เครื่องบินกองทัพญี่ปุ่ตกทะเลสาบ ทหารสูญหาย 2 นาย

โตเกียว 16 พ.ค. – เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ยังคงเดินหน้าเร่งค้นหาเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเอง 2 นายที่ยังสูญหาย หลังเกิดเหตุเครื่องบินฝึกตก เครื่องบินฝึกแบบ ที-4 (T-4) ของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นบินจากฐานทัพโคะมะกิ จังหวัดไอจิ ทางตอนกลางของประเทศ ตกทะเลสาบในจังหวัดไอจิ ช่วงเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินลำดังกล่าวหายไปจากจอเรดาร์ หลังขึ้นบิน 2 นาที ห่างจากฐานทัพโคะมะกิไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 13 กิโลเมตร ขณะเดินทางไปยังฐานทัพนิวตาบารู จังหวัดมิยาซากิ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เครื่องบินลำที่ประสบเหตุไม่มีการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ และเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายไม่ได้ดีดตัวออกจากเครื่องบิน.-815.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : “พลิกฟื้นซีเรีย-พลิกโฉมตะวันออกกลาง”

15 พ.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังไปเยือนตะวันออกกลาง ผลของการเยือนที่สำคัญที่สุด คือการปรับสัมพันธ์กับซีเรีย ที่จะนำไปสู่ยุคใหม่ของประเทศ วันนี้ซีเรียถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ จากประเทศที่อยู่ใต้เผด็จการนานหลายสิบปีแทบล่มสลาย กำลังมีความหวังที่จะพลิกฟื้นขึ้นใหม่ เป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์และอาจนำมาสู่ยุคใหม่ของตะวันออกกลาง ผู้นำสหรัฐพบปะกับผู้นำรักษาการณ์ของซีเรีย อดีตหัวหน้ากลุ่มติดอาวุธที่สหรัฐเองตั้งค่าหัวไว้ 10 ล้านดอลลาร์ จากการเป็นเจ้าภาพของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บินซัลมาน ผู้นำซาอุดีอาระเบีย ทำให้เป็นการพบกันของผู้นำสหรัฐกับซีเรีย เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว นายอาห์เหม็ด อัล-ชารา นำแนวร่วมกลุ่มติดอาวุธโค่นระบบเผด็จการอัล-อัสซาด ที่ผูกขาดอำนาจมา 50 ปี ได้สำเร็จ กลายเป็นวีรบุรุษของชาวซีเรีย และได้กลายเป็นบุคคลที่นายทรัมป์ชื่นชมว่าเป็นคนหนุ่มมีเสน่ห์ แล้วยังเป็นนักสู้ที่มีประวัติแข็งแกร่ง ชาวซีเรียทั้งประเทศต่างยินดีตั้งแต่นายโดนัล ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศว่าจะยกเลิกมาตรการลงโทษซีเรีย ในฐานะรัฐที่สนับสนุนการก่อการร้ายที่ใช้มานานกว่า 50 ปี เท่ากับว่าซีเรียเริ่มก้าวแรกเพื่อหวนกลับเข้าสู่ประชาคมโลกอีกครั้ง นี่เป็นจุดเปลี่ยนจากที่สหรัฐเคยกำหนดให้นายอัล-ชารา อยู่ในบัญชีผู้ก่อการร้าย ในฐานหัวหน้ากลุ่มแนวร่วมอัลนุสรา ที่เกี่ยวโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ เคยโจมตีต่อสู้กับทหารสหรัฐหลายปี โดยชี้ว่าเป็นการให้โอกาสรัฐบาลรักษาการณ์ของซีเรีย และเตรียมรื้อฟื้นสัมพันธ์ทางการทูต โดยมีเงื่อนไข 12 […]

การเจรจายูเครน-รัสเซียยังไร้ความชัดเจน

อิสตันบูล 15 พ.ค. – การเจรจาโดยตรงระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ที่ตุรกีในวันนี้ ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ที่จะบอกได้ว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ได้เดินทางมาเข้าร่วมเจรจา การเจรจาโดยตรงครั้งแรกระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่กำหนดจะมีขึ้นที่นครอิสตันบูลของตุรกี ในวันนี้ยังคงไร้ความชัดเจนว่าจะเริ่มขึ้นเมื่อไร และจะมีใครเข้าร่วมเจรจาบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่าการเจรจาจะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 14.00 น. วันนี้ตามเวลาในไทย แต่ทางยูเครนปฏิเสธว่าไม่เคยมีการตกลงกันว่าจะเริ่มเจรจากันเวลาใด ส่วนเรื่องที่มีความชัดเจนแล้วก็คือประธานาธิบดีปูติน ไม่มาเข้าร่วมการเจรจาแน่นอนแล้ว โดยส่งคณะผู้แทนซึ่งมีทั้งผู้ช่วยประธานาธิบดี รัฐมนตรีช่วยกลาโหมซึ่งเคยเข้าร่วมการเจรจากับยูเครนมาแล้ว มาเป็นตัวแทนในการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งคณะผู้แทนของรัสเซียได้เดินทางมาถึงตุรกีแล้ว ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียวันนี้ก็แถลงว่าคณะผู้แทนของรัสเซียมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเจรจาอย่างเอาจริงเอาจัง ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ก็เดินทางมาถึงนครอิสตันบูลแล้ว แต่เจ้าตัวยืนกรานมาตลอดว่าเขาจะเข้าร่วมการเจรจาก็ต่อเมื่อนายปูตินต้องมาเจรจาด้วยตนเองเท่านั้น และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนด้วยว่ายูเครนมีการเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเข้าร่วมการเจรจาแทนนายเซเลนสกีด้วยหรือไม่ นายเซเลนสกีบอกว่าจะให้คำตอบหลังพบกับประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี แล้วว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร เขากล่าวว่า คณะผู้แทนของรัสเซียในครั้งนี้เป็นเสมือนไม้ประดับ เพราะเป็นระดับล่างๆ เท่านั้น ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดกล่าวระหว่างการเยือนการ์ตาในวันนี้เขาอาจจะมาเข้าร่วมการเจรจาในวันพรุ่งนี้หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสม และหวังว่ายูเครนกับรัสเซียจะมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน หลังจากก่อนนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่าทรัมป์จะไม่มาร่วมการเจรจาหลังรู้ว่าปูตินจะไม่มาเข้าร่วม.-816.-สำนักข่าวไทย

เอเปคเตือนภาษีทรัมป์กระทบส่งออก

โซล 15 พ.ค. – กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิกหรือเอเปคที่เกาะเชจูของเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของเอเปคในปี 2568 จะขยับขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 เท่านั้น ซึ่งลดฮวบจากปีก่อนที่เติบโตถึงร้อยละ 5.7 ในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของเอเปค ที่เกาะเชจูของเกาหลีใต้ในวันนี้ ที่ประชุมยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคลงเหลือร้อยละ 2.6 จากเดิมที่เคยคาดไว้ร้อยละ 3.3 โดยเอเปคชี้ว่า ปัจจัยหลักมาจาก อุปสงค์จากต่างประเทศที่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภครวมถึงความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อการค้าและภาคบริการ การกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าอย่างกว้างขวางของรัฐบาลทรัมป์เมื่อไม่นานมานี้ มุ่งเป้าไปที่ประเทศต่าง ๆ มากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มเอเปค โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มเอเปคในปี 1989 อัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยในภูมิภาคลดลงเหลือร้อยละ 5.3 ในปี 2021 จาก ร้อยละ 17 ในปี 1989 และในช่วงเวลานี้มีการค้าขายสินค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 9 เท่า.-816.-สำนักข่าวไทย

‘แอปเปิล’ เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีควบคุมอุปกรณ์ผ่านชิปฝังสมอง

