สิ่งแวดล้อม

กรุงเทพฯ 7 เม.ย. – รมว.ทส. ลงนามในคำสั่งด่วนที่สุดให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงทส. ทุ่มเททุกสรรพกำลังบูรณาการกับหน่วยงานอื่นอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหากากแคดเมียม โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายจากจังหวัดสมุทรสาครกลับไปยังจังหวัดตาก ให้พิจารณาแนวทางที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด ย้ำให้กรมควบคุมมลพิษสรุปรายงานเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมมลพิษและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติโดยเร็ว พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงนามในคำสั่งด่วนที่สุด เรื่อง รายงานเหตุการณ์การพบกากแคดเมียม โดยมีเนื้อหาระบุว่า เนื่องปรากฏเหตุการณ์พบกากแคดเมียม ซึ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตรายจำนวนมากในบริเวณโรงงานพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อให้เกิดความวิตกกังวลกับประชาชนเป็นวงกว้างว่า จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกาย รวมถึงสิ่งแวดล้อมเพื่อให้การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเรื่องนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ดำเนินการ ดังนี้ 1.สั่งการหน่วยงานในสังกัดที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ดังกล่าวดำเนินการตาม อำนาจหน้าที่ ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ อย่างเคร่งครัด และตรวจสอบผลกระทบที่เกิดกับประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยด่วนที่สุด พร้อมเสนอแนวทางการปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ นอกจากนี้ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบว่า โรงงานดังกล่าวได้ดำเนินการตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EA) หรือไม่อย่างไร รวมทั้งให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยเร็ว 2. กรณีจะมีการนำกากแคดเมียมดังกล่าวกลับไปยังแหล่งที่มาในจังหวัดตากนั้น ให้วิเคราะห์ ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เกิดผลกระทบและมีผลดีผลเสียอย่างไร โดยให้เสนอแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด 3. ควบคุม กำกับ ดูแล ประสานงาน หน่วยงานในสังกัดตามอำนาจหน้าที่และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นและจังหวัด โดยทุ่มเทสรรพกำลังและเครื่องมือเครื่องใช้เข้าดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ 4.ชี้แจงความเข้าใจกับประชาชน ชุมชน ท้องถิ่นให้รับทราบข้อมูล พร้อมรายงานผลการปฏิบัติดังกล่าวและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบเป็นระยะต่อไป 5. ให้กรมควบคุมมลพิษสรุปรายงานเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมมลพิษและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติโดยเร็ว […]

อธิบดีอุทยานฯ สั่งดำเนินคดีทุกรายที่เข้าไปเก็บหาของป่าในทุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ไฟไหม้ไปแล้ว ยกเว้นพื้นที่ที่ผ่อนปรนสำหรับชุมชนที่ช่วยป้องกันไฟป่า

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ คาดเหตุสารเคมี “กรดซัลฟิวริก” ไหลลงสู่แม่น้ำคาน แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว ไม่กระทบคุณน้ำจังหวัดริมแม่น้ำโขงในไทย โดย สทนช. เชื่อสารเคมีเจือจางก่อนถึงไทย แต่ได้ประสานติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

“พัชรวาท” สั่ง “กรมควบคุมมลพิษ” ตรวจสอบสารปนเปื้อนแคดเมียมสมุทรสาคร ขอรายงานผลเร่งด่วน ห่วงกระทบความรู้สึกประชาชน พร้อมกำชับลงพื้นที่ให้คำแนะนำชาวบ้าน เล็งตั้งคณะทำงานเกาะติดเหตุการณ์ ชี้หากตรวจพบโรงงานกระทำผิดถึงขั้นยึดใบอนุญาต

กรุงเทพฯ 2 เม.ย.- กรมอุทยานฯ เตรียมเปิดปฏิบัติการจับ “ลิงเมืองเก่า” จ. ลพบุรีบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนหลังเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างนี้กำลังเตรียมกรงพักพิงขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายลิงที่จับได้ไปดูแลในสถานอนุบาลลิง (สวนลิง) ต. โพธิ์เก้าต้น อ. เมืองลพบุรี  นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ​กระทรวงทรัพย​ากรธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​โดยกรม​อุทยาน​แห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และ​พันธุ์พืช​กำลังเร่งประสานเทศบาลเมือง​ลพบุรี​เพื่อปรับปรุงกรงพักพิงลิงที่สวนลิงลพบุรี​ ตำบลโพธิ์เก้าต้น อำเภอเมืองลพบุรีเพื่อใช้เป็นสถานที่อนุบาล “ลิงเมืองเก่า” จังหวัดลพบุรี โดยในเฟสที่ 1 จะมี 3 กรง คาดว่า จะแล้วเสร็จ 1  กรงประมาณ​กลางเดือนเมษายนนี้ ส่วนอีก 2 กรง เทศบาลเมืองลพบุรีจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม​ 2567 จากนั้นหลังเทศกาลสงกรานต์จะเริ่มปฏิบัติการจับลิงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในจังหวัดลพบุรีให้เร็วที่สุด ส่วนที่มีข่าวว่า จะนำไปปล่อยที่ในธรรมชาติที่จังหวัดนครนายกหรือเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าเคยพิจารณาเคลื่อนย้ายไปอนุบาลที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่เนื่องจากที่นั่นอนุบาลลิงอยู่กว่า 2,000 ตัวซึ่งหนาแน่นอยู่แล้วจึงจะไม่นำไป โดยนำมาดูแลชั่วคราวที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 […]