คพ. เฝ้าระวังผลกระทบแคดเมียม จนกว่าฝังกลบแล้วเสร็จ

กรุงเทพฯ 6 เม.ย.-อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เผยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกรณีการขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสี จ.สมุทรสาคร ยังไม่พบปนเปื้อน โดยจะเฝ้าระวังต่อเนื่องระหว่างรอกระทรวงอุตสาหกรรมและจังหวัดสมุทรสาคร กำหนดแผนขนย้ายไปฝังกลบที่ จ. ตาก พร้อมให้คำแนะนำในการขนย้ายเพื่อความปลอดภัย

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกรณีการขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสี จากบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนต์ (มหาชน) (ชื่อเดิม บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด) มายัง บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ซึ่งประกอบกิจการหล่อและหลอมอะลูมิเนียมแท่ง อะลูมิเนียมเม็ดจากเศษอะลูมิเนียมและตะกรันอะลูมิเนียม (Scrap and Dross) จังหวัดสมุทรสาคร


ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษเข้าร่วมตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567 โดยเก็บตัวอย่างกากแร่แคดเมียมและสังกะสีและตัวอย่างคุณภาพสิ่งแวดล้อมตรวจสอบได้แก่

  • กากแคดเมียมและสังกะสี
  • ดินภายในโรงงาน (ในโรงหลอมและนอกโรงหลอม)
  • เถ้าจากระบบบำบัดอากาศจากการหลอม
  • ดินบริเวณนอกโรงงาน
  • ไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ
  • น้ำทิ้ง

ผลการตรวจวัดในเบื้องต้นพบดังนี้


  • กากแคดเมียมและสังกะสี มีปริมาณแคดเมียม 24,884 มก./กก. ซึ่งถือเป็นของเสียอันตรายเนื่องจากมีปริมาณวัสดุเจือปนแคดเมียมสูงเกิน 100 มก./กก. (ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566)
  • ดินในโรงหลอม พบปริมาณแคดเมียม 7,159 มก./กก. ดินภายในโรงงานนอกโรงหลอม พบปริมาณแคดเมียม 31,584 มก./กก. และดินหน้ารั้วโรงงาน พบปริมาณแคดเมียม 2,838 มก./กก. ซึ่งทั้ง 3 จุด พบว่าสูงเกินเกณฑ์การปนเปื้อนในดินภายในโรงงาน (เกณฑ์การปนเปื้อนในดินภายในโรงงาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดเกณฑ์การปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินฯ พ.ศ. 2559 ต้องไม่เกิน 810 มก./กก.) –
  • เถ้าจากระบบบำบัดอากาศจากการหลอม ตรวจไม่พบแคดเมียม
  • ดินบริเวณชุมชนด้านเหนือลมและท้ายลมในระยะ 10 เมตร ตรวจไม่พบปริมาณแคดเมียม
  • ตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ

ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างน้ำ 3 จุด ได้แก่ 1) รางระบายน้ำหน้าโรงหลอม 2) รางระบายน้ำหน้าอาคารสำนักงาน และ 3) คลองธรรมชาติซึ่งจะต้องนำเข้าตรวจในห้องปฏิบัติการซึ่งจะได้เร่งรัดผลโดยเร็ว

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 3 (พิษณุโลก) สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 (นครปฐม) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร (ทสจ.สมุทรสาคร) และจังหวัดตาก (ทสจ.ตาก) เพื่อติดตามความก้าวหน้าและซักซ้อมเตรียมการให้การสนับสนุนทางเทคนิคในการวางแผนขนย้ายกากของเสียจากจังหวัดสมุทรสาครกลับมาฝังกลบแบบปลอดภัย ณ จังหวัดตากรวม 7 ประการประกอบด้วย

