ฮือฮา!! ถวายสังฆทานไฮเทค นวัตกรรมใหม่ สังฆทานสายพานบุญ
ฮือฮา!! ถวายสังฆทานไฮเทค นวัตกรรมใหม่ สังฆทานสายพานบุญ
ฮือฮา!! ถวายสังฆทานไฮเทค นวัตกรรมใหม่ สังฆทานสายพานบุญ
ทุกครั้งที่มีการอัพเดทเครือข่ายสื่อสารจากเทคโนโลยีระดับหนึ่งไปอีกระดับขั้นหนึ่ง มักมีคำถามเกิดขึ้นเสมอว่าเมื่อเปลี่ยนผ่านจากเจนเนอเรชั่นหนึ่งไปอีกเจนเนอเรชั่น ด้วยความสามารถในการสื่อสารที่เร็วขึ้น แรงขึ้น สัญญาณที่ส่งมีอันตรายต่อมนุษย์ หรือผู้ใช้งานหรือไม่ เมื่อเราได้ปลี่ยนผ่านการสื่อสารจาก4G ไป5G เชื่อว่าคำถามแบบนี้จะเกิดขึ้นมาอีกแน่นอน เราจึงไปสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญ นายสืบศักดิ์ สืบภักดี เลขาธิการสมาคมโทรคมนาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อไขความกระจ่าง โดยเลขาธิการ สมาคมโทรคมนาคม อธิบายว่า กระแสความตื่นตัวเรื่องเทคโนโลยี 5G ในบ้านเราเริ่มเป็นที่สนใจมาโดยลำดับนับตั้งแต่ กสทช. จัดให้มีการประมูลคลื่น 5G ทั้งความถี่ 700MHz 2600 เมกกะเฮิรตซ์ และ 26 กิกะเฮิรตซ์ ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องกับการที่ผู้ประกอบการ 2 รายใหญ่ลงทุนขยายเครือข่าย 5G ทันที โดย ณ วันนี้สามารถพูดได้ว่า ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีบริการ 5G เชิงพาณิชย์ให้บริการ รวมถึงมีพื้นที่ครอบคลุม 5G มากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนที่ทยอยเปิดบริการ 5G ตามมาก็ตามแม้เทคโนโลยีมือถืออาจไม่ได้ใหม่สำหรับผู้ใช้ แต่ในเมื่อ 5G เป็นเรื่องใหม่ในแง่มุมของเทคโนโลยี ความรู้ความเข้าใจหรือการรับรู้ในรายละเอียดอาจมีความแตกต่างจากเทคโลโลยี 3G หรือ 4G ในอดีต สิ่งหนึ่งเลยที่คนมักเข้าใจผิดมากคือเรื่อง “ความเร็ว” ที่ 5G สามารถทำได้มากกว่าเดิม 10 เท่า แสดงว่าส่งคลื่น “แรง” กว่าเดิม 10 เท่าด้วย!! และถูกเชื่อมโยงไปสู่เรื่องอันตรายจากคลื่นที่แรงหรือกระทบสุขภาพเกิดเป็นกระแสบอกต่อ หรือแชร์ผ่านโลกโซเชียลต่อ ๆ กัน โดยขาดความเข้าใจที่แท้จริง “เทคโนโลยี 5G เป็นของใหม่ที่ต้องยอมรับว่าต้องให้เวลาสังคมหรือผู้บริโภคได้ทดลองใช้ หรือเข้าใจในตัวเทคโนโลยีให้มากขึ้นเช่นเดียวกับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอดีตที่อาจมีข้อกังวลหรือไม่ยอมรับในช่วงแรกแต่เมื่อสังคมหรือผู้บริโภคมีความเข้าใจในข้อเท็จจริงและวางใจแล้ว ก็จะคลายความกังวลไป เหมือนที่ในอดีตคนไม่กล้าใช้เตาไมโครเวฟตอนที่เปิดตัวใหม่ ๆ เพราะกลัวอันตรายจากคลื่นไปสู่อาหาร หรือแม้แต่มือถือในยุคแรก ๆ ที่ผ่านมา ที่มีประเด็นเรื่องคลื่นจากเสาส่งเช่นกันกันกับที่คนพูดถึงกันมากกับ 5G ตอนนี้ ทั้งที่โดยข้อเท็จจริง คลื่นก็คือคลื่น คลื่นที่ 5G ใช้ในวันนี้ก็ไม่ต่างจากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรคม คลื่นโทรทัศน์ ที่ส่งออกอากาศอยู่รอบตัวเรา เพียงแต่เทคโนโลยีที่นำมาใช้บนตัวคลื่นนั้น ๆ ที่เปลี่ยนไป ให้สามารถรับส่งข้อมูลได้มากขึ้น หรือเร็วขึ้นในภาษาชาวบ้าน คนเลยไปดีความว่าเร็วขึ้น แสดงว่าแรงขึ้น แล้วอันตราย ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่แบบนั้น” หลายคนบอกว่าคลื่น 5G ส่งแรงกว่า 4G มาก เลยกลัวหรือกังวลกัน? “5G