นิวยอร์ก 15 พ.ค. — หนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานวานนี้ว่า แอปเปิล (Apple) กำลังให้ความสนใจกับ “ส่วนต่อประสานสมองกับคอมพิวเตอร์” หรือ บีซีไอ (BCI) ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่สักวันหนึ่งอาจเข้ามาปฏิบัติการโต้ตอบของมนุษย์กับอุปกรณ์ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แอปเปิลกำลังเริ่มดำเนินการขั้นต้นเพื่อให้ผู้คนสามารถควบคุมสมาร์ทโฟน “ไอโฟน” (iPhone) ของตนเองด้วยกระแสประสาทที่บันทึกจากชิปฝังสมองรุ่นใหม่ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้คนหลายหมื่นคนที่ไม่สามารถใช้มือของตนเองได้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรุนแรงที่ไขสันหลัง หรือโรคต่างๆ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ เอแอลเอส เข้าถึงอุปกรณ์ของแอปเปิลได้ง่ายยิ่งขึ้น แอปเปิลหวังว่าในอีกหลายปีข้างหน้า ชิปฝังสมองซึ่งพัฒนาโดยนิวรัลลิงก์ (Neuralink) ของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก และบริษัทคู่แข่ง จะได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ หรือ เอฟดีเอ (FDA) โดยปัจจุบันชิปฝังสมอง หรือที่รู้จักในชื่อส่วนต่อประสานสมองกับคอมพิวเตอร์ ได้ถูกฝังเข้าไปในร่างกายผู้ป่วยบางรายอย่างปลอดภัยแล้ว แอปเปิลกำลังทำงานในด้านมาตรฐานใหม่ร่วมกับซินครอน (Synchron) ซึ่งผลิตอุปกรณ์คล้ายสเต็นท์หรือขดลวดถ่างขยาย (stent) ที่ฝังไว้ในเส้นเลือดเหนือพื้นที่ส่วนของสมองที่สั่งการการเคลื่อนไหวทางร่างกาย (motor cortex) โดยอุปกรณ์ดังกล่าวเรียกว่า “สเต็นท์โทรด” (Stentrode) มีอิเล็กโทรดสำหรับอ่านสัญญาณจากสมอง […]

เวียดนามลุยปราบสินค้าเลียนแบบ-ฉ้อโกงการค้า

ฮานอย 15 พ.ค. — สื่อท้องถิ่นของเวียดนามรายงานว่านายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้สั่งการให้ดำเนินโครงการรณรงค์เพื่อปราบปรามการลักลอบขนของผิดกฎหมาย การฉ้อโกงทางการค้า และสินค้าลอกเลียนแบบอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 1 เดือน โดยจะเริ่มตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.-15 มิ.ย. นี้ สำนักข่าวซินหัว รายงานวานนี้ว่า นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ สั่งให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจระดับชาติที่นำโดยรองนายกรัฐมนตรี พร้อมกับชุดเฉพาะกิจระดับจังหวัด อีกทั้งสั่งให้จัดการปัญหาการค้าและการขนส่งผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทองคำ เงินตราต่างประเทศ และสินค้าลอกเลียนแบบที่ติดฉลากปลอมว่า “ผลิตในเวียดนาม” สำหรับการส่งออก ทางการเวียดนามจัดการคดีที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนของผิดกฎหมาย การฉ้อโกงการค้า และสินค้าลอกเลียนแบบมากกว่า 34,000 กรณีแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี 2025.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’-‘ปูติน’ ไม่ร่วมการเจรจาสันติภาพยูเครนที่ตุรกี

อิสตันบูล 15 พ.ค. – ผู้นำสหรัฐและผู้นำรัสเซียจะไม่เข้าร่วมการเจรจาหย่าศึกสงครามยูเครนซึ่งจะมีขึ้นที่ตุรกีในวันนี้ ขณะที่ผู้นำยูเครนออกเดินทางมายังตุรกีแล้ว การเจรจาโดยตรงระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งกำลังจะมีขึ้นที่นครอิสตันบูลของตุรกีในวันนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียจะไม่มาเข้าร่วม โดยเมื่อคืนนี้ทางการรัสเซียได้ประกาศรายชื่อคณะผู้แทนการเจรจาซึ่งจะมีทั้งนายวลาดิมีร์ เมดินสกี ที่ปรึกษาประธานาธิบดี และนายอเล็กซานเดอร์ โฟนิน รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ร่วมคณะด้วย ซึ่งทั้งคู่มีประสบการณ์ในการเจรจากับยูเครนมาแล้ว หลังจากที่มีการประกาศรายชื่อคณะเจรจาของรัสเซีย เจ้าหน้าที่ของสหรัฐก็เปิดเผยว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่มาร่วมการเจรจาดังกล่าวแล้ว หลังจากที่นายทรัมป์เคยเปรยระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบียเมื่อสองวันก่อนว่าเขากำลังพิจารณาเรื่องเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ ส่วนผู้แทนของสหรัฐที่จะเข้าร่วมวงเจรจาได้แก่นายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐประจำตะวันออกกลาง และนายคีธ เคลล็อก ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้แทนอาวุโสของนายทรัมป์ แม้ว่าประธานาธิบดีปูตินเป็นผู้เสนอการเจรจานี้ขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยระบุว่าเป็นการเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ แต่นายปูตินก็ไม่เคยยืนยันมาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมาเข้าร่วมการเจรจาด้วยตัวเอง และการที่ทั้งผู้นำสหรัฐและรัสเซียไม่ได้มาร่วมการเจรจาก็ทำให้ความคาดหวังถึงผลการเจรจาที่จะออกมาลดน้อยลงไปด้วย ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเคยท้าทายให้ปูตินมาร่วมวงเจรจาถ้ามีความกล้าพอเพื่อจะพิสูจน์ให้นายทรัมป์ได้เห็นว่าใครมีความต้องการสันติภาพมากกว่ากัน และวันนี้นายเซเลนสกีได้ออกเดินทางมายังตุรกีแล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเข้าร่วมเจรจาด้วยหรือไม่เพราะก่อนหน้านี้เขายืนยันมาตลอดว่าจะร่วมวงเจรจาก็ต่อเมื่อนายปูตินต้องมาร่วมเจรจาด้วยเท่านั้น.-816.-สำนักข่าวไทย

