างใหญ่หลวง ซึ่งอาจทำให้ภาคธุรกิจของเกาหลีใต้เกิดความลังเลใจที่จะลงทุนในสหรัฐ ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้พิจารณาว่า ควรปรับเปลี่ยนวิธีการเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศหรือไม่ แต่ธุรกิจเกาหลีใต้ที่เข้าตลาดสหรัฐไปแล้วน่าจะตกอยู่ในภาวะสับสนอย่างหนัก ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวถึงแรงงานชาวเกาหลีใต้ 316 คนที่ถูกควบคุมตัวจากสถานที่ก่อสร้างว่า จะเดินทางออกจากสถานกักกันในสหรัฐราวเวลา 15.00 น.วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับประเทศ ส่วนเรื่องที่ภาคธุรกิจเกาหลีใต้ร้องเรียนว่า การที่สหรัฐจำกัดการออกวีซ่าให้แรงงานต่างชาติมีทักษะ ทำให้มีปัญหาในการดูแลการก่อสร้างโรงงานในสหรัฐ หรือฝึกอบรมให้แรงงานท้องถิ่นในสหรัฐ นายอีกล่าวว่า รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางปรับปรุงขั้นตอนการออกวีซ่าให้ชาวเกาหลีใต้ คาดว่าสหรัฐจะหาทางออกที่สมเหตุสมผล พร้อมกับย้ำว่าสถานการณ์ขณะนี้จะทำให้ธุรกิจเกาหลีใต้ที่กำลังลงทุนในสหรัฐเกิดความสับสนอย่างแน่นอน.-814.-สำนักข่าวไทย

กองทัพเนปาลเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อหาผู้นำชั่วคราว

กาฐมาณฑุ 11 ก.ย.- โฆษกกองทัพเนปาลกล่าวว่า กองทัพจะกลับมาเจรจาอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้กับกลุ่มผู้ประท้วง “เจนซี” (Gen Z) เพื่อตัดสินใจเลือกผู้นำชั่วคราวคนใหม่ของประเทศ หลังจากเหตุประท้วงรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 ราย และส่งผลให้นายกรัฐมนตรีเคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่ง โฆษกกองทัพเนปาลเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยอ้างถึงการหารือเรื่องผู้นำชั่วคราวคนใหม่ว่า การเจรจาเบื้องต้นกำลังดำเนินอยู่และจะดำเนินต่อไปในวันนี้ กองทัพกำลังพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติอย่างช้าๆ กระทรวงสาธารณสุขของเนปาลระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มขึ้นเป็น 30 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1,033 ราย แถลงการณ์ของกองทัพระบุว่า คำสั่งห้ามชุมนุมจะยังคงมีผลบังคับใช้ในกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่ใกล้เคียงเกือบตลอดทั้งวัน ขณะที่โฆษกสนามบินกล่าวว่า เที่ยวบินระหว่างประเทศยังคงเปิดให้บริการตามปกติ การประท้วงครั้งนี้ถูกเรียกขานว่าเป็นการประท้วงเจนซี เนื่องจากผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่แสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลไม่สามารถต่อสู้กับการทุจริตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจได้ นายรามาน กุมาร การ์นา เลขาธิการสมาคมเนติบัณฑิตยสภาของศาลฎีกา ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงมาขอคำปรึกษา กล่าวว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้นางสุชีลา คาร์กี อดีตหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกา มาเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ซึ่งมีรายงานข่าวว่า เธอตอบตกลงคำเชิญมาเป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลแล้ว การประท้วงที่ทำให้สถานที่ของรัฐหลายแห่ง ตั้งแต่ศาลฎีกาไปจนถึงบ้านพักของรัฐมนตรี รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีโอลีถูกเผาไหม้ และการประท้วงได้สงบลงหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ลาออกนอกจากนี้ สถานประกอบการทางธุรกิจหลายแห่งก็ถูกจุดไฟเผาด้วย เช่น โรงแรมหลายแห่งในเมืองท่องเที่ยวโปขรา และโรงแรมฮิลตันในกรุงกาฐมาณฑุ.-813.-สำนักข่าวไทย