ไม่ได้ส่งคลื่นแรงกว่าเดิมในแง่กำลังส่ง เสาส่งหรือสถานีฐานที่ตั้งอยู่ทั่วไปที่เห็นจริง ๆ ก็มีกำลังส่งสูงสุด (Max Power) ไม่ได้ต่างจาก 4G เดิม อุปกรณ์พวกนี้มีมาตรฐานสากลในระดับโลกควบคุมและกำหนดไปยังผู้ผลิตแต่ละรายการที่จะบอกว่าเสาส่ง 5G ส่งแรงมากเกินมาตรฐานจึงเป็นเรื่องที่อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปมาก ในแง่เทคนิคกำลังส่งสูงสุดที่เห็นในความเป็นจริงเสาก็อาจไม่ได้ส่งออกเต็มกำลังเพราะระบบจะคอนโทรลให้เครื่องส่งใช้กำลังส่งเท่าที่จำเป็นไม่ไปรบกวนเซลข้าง ๆ เทคโนโลยีมีการใช้หลายคลื่น หลายชุดเครื่องส่งพร้อมกันหากจะพูดแค่ว่าแรงกว่าเดิมอันตรายกว่าเดิม อาจไม่ใช่แบบนั้น” แสดงว่าเสาส่ง 5G ก็ไม่ได้ส่งแรงกว่า 4G หรือมีอันตรายจากคลื่นอย่างที่เข้าใจกัน? “เป็นไปตามที่อธิบาย เราอาจจะเคยได้รับข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ อาทิ 5G แรงจนทำนกใกล้ ๆเสาส่งตาย หรือ 5G ส่งผ่านคลื่นไวรัสยิ่งช่วงนี้มีกระแสโควิด-19 หรือ 5G อันตรายจนบางประเทศแบนไม่ให้ใช้ อะไรทำนองนี้บ่อยมาก แต่อยากให้ลองใช้การคิดโดยหลักข้อเท็จจริงว่า คลื่นจะ 2G 3G 4G หรือ 5G ก็คือคลื่นวิทยุเหมือนกันต่างกันที่เทคโนโลยี กำลังส่งไม่ได้ต่างกัน ถ้ากลัวเรื่องกำลังส่งจริง ๆ เสาส่งคลื่นแบบอื่นอาจใช้กำลังส่งมากกว่ามือถือ 5G ด้วยซ้ำ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีข่าวทำนกตายเป็นร้อยเป็นพันตัว หรือเรื่องการส่งไวรัสไปกับคลื่นมือถือยิ่งเป็นไปไม่ได้ นอกจากการให้คนเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีเพื่อเปิดใจ อาจต้องทำควบคู่กับการให้ข้อมูลที่ถูกต้องลบล้างกับ fake news ซึ่งแชร์กัน โดยไม่มีต้นตอหรือข้อมูลที่สืบค้นหลักฐานมายืนยันได้ บางอันก็แปลจาก blog ต่างประเทศที่มีลักษณะเป็น clickbait ด้วยซ้ำ” แสดงว่าผู้ใช้บริการสามารถวางใจและใช้งาน 5G ได้? “เรื่องมาตรฐานโทรคมเป็นเรื่องสากล ซึ่งมีหน่วยงานและกลไกดูแลทั้งระดับนานาชาติและระดับประเทศ สิ่งที่คนกังวลหรืออะไรที่มันจะเป็นอันตรายจริง ๆ ย่อมต้องมีการศึกษารับรองแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เกิดแค่ประเทศ แต่เป็นความปลอดภัยของผู้ใช้บริการทุกคนทั่วโลก อุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่ใช้ ๆ ในประเทศเราก็ผ่านมาตรฐานและมาจากผู้ผลิตที่ทำตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสากล ยังมี กสทช. กำกับเรื่องมาตรฐานโทรคม กำลังส่ง การขออนุญาตติดตั้ง และอื่น ๆ หลายขั้นตอน ในโลกยุคปัจจุบันที่อะไรก็สื่อสารส่งข่าวได้ไวได้ทั่วโลกแบบ 5G เรื่องร้าย ๆ อันตราย หรือสิ่งที่ไม่ปลอดภัยมันปกปิดกันไม่ได้แล้ว เว้นแต่เรื่องเหล่านั้นมันไม่จริงก็อาจเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง สุดท้ายก็โดนหักล้างโดยข้อเท็จจริงและหลักฐานยืนยัน ก็ขอให้ผู้ใช้บริการมั่นใจและวางใจเรื่องความปลอดภัยจากการใช้คลื่นได้ มีหน่วยงานและคนมอนิเตอร์เยอะไม่น่าต้องกังวล” เทคโนโลยี 5G กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในอนาคตเราจะเห็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับเครือข่ายและเกิดบริการที่จะขับเคลื่อนทั้งธุรกิจและการใช้ชีวิต