กาตาร์ แอร์เวย์ สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 160 ลำ

โดฮา 15 พ.ค. – โบอิ้ง บริษัทผลิตอากาศยานของสหรัฐบรรลุข้อตกลงใหญ่ที่สุดสำหรับการสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างสองทางเดินเมื่อวานนี้ เมื่อสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ สายการบินแห่งชาติของกาตาร์ สั่งซื้อเครื่องบินโดยสาร 160 ลำ บวกข้อเสนอเพิ่มเติมในการจัดซื้อเครื่องบินโดยสารอีก 50 ลำ ในระหว่างที่ประนาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เดินทางเยือนกาตาร์ ทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวว่า ข้อตกลงในการสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777เอ็กซ์ 30 ลำ และ 787 130 ลำ ที่ใช้เครื่องยนต์ของบริษัทจีอี แอโรสเปซ มีมูลค่าทั้งสิ้น 96,000 ล้านดอลลาร์ และนับเป็นชัยชนะของนายทรัมป์ในการเดินทางเยือนภูมิภาคตะวันออกกลาง แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าเครื่องบินจะถูกส่งมอบให้กับกาตาร์ ข้อตกลงนี้ยังเป็นการสนับสนุนบริษัทโบอิ้งและผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน ในช่วงเวลาที่เครื่องบินแอร์บัส เอ350 ที่เป็นคู่แข่ง ซึ่งใช้เครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) กำลังประสบปัญหาด้านการบำรุงรักษาจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่สภาพอากาศที่ร้อนที่สุดของโลก รวมถึงภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย.-813.-สำนักข่าวไทย

รถชนกัน 3 คันรวดในเม็กซิโกตาย 21 คน

เม็กซิโกซิตี้ 15 พ.ค. – อุบัติเหตุรถชนกันบนทางหลวงที่เชื่อมต่อระหว่างรัฐโออาฆากา (Oaxaca) กับรัฐปวยลบา (Puebla) ทางตะวันเฉียงใต้ของเม็กซิโก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน รัฐมนตรีมหาดไทยเม็กซิโกเปิดเผยว่ามีรถที่ประสบเหตุรวม 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นจากรถบรรทุกปูนซีเมนต์พยายามเร่งแซงรถยนต์คันหนึ่ง แต่แซงไม่พ้นทำให้ชนประสานงาเข้ากับรถบัสที่แล่นสวนมา จากนั้นรถบรรทุกปูนยังเสียหลักไปพุ่งชนเข้ากับรถตู้อีกคันหนึ่ง ก่อนที่รถบรรทุกจะพุ่งตกลงไปในหุบเขาข้างทางและเกิดไฟลุกท่วมอย่างรุนแรง และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้.-816.-สำนักข่าวไทย

ชาวเปรูวอนโป๊ปช่วยเหลือแก้สถานการณ์ในประเทศ

ลิมา 15 พ.ค. – ชาวเปรูหลายร้อยคนพากันเดินขบวนไปยังรัฐสภาในกรุงลิม่าเพื่อประท้วงเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และในระหว่างการชุมนุมมีการปะทะกันกับตำรวจปราบจลาจลเกิดขึ้นใกล้กับอาคารรัฐสภาแต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ผู้ชุมนุมหลายคนถือป้ายเรียกร้องให้สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่ทรงถือสัญชาติสหรัฐและเปรูให้เข้ามาช่วยเหลือเพื่อคืนความสงบสุขสู่ประชาชน ขณะที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ข้อมูลจากรัฐบาลเปรูระบุว่าเมื่อปีที่แล้วมีการฆาตกรรมสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้านั้นถึง 1 ใน 3 คือจาก 1,508 คดีเพิ่มเป็น 2,059 คดี เหตุการณ์รุนแรงส่วนใหญ่เป็นฝีมือของแก๊งอาชญากรรมที่มุ่งเป้าโจมตีธุรกิจต่างๆ รวมถึงบริษัทขนส่งหลายแห่ง.-816.-สำนักข่าวไทย