CCTV captures moment of Israeli attack on Hamas leaders in Doha close up

TNA News-Now-Next: สัมพันธ์กาตาร์-ฮามาส ฉากความวุ่นวายต่อไปในตะวันออกกลาง

11 ก.ย.- เหตุการณ์กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มผู้นำฮามาสพลัดถิ่น ซึ่งรวมถึง คาลิล อัล-ไฮยา ผู้นำฮามาสในฉนวนกาซาที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ และเป็นหัวหน้าคณะเจรจาหลักของฮามาสเรื่องข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9 ก.ย.) ยิ่งส่งผลให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ไม่สงบและวุ่นวายอยู่แล้วซับซ้อนมากขึ้นไปอีก เพราะกำลังดึงให้กาตาร์ ประเทศอ่าวอาหรับที่ร่ำรวยและวางตัวในฐานะ ‘ผู้ไกล่เกลี่ย’ ให้กับสถานการณ์ความขัดแย้งทั้งในตะวันออกกลางและคู่ขัดแย้งอื่นนอกภูมิภาค ต้องเข้ามาเกี่ยวโยงกับความขัดแย้งโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจบทบาทของกาตาร์กับฮามาส โดยเฉพาะการที่กาตาร์กลายเป็นฐานที่มั่นของบรรดาคณะผู้นำของฮามาส ใช้เป็นทั้งที่พำนักและสำนักงาน ทั้งที่ทั่วโลกเข้าใจว่า กลุ่มฮามาสเป็นกลุ่มก่อการร้าย และอยู่เบื้องหลังรุนแรงและความไม่สงบจำนวนมากในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกับอิสราเอล กาตาร์กับบทบาทประเทศผู้ไกล่เกลี่ยตลอดหลายปีที่ผ่านมา กาตาร์วางตนเองเป็นประเทศคนกลางที่พร้อมทำหน้าที่เจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งให้กับคู่ขัดแย้งมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่น การที่กาตาร์ให้กรุงโดฮา เมืองหลวง เป็นฐานที่มั่นและสำนักงานของกลุ่มก่อการร้ายอย่างฮามาส และตอลิบานในอดีต ช่วยให้กาตาร์เป็นผู้จัดหาช่องทางการติดต่อเจรจาระหว่างกลุ่มเหล่านี้กับประชาคมโลก โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ทำหน้าที่เป็นคนกลางว่า กลุ่มเหล่านี้ต้องการอะไร และทำไมจึงลงมือก่อเหตุการณ์ต่างๆ อัลจาซีรา สื่อของกาตาร์รายงานว่า ฮามาสได้เปิดสำนักงานเพื่อดำเนินงานด้านการเมืองครั้งแรกในกาตาร์เมื่อปี 2012 หลังจาก คาเลด เมชาล ผู้นำฮามาสในช่วงดังกล่าว และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งฮามาส ออกจากซีเรียหลังจากเกิดสงครามขึ้นในประเทศ รัฐบาลกาตาร์เคยเปิดเผยว่า การตัดสินใจเพื่อเป็นที่พักพิงให้กับผู้นำของฮามาสเป็นเพราะคำเรียกร้องจากสหรัฐฯ ขณะที่เมื่อปี 2023 หนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล […]

นักเคลื่อนไหวสายอนุรักษ์นิยมสหรัฐ ‘ชาร์ลี เคิร์ก’ ถูกยิงเสียชีวิต

วอชิงตัน 11 ก.ย. – ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวและนักวิจารณ์การเมืองฝ่ายขวาชาวอเมริกัน วัย 31 ปี และเป็นพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกยิงเข้าที่คอจนเสียชีวิต เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระหว่างร่วมงานในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐยูทาห์ ซึ่งผู้ว่าการรัฐได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการลอบสังหารทางการเมือง เหตุการณ์ลอบสังหารครั้งนี้ผ่านไปแล้ว 6 ชั่วโมง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยต่อสาธารณะได้ โดยสื่อสหรัฐรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายว่ายังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย ทางด้านนายคาช ปาเตล ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ กล่าวว่า มีการควบคุมตัวบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อเพื่อสอบปากคำ ก่อนจะปล่อยตัวไป เขาระบุว่าการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป นายทรัมป์กล่าวในคลิปวิดีโอที่บันทึกในทำเนียบขาวและโพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลของเขา โดยให้คำมั่นว่ารัฐบาลของเขาจะตามล่าตัวผู้ต้องสงสัยให้ได้ นายทรัมป์ยังได้ประณามการลอบสังหารอันโหดเหี้ยมครั้งนี้ พร้อมยกย่องเคิร์กว่าเป็นผู้ที่มีศรัทธาอย่างแรงกล้า นอกจากนี้นายทรัมป์ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ความแตกแยกทางการเมืองในประเทศที่เป็นเสมือนเชื้อเพลิงให้กับความรุนแรงในสหรัฐ นายทรัมป์ยังสั่งให้ลดธงชาติสหรัฐลงครึ่งเสาตามอาคารของรัฐบาลทั้งหมดจนถึงวันอาทิตย์ เพื่อไว้อาลัยแก่นายเคิร์ก คลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือและเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต แสดงให้เห็นนายเคิร์กกำลังกล่าวปราศรัยต่อฝูงชนจำนวนมากที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ แวลลีย์ ในเมืองโอเร็ม รัฐยูทาห์ เมื่อเวลาประมาณ 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 23.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น เคิร์กเอามือไปแตะที่คอขณะที่ล้มลงจากเก้าอี้ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานต่างพากันวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยน่าจะยิงมาจากบนหลังคาในระยะไกลพอสมควร […]