ไม่พ้นแม้แต่เรื่องสุขภาพ เทคโนโลยีที่กังวลกันว่าอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพจากความเข้าใจที่ได้รับมาไม่ถูกต้องหรือรอบด้าน ในวันหนึ่งจะเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อสุขภาพ วงการแพทย์ หรือแม้แต่การรักษาผู้ป่วยแบบออนไลน์ผ่านโครงข่าย 5G ที่ส่งผ่านข้อมูลได้รวดเร็วครอบคลุม เมื่อถึงวันนั้นทุกคนอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยกังวลกับ 5G แบบเรื่องเล่าที่ส่งต่อ ๆ กันทุกวันนี้-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 16 พ.ย. เอกชนพร้อมให้บริการระบบติดตามนักท่องเที่ยวใน State Quarentine วอนรัฐให้ความชัดเจนมาตรการสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว นายฉัตรชัย ตั้งจิตตรง กรรมการผู้จัดการ บริษัททีเอ็มเอส โฮลดิ้ง กล่าวว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการทำระบบติดตามและดูแลผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราที่มลรัฐฟอริด้า สหรัฐอเมริกา ก่อนจะเป็นผู้ให้บริการระบบติดตามสุขภาพนักท่องเที่ยวให้กับโรงแรมของหมู่เกาะเคแมน 6 แห่ง ภายใต้ชื่อโครงการ Hotel Bubble โดยบริษัทฯให้บริการอุปกรณ์ติดตามตัวด้วยสายรัดข้อมือ พร้อมระบบจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักในโรงแรมซึ่งเป็นการดำเนินมาตรการ State Quarentine เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 “เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)จะเข้าพักในโรแรมทร่เป็น State Quarentine เป็นเวลา 14 วัน นักท่องเที่ยวจะได้รับสายรัดข้อมือที่มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลทางสุขภาพของนักท่องเที่ยว อุปกรณ์จะส่งข้อมูลไปเก็บไว้ที้ dashboard (ระบบจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล) เพื่อแสดงผลการติดตามสุขภาพของนักท่องเที่ยว ตัวรีสแบนด์ จะเก็บข้อมูลพื้นฐานทางสุขภาพ การเดิน การนอน และข้อมูลเกี่ยวกับอุณหภูมิของนักท่องเที่ยวซึ่งสำคัญมากกับการเฝ้าระวังโควิด-19 หากเกิดความผิดปกติระบบจะแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาดูและ รวมถึงหากเกิดเหตุผิดปกตินักท่องเที่ยวสามารถกดปุ่มแจ้งเตือนได้ด้วยตัวเอง” นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า การให้บริการที่หมู่เกาะเคแมนถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีโดยยังให้บริการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ในฐานะบริษัทของคนไทยจึงอยากน้ระบบนี้มาให้บริการในประเทศไทยที่มีมูลค่าของการท่องเที่ยวมากมหาศาล โดยระบบและอุปกรณ์ที่จะเอามาให้บริการเป็นระบบเดียวกักับที่ให้บริการที่หมู่เกาะเคแมน โดยบริษัทฯได้ทำโครงการนำร่องที่ท่าเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ตไปแล้ว “ทีเอ็มเอสพร้อมให้บริการในพื้นที่ที่กำหนดเป็น State […]
สวทช.เปิดตัว Green Rock นวัตกรรมวัสดุเม็ดมวลเบาสังเคราะห์ สำหรับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างสู่ความยั่งยืน