1) จากการตรวจพบแคดเมียมในดินหน้ารั้วโรงงานบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอาจจะติดไปกับล้อรถขนส่งได้ จึงมีข้อเสนอให้ มีการดูดฝุ่นและจัดเก็บดินปนเปื้อนเพื่อไปกำจัดอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ได้หยุดประกอบกิจการชั่วคราวตามคำสั่งของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และไม่มีคนงานเข้าไปทำงานแล้ว
2) คนงานที่ปฏิบัติงานในโรงงาน บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร รวม 19 ราย เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ได้รับการเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจสอบแล้ว 11 ราย เหลืออีก 8 ราย ซึ่งจะมีการเก็บปัสสาวะเพิ่มเติมในวันที่ 9 เมษายน 2567
3) ทสจ. สมุทรสาครได้ขอความรู้เรื่องการพิจารณาการปนเปื้อนของกากของเสียในสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครต่อไป
4) จากข้อเสนอให้มีการขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสีกลับมาฝังกลบแบบปลอดภัย ณ หลุมฝังกลบเดิม จังหวัดตาก นั้น มีข้อห่วงกังวลด้านโครงสร้างทางวิศวกรรมของหลุมฝังกลบเนื่องจากมีการเปิดหลุมและใช้เครื่องมือหนักในการขุดกากแคดเมียมและสังกะสีออกไป จึงเสนอให้มีการตรวจสอบโครงสร้างทางวิศวกรรมดังกล่าวว่า มีความพร้อมในการดำเนินการฝังกลบแบบปลอดภัยอีกครั้งได้หรือไม่ อีกทั้งหากยังไม่มีความพร้อมควรดำเนินการจัดเตรียมอาคารจัดเก็บชั่วคราวอย่างไร หรือควรจัดเก็บไว้ในโกดัง บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ไปพลางก่อน เนื่องจากอาคารโกดังของบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) จังหวัดตาก ได้รับการรื้อถอนหมดนานแล้ว
5) กรณีกากที่จะนำไปฝังกลบต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของกากของเสีย (TTLC/STLC) และอื่นๆ ในห้องปฏิบัติการ เพื่อประกอบการพิจารณาว่าต้องมีการดำเนินการบำบัดกากของเสียก่อนฝังกลบตามหลักเกณฑ์การฝังกลบแบบปลอดภัยอีกครั้งหนึ่งด้วยหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ในระยะเวลาในการเตรียมการข้อ 2 และการตรวจคุณสมบัติกากเช่นว่านี้ อาจต้องใช้เวลาไม่สามารถดำเนินการรองรับการขนขนย้ายกากของเสียให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครกำหนดไว้ได้
6) การพิจารณาข้อจำกัดด้านความพร้อมด้านอุปกรณ์เครื่องมือในการติดตามตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดตากและ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 3 (พิษณุโลก) รวมทั้งจังหวัดเส้นทางขนส่งที่มีระยะทางค่อนข้างไกลจากจังหวัดสมุทรสาครและ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 (นครปฐม) ในพื้นที่รับผิดชอบเกี่ยวข้อง อาจไม่เพียงพอรองรับการเฝ้าระวังผลกระทบคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในการดำเนินการขนย้ายกากดังกล่าว
7) เมื่อพิจารณาประเมินความพร้อมและความเป็นไปได้ตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้นแล้วอาจมีความเสี่ยงในการดำเนินการและอาจล่าช้าไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด อาจต้องพิจารณาทางเลือกในการฝังกลบที่สถานกำจัดกากของเสียอื่นในจังหวัดสมุทรสาครหรือจังหวัดอื่นที่ใกล้เคียง เพื่อลดความเสี่ยงจากการขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสีซึ่งมีปริมาณมาก


กรมควบคุมมลพิษได้ฝากประเด็นข้อพิจารณาต่างๆ ดังนี้นี้ ตามข้อ 4 – 7 ให้ ทสจ.ตาก และสมุทรสาคร นำเรียนปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อหารือร่วมกันประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับทางเลือกในการกำจัดกากที่กองเก็บอยู่ภายในโรงงานดังกล่าว

สำหรับผลการตรวจสอบตัวอย่างดินบริเวณรอบโรงงานซึ่งขยายรัศมีการเก็บตัวอย่างจากเดิมในระยะไม่เกิน 10 เมตร ไปจนถึงระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร ตรวจไม่พบการปนเปื้อนของแคดเมียม ยกเว้นบริเวณหน้ารั้วโรงงาน พบแคดเมียมในระดับ 3,430 มก./กก. (สูงเกินเกณฑ์การปนเปื้อนในดินภายในโรงงาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดเกณฑ์การปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินฯ พ.ศ. 2559 ต้องไม่เกิน 810 มก./กก.)

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษเฝ้าระวังผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้มีคำสั่งปิดพื้นที่ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีพบสารแคดเมียมกว่า 15,000 ตัน ในจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนกากแคดเมียมและกากสังกะสี ซึ่งผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันอยู่ในสถานะแข็งตัวและเสถียร หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเน้นย้ำให้กรมควบคุมมลพิษให้เก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบหาสารปนเปื้อนทั้งในโรงงาน ในอากาศ และแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อรายงานผลให้ประชาชนรับทราบโดยด่วน เพราะหากใช้เวลานานเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนได้ นอกจากนี้สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อให้คำแนะนำในการดำเนินชีวิตในช่วงนี้ด้วย

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษต้องร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการให้คำแนะนำ ปรึกษา ในด้านวิชาการ ช่วยดูแลการขนย้ายและเก็บรักษาแคดเมียมให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด โดยจะมีการตั้งคณะทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ดูแลเรื่องนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และยังได้ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบโรงงานถลุงแร่ว่ามีการจัดทำ EIA และได้ปฏิบัติตามมาตรการ EIA ที่กำหนดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่าสภาพแวดล้อมมีสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยเคร่งครัด รวมถึงค่าการฟื้นฟูบริษัทต้องรับผิดชอบตามหลักผู้ก่อมลพิษ หรืออาจจะต้องถูกยึดใบอนุญาตประกอบกิจการจากหน่วยงานที่ให้อนุญาตด้วย.- 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]