ชลบุรี 27 พ.ค. – กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกรมโรงงานฯ และกรมศุลกากร ตรวจสอบตู้สินค้านำเข้าเศษอะลูมิเนียม ที่ท่าเรือแหลมฉบัง พบปะปนแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ปนเปื้อนสารตะกั่ว เข้าข่ายของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซลฯ เตรียมประสานส่งกลับประเทศต้นทางโดยเร็ว
นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ. ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กรมศุลกากร (กศก.) ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และมูลนิธิบูรณะนิเวศ ตรวจสอบตู้สินค้าขาเข้า 6 ตู้ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งสำแดงชนิดสินค้าเป็นเศษและของที่ใช้ไม่ได้ที่เป็นอะลูมิเนียม (MIXED METAL SCRAP (ALUMINIUM SCRAP)) รวมปริมาณกว่า 110 ตัน
ผลการตรวจสอบพบว่าทุกตู้สินค้ามีการปะปนของแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการปนเปื้อนสารตะกั่ว เข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามบัญชี 5.2 ลำดับที่ 2.18 ของเสียอิเล็กทรอนิกส์ ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และตามอนุสัญญาบาเซลฯ ซึ่งควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตราย
อธิบดี คพ. ระบุว่า การนำเข้าสินค้าดังกล่าวโดยไม่มีการขออนุญาตจากกรมโรงงานฯ และไม่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากประเทศปลายทาง ถือเป็นการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ซึ่งสหรัฐอเมริกา ในฐานะประเทศต้นทางยังไม่ได้ให้สัตยาบันในอนุสัญญาบาเซลฯ จึงไม่มีสิทธิส่งของเสียอันตรายมายังประเทศภาคีเช่นไทย
ทั้งนี้ คพ. ในฐานะศูนย์ประสานงานของอนุสัญญาบาเซลฯ จะดำเนินการแจ้งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการอนุสัญญาบาเซลฯ และประสานกรมโรงงานฯ เพื่อแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐ ให้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งเร่งรัดให้ส่งกลับของเสียอันตรายชุดนี้กลับประเทศต้นทางโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ไทยกลายเป็นแหล่งนำเข้าของเสียผิดกฎหมาย. -512– สำนักข่าวไทย