กรุงเทพฯ 6 ต.ค. สมุทรสงคราม โชว์ผล ใช้ระบบบิ๊กดาต้า ค้นหาคนจน วางยุทธศาสตร์แก้ปัญหาแบบบูรณาการ การค้นหาคนจนที่แท้จริง มาตรการของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการช่วยเหลือภาคประชาชนที่มีความยากจน ด้วยการลงทะเบียน เพื่อให้ความข่วยเหลือตามมาตรการ เครื่องมือที่ภาครัฐนำมาแยกแยะเพื่อให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่มีฐานยากจน จริงๆ ได้มีการตั้ง คณะท่างานเฉพาะกิจเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาระบบ Big Data ของภาครัฐในประเด็น การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งในด้านการเพิ่มรายได้ ลดภาระค่าครองชีพ และเพิ่มโอกาสด้านอาชีพ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้พัฒนาระบบจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า หรือ TPMAP ระบบที่พัฒนาต่อยอดมาจากระบบบริหารจัดการข้อมูลคนจนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform)โดยใช้ข้อมูลจำเป็นพื้นฐานของกรมการพัฒนาชุมชน และข้อมูลผู้ลงทะเบียน สวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงการคลัง และใช้วิธีการประมวลข้อมูลเพื่อดูความยากจนในหลายมิติ โดยสศช. ได้น่ามาปรับใช้กับประเทศไทย ให้สามารถครอบคลุมปัญหาที่กว้างขึ้น เช่น เด็กแรกเกิด การศึกษา ผู้สูงอายุ การพัฒนาสภาพที่อยู่อาศัย โดยยังคงความสามารถของระบบเดิมในการชี้เป้าความยากจนไว้ด้วย ระบบ TPMAP สามารถใช้ระบุ ปัญหาความยากจนในระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน ท้องถิ่น / ท้องที่ จังหวัด ประเทศ หรือปัญหาความยากจน รายประเด็น ซึ่งทำให้การแก้ปัญหาตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และสามารถออกแบบนโยบายโครงการ ในการแก้ปัญหา ให้ตรงกับความต้องการหรือสภาพปัญหาได้ สามารถระบุได้ว่าคนจนนั้นอยู่ที่ไหน มีปัญหา ในมิติอะไรบ้าง หลักการท่างานของ TPMAP คืออาศัยข้อมูลจากหลายแหล่งมายืนยันซึ่งกันและกัน ใช้สมมติฐานว่าคนที่ได้รับการส่ารวจว่าคนจน เป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน TPMAP จึงตั้งต้นโดยใช้ข้อมูล ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จากกรมการพัฒนาชุมชน และข้อมูลผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ จากกระทรวงการคลัง มายืนยันซึ่งกันและกัน หรืออีกนัยหนึ่ง “คนจนเป้าหมาย” ใน TPMAP คือคนจน ใน จปฐ. ที่ไปลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐTPMAP สามารถวิเคราะห์ข้อมูลคนจนจาก หลายแหล่งซึ่ง Data Integration ท่าให้ทราบข้อมูล คนจนที่ใกล้เคียงกับความจริงที่สุด สามารถระบุได้ว่า “คนจนเป้าหมาย” มีปัญหาอะไรบ้างในแต่ละมิติจากข้อมูลจำนวนคนในครัวเรือนยากจน ที่ตกตัวชี้วัดความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ในแต่ละมิติ โดยตัวชี้วัด จปฐ. ที่น่ามาใช้ในการคำนวณดัชนีความยากจนหลายมิติ (MPI) สามารถระบุกลุ่มที่ต้องช่วยเหลือเร่งด่วน ได้รวดเร็ว และชัดเจนมีรายงานเชิงแผนที่ แสดงความยากจนใน 5 มิติ ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ และด้านการเงิน ประกอบด้วย ข้อมูลด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านการศึกษา ด้านรายได้ และ ด้านการเข้าถึงบริการรัฐ TPMAP สามารถเปรียบเทียบข้อมูลปีต่อปี ทำให้เห็นสภาพปัญหาว่ามีทิศทางปรับลดหรือรุนแรง มากขึ้นเพียงใด ซึ่งสามารถนำมาใช้ประเมินปัจจัยที่อาจส่งผลต่อปัญหาดังกล่าว หรือประเมินประสิทธิภาพของ นโยบายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นได้ ซึ่งจะช่วยให้การแก้ปัญหาตรงจุด และเลือกนโยบายได้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น ข้อมูลที่ได้จะเป็นประโยชน์กับผู้ก่าหนดนโยบายและหน่วยงานแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้สามารถ ออกนโยบายและปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุด โดยในอนาคต TPMAP จะผนวกรวมข้อมูลจากมิติอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้การวิเคราะห์ครอบคลุมและแม่นยำขึ้น ปัจจุบันมีการนำเสนอระบบ TPMAP แก่ส่วนราชการ หลายจังหวัด เพื่อเป็นการสร้างฐานข้อมูลคนจนที่ถูกต้องในแต่ละจังหวัดก่อนที่จะให้หน่วยราชการในจังหวัด ๆนำไปกำหนดยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในแต่ละพื้นที่ ตัวอย่างการดำเนินการที่จังหสัดสมุทรสงคราม นายชรัสบุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ผลจากการวิเคราะห์ฐานข้อมูล ได้ใช้กำหนดนโยบายในการแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัด ข้อมูล TPMAP พบว่าจังหวัดสมุทรสงครามมีคนจนที่จะต้องดำเนินการแก้ไขในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 65 ครัวเรือน 850 คน การดำเนินงานจึงเน้นหลักการมีส่วนร่วมและการบูรณาการจากทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดความรวดเร็วมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลในการแก้ไขปัญหาความยากจนจึงได้สนับสนุนการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการขับเคลื่อนงานโดยนำระบบ IPMAP Logbook (แฟ้มบ้านพัฒนาคนไทย) ซึ่งเนคเทคได้พัฒนาจากระบบ IPMAP และออกแบบเป็นเครื่องมือสนับสนุนการบูรณาการและความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาสามารถบันทึกปัญหาความต้องการและความช่วยเหลือของหน่วยงานได้รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ในท้องที่มีข้อมูลตั้งต้นที่เกิดจากการบูรณาการข้อมูลลดความซ้ำซ้อนสามารถติดตามสถานการณ์และการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วยกระดับคุณภาพชีวิต-สำนักข่าวไทย.
กรุงเทพฯ 8 ก.ย. -สำนักข่าวไทยมีโอกาสชมการเรียนการสอนที่ให้นักเรียนได้ฝึกฝนจากประสบการณ์จริง หรือ Active Learning ที่โรงเรียนสาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หรือสาธิตพีไอเอ็ม ที่นี่ให้เด็กๆ ทุกคนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ได้เรียนรู้และต่อยอดในสิ่งที่ชอบและสนใจเป็นพิเศษ ที่เรียกว่า โรงเรียน คือ แหล่งการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 ที่มุ่งเน้นส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้ของนักเรียน เน้นทักษะการบริหารจัดการ การสื่อสารด้านภาษา และความสามารถในการนำเทคโนโลยีไปใช้งานในด้านต่างๆ นักเรียนทุกคนจะใช้ควบคู่ไปกับการเรียน ซึ่งเป็นอุปกรณ์การเรียนที่สำคัญที่ช่วยให้เด็กสนใจและมีส่วนร่วมกับการเรียนการสอนมากขึ้น