คนจีนแห่เที่ยวช่วงหยุดยาววันแรงงานช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

ปักกิ่ง 15 พ.ค. – วันหยุดแรงงานของจีนในปีนี้ (1-5 พ.ค.) ได้เห็นการฟื้นตัวทั้งจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคเชิงวัฒนธรรม ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ โดยมีผู้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศสูงถึง 314 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ข้อมูลจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ระบุว่ายอดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวรวมแตะ 1.8 แสนล้านหยวน (ราว 8.29 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากปีก่อนหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวในปีนี้มีความหลากหลายมากขึ้น เมืองระดับสามและเมืองขนาดเล็กกลายเป็นจุดหมายยอดนิยม ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนักศึกษาและผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เทศกาลดนตรีกว่า 23 แห่งทั่วประเทศเป็นตัวเร่งให้การบริโภคเชิงวัฒนธรรมขยายตัว พร้อมกับการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและค้าปลีก สะท้อนพลังของเศรษฐกิจในวันหยุด กระแสความนิยมการท่องเที่ยวในปีนี้ร้อนแรงเป็นพิเศษ ข้อมูลจากชวี่หน่า (Qunar) เผยว่าการเดินทางที่ใช้วันลาพักร้อนควบกับวันหยุดยาวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 การจองตั๋วเครื่องบินโดยนักศึกษาและผู้สูงอายุมีอัตราเพิ่มขึ้นสูง ด้านเมืองระดับสามและเมืองขนาดเล็กมียอดจองเที่ยวบินแซงหน้าเมืองใหญ่ ส่วนโรงแรมในเมืองที่จัดเทศกาลดนตรีนั้นมียอดจองเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า แพลตฟอร์มฟลิกกี (Fliggy) ของอาลีบาบา รายงานว่าการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการจองโรงแรม 5 ดาว ผ่านฟลิกกีนั้นเติบโตมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน […]

สองพี่น้องฆ่าพ่อแม่ตัวเองมีโอกาสได้ออกจากเรือนจำ

ลอสแอนเจลิส 15 พ.ค. – ไลล์ และ อีริค เมเนนเดซ สองพี่น้องชาวอเมริกันที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต จากการสังหารพ่อแม่ของตนเองในปี 1989 มีโอกาสได้ออกจากเรือนจำก่อนกำหนด หลังจากศาลในลอสแอนเจลิส พิพากษาใหม่ให้ทั้งคู่รับโทษ 50 ปี และมีโอกาสได้รับทัณฑ์บน ไลล์ และ อีริค เมเนนเดซ สองพี่น้องชาวอเมริกันคู่นี้กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก จากการร่วมกันวางแผนใช้อาวุธปืนจ่อยิง โฮเซ และ คิตตี เมเนนเดซ พ่อและแม่บังเกิดเกล้าของตนเองเสียชีวิตที่ห้องนั่งเล่นภายในแมนชั่นหรูย่านเบเวอร์ลี ฮิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 1989 ขณะสองพี่น้องอายุ 21 และ 18 ปี อ้างว่าเป็นการป้องกันตัวเพราะถูกพ่อแม่กดดันทั้งทางร่างกายและอารมณ์ และล่วงละเมิดทางเพศมานานหลายปี หากไม่ชิงฆ่าพ่อแม่ก่อนก็อาจจะถูกพ่อฆ่าตายก่อน อย่างไรก็ดี อัยการเชื่อว่า ไลล์และอีริควางแผนฆ่าพ่อแม่ตนเองเพื่อหวังทรัพย์สิน ทั้งคู่ถูกจับกุมและขึ้นศาลรับการพิจารณาคดีในปี 1996 ก่อนถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีเจตนาฆ่าสองกระทง ให้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีโอกาสรับทัณฑ์บนพักโทษ ตลอดช่วงเวลาที่ถูกคุมขัง ไลล์ และ อีริค เมเนนเดซ ที่ปัจจุบันอายุ 57 และ […]

1 5 6 7 8 9 5,446
...