ผู้ประท้วงเนปาลเสนอให้อดีตประธานศาลฎีกาเป็นนายกฯ ชั่วคราว

กาฐมาณฑุ 11 ก.ย. – ตัวแทนกลุ่ม “เจนซี” (Gen Z) ได้ประกาศต่อผู้ประท้วงที่รวมตัวกันนอกกองบัญชาการกองทัพเนปาล ว่าทางกลุ่มได้เสนอชื่อ นางสุชีลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราว นายรามาน กุมาร การ์นา เลขาธิการสมาคมทนายความศาลฎีกา ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของผู้ประท้วงกล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นคนรุ่นใหม่ต้องการให้นางคาร์กี เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว และเมื่อสถานีข่าวซีเอ็นเอ็น-นิวส์18 ( CNN-News18) ของอินเดียสอบถามนางคาร์กี ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อพวกเขาขอให้เธอรับตำแหน่ง เธอก็ตอบตกลง ตัวแทนกลุ่มเจนซีแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาได้เข้าพบเจ้าหน้าที่กองทัพในภายหลัง และได้เสนอชื่อนางคาร์กี ให้เป็นผู้นำรัฐบาลชั่วคราว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทหารได้เข้าควบคุมพื้นที่รัฐสภาเนปาลและลาดตระเวนตามถนนที่ว่างเปล่าในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการเคอร์ฟิว หลังจากเหตุประท้วงต่อต้านการทุจริตตลอดสองวัน ทำให้กรุงกาฐมาณฑุต้องปิดเมืองเพื่อควบคุมสถานการณ์ และส่งผลให้นายกรัฐมนตรีเคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่ง เหตุการณ์ความไม่สงบในเนปาลเริ่มต้นขึ้นจากการที่รัฐบาลประกาศปิดกั้นการใช้งานโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้จะถูกยกเลิกในภายหลังสถานการณ์การประท้วงก็ลุกลามบานปลายต่อไป หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมฝูงชน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย กระทรวงสาธารณสุขของเนปาล ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงนับจนถึงวันพุธเพิ่มขึ้นเป็น 25 ราย ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 633 ราย […]

ยานสำรวจของนาซาพบสัญญาณสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร

วอชิงตัน 11 ก.ย. – นักวิทยาศาสตร์นาซาพบตัวอย่างหินที่ยานสำรวจดาวอังคาร เพอร์เซเวียแรนซ์ เก็บมาจากดาวอังคาร อาจมีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตโบราณที่สูญพันธุ์ไปนานแล้ว ฌอน ดัฟฟี รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐ หรือนาซา แถลงวานนี้ว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ของนาซาใช้เวลากว่า 1 ปี ตรวจสอบข้อมูลจากหินที่มีลักษณะคล้ายลายเสือดาว ซึ่งยานเพอร์เซเวียแรนซ์ ได้สำรวจเมื่อปี 2567 บริเวณแหล่งไบรท์ แองเจิล (Bright Angel) ในหลุมอุกกาบาตเจซีโร ตะกอนก้นทะเลสาบบนดาวอังคาร พบว่าอาจมีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตจุลชีพโบราณ โดยเครื่องมือเชอร์ล็อก (SHERLOC) ของยานเพอร์เซเวียแรนซ์ ตรวจพบสัญญาณสเปกตรัมที่สอดคล้องกับสารอินทรีย์ในชั้นหินโคลน (mudstone) ที่บริเวณแหล่งไบรท์ แองเจิล ซึ่งรวมถึงสัญญาณรามาน จี แบนด์ (Raman G band) หรือสัญญาณแสงที่สื่อถึงการมีอยู่ของสารอินทรีย์ในหิน ซึ่งในโลกมักเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก นอกจากนี้การตรวจพบแร่วิเวียนไนต์ (vivianite) หรือฟอสเฟตของเหล็ก และเกรย์ไกต์ (greigite) หรือซัลไฟด์ของเหล็ก บ่งชี้ถึงปฏิกิริยาเคมีระหว่างโคลนที่มีเหล็กสูงกับสารอินทรีย์ หลังจากการทับถมของตะกอนในทะเลสาบโบราณ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ในชั้นตะกอนบนโลก แร่เหล่านี้มักเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการเผาผลาญของจุลชีพที่ย่อยสลายสารอินทรีย์และสร้างแร่เหล่านี้ขึ้นมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของนาซา กล่าวว่า การค้นพบนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการตอบคำถามว่า […]

เจ้าชายแฮร์รีเข้าเฝ้าพระบิดาครั้งแรกในรอบ 17 เดือน

ลอนดอน 11 ก.ย. – เจ้าชายแฮร์รีได้เข้าฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ที่พระราชวังในกรุงลอนดอนวานนี้ ถือเป็นการเข้าเฝ้าและพบหน้าพระบิดาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ขบวนรถที่เห็นนี้กำลังนำเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกส์ เดินทางไปยังพระราชวังแคลร์แรนซ์ เฮาส์ ในกรุงลอนดอน เพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ถือเป็นการเข้าเฝ้าและพบหน้าพระบิดาเป็นครั้งแรกของเจ้าชายแฮร์รีนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ในเวลาต่อมา สำนักพระราชวังบักกิงแฮมยืนยันในแถลงการณ์ว่า สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ได้ทรงดื่มชาและมีพระปฏิสันถารกับเจ้าชายแฮร์รีสองต่อสองเป็นเวลาประมาณ 50 นาที เจ้าชายแฮร์รีบอกกับสื่อสั้นๆ ว่าเป็นการพูดคุยที่ดีกับพระบิดา โดยสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 เสด็จจากสกอตแลนด์มายังกรุงลอนดอนเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ขณะที่เจ้าชายแฮร์รีอยู่ระหว่างเยือนอังกฤษในสัปดาห์นี้เพื่อทรงร่วมในภารกิจการกุศล ก่อนจะเดินทางกลับสหรัฐ ในวันนี้ โดยไม่มีแผนจะพบกับเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาแต่อย่างใด หลายฝ่ายเชื่อว่า การพบปะพูดคุยระหว่างสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 กับเจ้าชายแฮร์รีในครั้งนี้ อาจถือเป็นก้าวแรกของการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก และฟื้นความเชื่อมั่นระหว่างคนในครอบครัวที่ร้าวฉานมานานหลายปี จากประเด็นความขัดแย้งเรื่องการอารักขาความปลอดภัยที่พระองค์และครอบครัวจะได้รับขณะพำนักอยู่ในอังกฤษ หลังจากเจ้าชายแฮร์รีตัดสินใจถอนตัวจากราชวงศ์เมื่อปี 2020 และย้ายไปพำนักในสหรัฐ กับ เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ พระชายา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าชายแฮร์รีทรงให้สัมภาษณ์กับสื่อบีบีซี ของอังกฤษจากรัฐแคลิฟอร์เนียว่า พระองค์ทรงปรารถนาที่จะคืนดีกับราชวงศ์ และไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อสู้กับราชวงศ์อีกต่อไป […]

9 ทันโลก : GEN Z เนปาล นำขบวนไล่ผู้โกงกิน

เนปาล 10 ก.ย. – ในช่วง 2-3 วันมานี้ เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศเนปาล ที่ประชาชนประท้วงด้วยความโกรธแค้น รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปไล่เรียงเหตุการณ์ และติดตามว่า ชนวนเหตุคืออะไร. – สำนักข่าวไทย

Jubilant demonstrators celebrate in Kathmandu as Nepal PM Oli quits

TNA News-Now-Next: เมื่อคน Gen Z เนปาลไม่ทน (อีกต่อไป)

10 ก.ย.- เมื่อรัฐบาลเนปาลสั่งปิดกั้นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภูเขาไฟแห่งความอัดอั้นของคนหนุ่มสาวที่ถูกสะสมมานาน โดยเฉพาะคนเจเนอเรชันซี (Gen Z) ก็ปะทุออกมาให้โลกได้เห็นในสัปดาห์นี้ จุดเริ่มต้นการประท้วงก่อนหน้าการประท้วง การติดแฮชแท็ก #NepoBaby หรือแปลได้ว่า “เด็กเส้น” กำลังเป็นกระแสในโลกสื่อสังคมออนไลน์ในเนปาล สะท้อนถึงกระแสความไม่พอใจของคนหนุ่มสาวที่เห็นบรรดาลูกหลานนักการเมืองอวดรายอวดการใช้ชีวิตหรูหรา ในขณะที่คนส่วนใหญ่ดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ มีคนตกงานมากถึง 12.6% ตามผลการสำรวจมาตรฐานการครองชีพปี 2565-2566 ที่รัฐบาลเนปาลเป็นผู้เผยแพร่ ฟางเส้นสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลเนเปาลสั่งปิดกั้นแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ เช่น Facebook, X, WhatsApp และ Youtube เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 รัฐบาลให้เหตุผลว่า แพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการกับทางการ หลายคนมองว่า เป็นการคุกคามเสรีภาพในการแสดงออก ขณะที่บางคนห่วงว่า จะไม่สามารถติดต่อกับคนในครอบครัวที่ไปทำงานในต่างประเทศ ข้อมูลของหนังสือพิมพ์กาฐมาณฑุโพสต์ในเนปาลระบุว่า ช่วงปีงบประมาณ 2566-2567 มีชาวเนปาลออกไปหางานทำในต่างประเทศส่วนใหญ่ในอินเดีย มากกว่า 741,000 คน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศราว 29 ล้านคนในปัจจุบัน การประท้วงบานปลาย รัฐบาลยอมถอยการประท้วงปะทุขึ้นในวันจันทร์ที่ 8 กันยายน เริ่มจากกรุงกาฐมาณฑุ และลุกลามไปยังเมืองอื่น ๆ […]

Protesters demand Macron resign

ผู้ประท้วงในฝรั่งเศสประกาศ “ขวางทุกอย่าง”

ปารีส 10 ก.ย.- ผู้ชุมนุมจัดการประท้วงทั่วฝรั่งเศสในวันนี้ ด้วยการกีดขวางการสัญจร เผาถังขยะ และปะทะกับตำรวจเป็นระยะ ๆ ตามที่ประกาศจะ “ขวางทุกอย่าง” เพื่อแสดงความโกรธแค้นนักการเมืองและแผนการตัดลดงบประมาณ ทางการฝรั่งเศสส่งเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงกระจายกำลังไปช่วยรื้อถอนสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ออกโดยเร็วที่สุด และมีการจับกุมผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง ตำรวจกรุงปารีสเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ควบคุมตัวผู้ประท้วงแล้ว 132 คน ตัวแทนสหภาพแรงงานการขนส่งมวลชนที่ประท้วงในกรุงปารีสระบุว่า ปัญหาอยู่ที่ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงและวิธีการบริหารประเทศของเขา ไม่ใช่คณะรัฐมนตรี การชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นในขณะที่การเมืองของฝรั่งเศสตกอยู่ในความโกลาหล หลังจากรัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรูเมื่อ 2 วันก่อน เนื่องจากเขาเตรียมจะตัดลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อควบคุมหนี้สินประเทศ ต่อมาในวันรุ่งขึ้นประธานาธิบดีมาครงได้แต่งตั้งนายเซบาสเตียน เลอกอร์นู คนสนิทของเขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปี สร้างความไม่พอใจให้แก่นักการเมืองฝ่ายซ้าย  นักวิจัยและเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกล่าวว่า “ขวางทุกอย่าง” (Block Everything) เป็นคำกว้าง ๆ ที่ใช้แสดงออกถึงความไม่พอใจกลุ่มชนชั้นนำผู้ปกครองประเทศที่ล้มเหลวแล้วพร่ำสอนให้คนประหยัดรัดเข็มขัด เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีแกนนำอย่างชัดเจน และจัดขึ้นเฉพาะกิจผ่านสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมโดยกลุ่มฝ่ายขวา แต่หลังจากนั้นกลับถูกกลุ่มฝ่ายซ้ายและซ้ายจัดเข้ามายึดบทบาทแทน การประท้วงครั้งนี้ถูกเปรียบเทียบว่าคล้ายกับการประท้วง “เสื้อกั๊กเหลือง” (Yellow Vest) ปี 2561 ที่เริ่มจากการประท้วงการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง แล้วขยายวงกว้างเป็นการประท้วงนายมาครงและแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ.-814.-สำนักข่าวไทย

1 3 4 5 6 7 5,552
...