สามารถโต้ตอบและค้นคว้าข้อมูลได้ในทันที รวมไปถึงการทำการบ้านต่างๆ ที่ทางโรงเรียนเปิดโอกาสให้นักเรียนสามารถสร้างสรรค์และออกแบบชิ้นงานได้อย่างเต็มที่ ตามความถนัดของแต่ละคน อาทิ ทำวิดีโอ, ทำแอนิเมชั่น หรือ มายแมพปิ้งก็ได้เช่นกัน สาธิตพีไอเอ็มสอนเรื่อง หัวใจ ด้วยการให้เด็กๆ ทำความเข้าใจกับอวัยวะสำคัญด้วยการใช้นิ้วผ่าผ่าไอแพด ก่อนผ่าจริงๆ ผ่าแล้วต้องทำวิดีโอสรุปผลการเรียนรู้ หรือนักเรียนคนเก่งที่สรุปบทเรียนออกมาเป็นภาพ mindmap หรือการสรุปบทเรียนออกมาเป็นภาพวาดที่ลากเส้นด้วยปากการอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนดนตรีผ่านไอแพดที่ไม่จะเป็นต้องเบ่นดนตรีเป็นทุกคน ขอแค่เข้าใจทฤษฎี และเสียงดนตรี ก็สร้างผลงานได้ เป็นการยืนยันว่าไฮเทคทำให้เกิดการเรียนรู้ได้เท่าเทียมกัน สาธิตพีไอเอ็ม เป็นโรงเรียนมัธยมที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมในด้านการศึกษา สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง สถานศึกษามีการใช้ เครื่องมือ จะจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ทำงานร่วมกัน ตลอดจนกระบวนการคิดเชิงวิพากษ์ของนักเรียน อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นและความสนใจใคร่รู้ในการเรียนอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย
คณะแพทย์ จุฬาฯ ปรับตัวครั้งใหญ่ หลังโควิด-19 จัดสอบออนไลน์100% บนiPad สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลได้ภายใน 10-15 นาทีเท่านั้น
กรุงเทพฯ 30 ก.ค. พุทธิพงษ์ ชี้เฟซบุ๊ก ไม่เคยให้ความร่วมมือปิดเว็บผิดกฎหมาย ย้ำหากทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยต้องเคารพและเข้าใจบริบทของคนไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพจากหน้าเพจเฟซบุ๊กของสื่อหลายแห่งในการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา และมีข้อความที่ไม่เหมาะสมแสดงขึ้นมา โดยเป็นคำแปลจากข้อความต้นฉบับภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยที่มีความหมายไม่ถูกต้องนั้น กระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจ และ ได้ประสานไปยังเฟซบุ๊กแล้ว ขณะที่ไทยพีบีเอสเองก็ได้แจ้งความไปยัง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) เพื่อดำเนินคดีกับเฟซบุ๊กแล้ว ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงฯไม่เคยนิ่งนอนใจกับการดำเนินการเว็บไซต์ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งยูทูปให้ความร่วมมือร้อยละ 90 ขณะที่เฟซบุ๊กให้ความร่วมมือเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น เห็นได้ว่าเฟซบุ๊กไม่ให้ความร่วมมือเลย ทั้งๆที่เขามาทำงานในประเทศไทย มาให้บริการกับคนไทย จึงควรที่จะเข้าใจบริบทของสังคมไทย ยอมรับในสิ่งที่คนไทย ยึดมั่น นับถือ และรับผิดชอบสังคมไทยด้วย ไม่ใช่ส่งไปให้ปิดแล้วก็นิ่งเฉย คนทั่วไปก็ไม่เข้าใจคิดว่ากระทรวงฯนิ่งเฉย เมื่อต้นเรื่องที่ต่างประเทศไม่ให้ความร่วมมือ กระทรวงฯก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะกระบวนการทำงานของกระทรวงฯได้ประสานไปหมดทุกขั้นตอนแล้ว-สำนักข่าวไทย.
กรุงเทพฯ 29 ก.ค. นำชมแอปเปิลสโตว์แห่งใหม่ Apple Central World กลางย่านราชประสงค์ จำลองต้นแบบคล้ายสตีฟจ๊อบเธียร์เตอร์ เปิดให้บริการ 31 ก.ค.นี้ ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 31 ก.ค.2563 สำนักข่าวไทยได้รับโอกาสชมแอปเปิลสโตร์สาขาใหม่ Apple Central World ถือเป็น Apple Store แห่งที่ 2 ในประเทศไทย เป็นแห่งที่ 4 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นสาขาที่ 511 ของโลก ที่สี่แยกราชประสงค์ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด Apple Central World ออกแบบให้เป็นอาคารทรงกระบอก แกนกลางของร้านใช้วัสดุเป็นไม้ ซึ่งเรียกว่า The Tree Canopy เชื่อมต่อตั้งแต่ชั้นใต้ดิน ขึ้นไปถึงชั้น 2 โดยมีการออกแบบไม้แต่ละแผ่นให้โค้งรับกับหลังคา และเชื่อมต่อกันเหมือนแกนต้นไม้ ส่วนบันไดใช้เป็นสแตนเลสชิ้นเดียวที่ขึ้นรูปโค้งมาโดยเฉพาะเช่นเดียวกัน Apple Central World ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ชั้น ชั้นใต้ดินมีห้องประชุม The Board Room ใช้ติดต่อธุรกิจกับทีมงานธุรกิจของแอปเปิล ในการนำโซลูชันที่ Apple มีไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ชั้น 1 ทางเข้าหลักจากลานน้ำพุ เมื่อเข้ามาภายในจะเป็นบริเวณ The Product Zone พร้อมด้วย The Avenue ชั้นสำหรับวางอุปกรณ์เสริม มีอุปกรณ์ที่จัดแสงทั้งสินค้าหลักของแอปเปิล ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad MacBook Apple Watch Apple TV รวมกับอุปกรณ์เสริมทั้งหมด 204 ชนิด พื้นที่บริเวณด้านในสุด ให้คำแนะนำลูกค้าแบบส่วนตัว เกี่ยวกับการแก้ปัญหาทางเทคนิคต่างๆ มีโต๊ะ Genius Bar จุดให้บริการทั้งบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 ที่เชื่อมต่อกันด้วยบันได และลิฟท์ที่หุ้มด้วยอะลูมิเนียม Apple Central World มีพนักกว่า 130 คน พร้อมให้บริการใน 17 ภาษา เพื่อรองรับการจัดกิจกรรม และให้ข้อมูลแก่ลูกค้า โดยจากความสำเร็จของ Apple Iconsiam ที่จัดกิจกรรมในปีที่ผ่านมากว่า 4,000 เซสชัน ทำให้คาดว่าคนไทยจะเข้ามาใช้งานพื้นที่Apple Central World เพื่อก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ต่อไป ด้านนอกร้าน มีม้านั่งหิน ให้ลูกค้านั่งพักผ่อน ใต้ต้นหูกระจง และมีการออกแบบให้ใช้พื้นหินที่เชื่อมต่อในร้าน และนอกร้านเข้าด้วยกัน ให้เหมือนความรู้สึกเป็นร้านที่เชื่อมต่อยาวออกไปข้างนอก ร้านเปิดให้บริการเป็นทางการวันที่ 31 ก.ค.2563 ผู้ที่สนใจจะเข้าร้านในวันแรกต้องจองเข้าชม ซึ่งจ่กการตรวจสอบรอบจองเต็มหมดแล้ว ซึ่งทางแอปเปิลฝากบอกถึงสาวกว่าร้านเปิดอีกนาน ค่อยๆมากันก็ได้ – สำนักข่าวไทย.
อุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่เปิดให้บริการในวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันแรก ในรอบกว่า 3 เดือน โดยจะต้องจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน จึงจะสามารถเข้าไปเที่ยวชมพื้นที่ต่างๆ ได้
หลายพื้นที่ของจังหวัดสุพรรณบุรี ประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาชาวบ้านขาดน้ำกินน้ำใช้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ขุดเจาะบ่อบาดาล เป็นจุดบริการแจกจ่ายน้ำริมทาง นำร่อง 2 แห่ง และเตรียมขยายไปยังพื้นที่ขาดแคลนน้ำอื่นๆ ติดตามจากรายงาน
ปัญหาน้ำเสียจากพื้นที่เกษตรและแหล่งอุตสาหกรรม ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยแครงคลองโคน และบางตะบูนได้รับผลกระทบ บางปีรุนแรงตายยกฟาร์ม นักวิจัยสกสว. จึงได้ศึกษาวิจัยเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา