ตร.สั่งฟ้อง “ทวี-ปารีณา” บุกรุกป่าราชบุรี กว่า 700 ไร่

ตำรวจ ปทส. สรุปสำนวนคดีเห็นควรสั่งฟ้อง “ทวี-ปารีณา” บุกรุกผืนป่าใน จ.ราชบุรี เบื้องต้นพบเข้าข่ายผิด 4 ข้อหา นัด “ปารีณา” มารับทราบข้อกล่าวหา 5 พ.ย.นี้ ส่วน “ทวี” ให้มารับทราบข้อกล่าวหา 23 พ.ย.

หิ้วปิ่นโตชมวิว360องศา

กระบี่ 1 พ.ย.63 – วราวุธ ชวนหิ้วปิ่นโตเที่ยวอุทยานแห่งชาติฯ นำร่องเปิดจุดชมวิว 360 องศา เกาะห้อง จ.กระบี่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมผู้บริหารระดับสูงฯ เปิดจุดชมวิว 360 องศา หนึ่งเดียวในอันดามัน บนยอดเขาเกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ จุดชมวิวแห่งใหม่ของจังหวัด โดยร่วมรณรงค์ผ่านโครงการทำความดีด้วยหัวใจลดภัยสิ่งแวดล้อม เชิญชวนประชาชนนักท่องเที่ยวหิ้วปิ่นโตใส่อาหาร พกกระติกน้ำส่วนตัวมารับประทานที่เกาะห้องแทนการใช้กล่องพลาสติก แก้วพลาสติก กล่องโฟมที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง รวมทั้งให้หันมาใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทุกแห่งทั่วประเทศ  รวมทั้งมีโครงการขยะคืนถิ่น ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวนำขยะที่จะทิ้งขึ้นคืนฝั่ง ลดการตกค้างของขยะเหลือทิ้งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าในท้องถิ่นอีกด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมความงามของเกาะห้อง โดยเฉพาะจุดชมวิว 360 องศา ซึ่งมีศักยภาพเป็นจุดท่องเที่ยว จุดเช็คอินแห่งใหม่ ของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบที่สวยงาม ต่างจากพื้นที่อื่น ๆ สิ่งสำคัญทุกภาคส่วนต้องช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม ไม่ทำลายขีดเขียน หรือทิ้งขยะไว้เด็ดขาด ขอให้ช่วยกันดูแล อย่าทิ้งขยะหรือถ้ามีก็ให้นำกลับไปทิ้งที่ที่กำหนดไว้ด้วย เพื่อความสะอาด ปลอดภัยต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์ป่าอีกด้วย นอกจากนี้ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบริเวณป่าในเมือง จังหวัดกระบี่ เช่นมหัศจรรย์เขาขนาบน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำโลก โครงการ “สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย” รวมทั้งตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน  โดยมอบถุงยังชีพแก่เครือข่ายภาคประชาชน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล จังหวัดกระบี่ และจังหวัดภูเก็ต จำนวน 50 ชุด และร่วมปลูกต้นจิกทะเล เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับป่าอนุรักษ์ พัฒนาเป็นเส้นทางธรรมชาติป่าชายเลนเขาขนาบน้ำ และพื้นที่ชุ่มน้ำปากแม่น้ำกระบี่ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับโลก ลำดับที่ 1,100 และเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศไทย รวมความยาว 526 เมตร เนื้อที่ 3,649 ไร่ 

น้ำพางโมเดล ต้นแบบจัดการป่ายั่งยืน

น่าน 31 ต.ค. 63 – ชูน้ำพางโมเดล จ.น่าน เป็นพื้นที่ประสบความสำเร็จแก้ปัญหาเขาหัวโล้น ชุมชนร่วมดูแลจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้และที่ดินตามแนวทาง “น้ำพางโมเดล” อ.แม่จริม จังหวัดน่าน ในวาระครบ 5 ปี โครงการน้ำพางโมเดล เพื่อแก้ไขปัญหาภูเขาหัวโล้นสู่ระบบการเกษตรเชิงนิเวศ ตำบลน้ำพาง จำนวน 10 หมู่บ้าน พื้นที่ 4,253 ไร่จำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 285 ราย โดยมีผู้นำท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร โรงเรียนบ้านน้ำพาง และองค์กรภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม ร่วมการสถาปนาน้ำพางโมเดล ที่เปลี่ยนภูเขาหัวโล้นเป็นระบบเกษตรเชิงนิเวศ เพื่อความก้าวหน้าในการปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตทางการเกษตรรูปแบบน้ำพางโมเดล ที่ไม่ทำลายสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา น้ำพางโมงเดลได้เปลี่ยนวิธีการทำเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ที่ถูกต้องเหมาะสม เป็นการทำการเกษตรทีาได้ประโยชน์ทั้งชาวบ้านมนชุมชน โดยที่ไม่ต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอย่างถาวร และยังสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในชุมชนได้อย่างมั่นคงยั่งยืน ซึ่งเป็นผลจากความร่วมแรงร่วมใจปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชาชนชาวน้ำพาง ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน จนสามารถทำให้น้ำพางโมเดลเป็นหนึ่งในโมเดลตัวอย่างสำคัญให้กับอีกหลายๆพื้นที่ได้ ทั้งนี้สิ่งสำคัญชาวบ้านในพื้นที่ สามารถสะท้อนปัญหา หรือสิ่งที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลนำไปหาวิธีขจัดปัญหาเหล่านั่นได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งนี้ได้ให้แนวทางการทำงานกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ อธิบดีกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่จะดำเนินการแก้ปัญหาให้ชาวน้ำพางอย่างรอบด้าน  โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมต่อยอดนโยบายรัฐบาล แก้ไขปัญหาที่ยังคงค้างคาในหลายพื้นที่ เช่น เรื่องที่ทำกิน และปัญหาปากท้องของประชาชน ให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ มีที่ดินทำกินอย่างถูกต้องเหมาะสม และไม่เกิดปัญหาการบุกรุกป่าให้ได้ผลสำเร็จโดยยเร็ว

อีโคสคูล โรงเรียนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

กทม. 29 ต.ค. 63 – ขยายโครงการอีโคสคูล ช่วยพัฒนาเยาวชนไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าสร้างเยาวชนเป็นพลังดูแลปกป้องทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมในท้อนถิ่นอย่างยั่งยืน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) , สำนักงานเขตพระโขนง และสำนักงานเขตบางนา ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในโครงการ “โรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” หรืออีโคสคูล โดยสนับสนุนและผลักดัน 11 โรงเรียนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ในเขตพระโขนง เขตบางนา และสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 พัฒนาเด็กไทยให้เติบโตเป็นพลเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนตลอดระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ.2563 – 2565) นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การปลูกฝังจิตสำนึก คุณธรรมและค่านิยมที่ดี ในการมีส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กและเยาวชนไทย จะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับเยาวชนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรืออีโคสคูล ในครั้งนี้กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและทีมที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมศึกษา จะทำหน้าที่ให้ความรู้และคำปรึกษากระบวนการพัฒนาโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษาฯ หรืออีโคสคูล ในพื้นที่สำนักงานเขตพระโขนง และ สำนักงานเขตบางนา จะทำหน้าที่ให้การสนับสนุนเชิงนโยบาย ประสานงานและติดตามงานในโรงเรียนต่าง ๆ โดยมี บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการ ประสานงานกับภาคีหลัก ให้การสนับสนุนและผลักดันนโยบายของบริษัทในด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน  ซึ่งโรงเรียนและชุมชนทำหน้าที่สนับสนุนและผลักดันให้เกิดการจัดการเรียนรู้ตามหลักการอีโคสคูล การจัดการแลกเปลี่ยนความรู้ รวมทั้งผลักดันและสนับสนุนให้เกิดหลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาในโรงเรียน สู่การปฏิบัติที่เกิดจริงในโรงเรียน ชุมชน และสังคมต่อไป รวมทั้งจะขยายผลไปยังภาคธุรกิจเอกชน หน่วยงาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 2551 กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินโครงการโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรืออีโคสคูล ตามแผนปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมศึกษาอาเซียน เพื่อสร้างนวัตกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนผ่านกระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียน ที่จะกระตุ้นพัฒนาการของเยาวชนให้มีใจรักท้องถิ่น พร้อมดูแลปกป้อง และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน รวมแล้วกว่า 291 โรงเรียน อีกทั้งได้ขยายเครือข่ายโครงการฯ กับหน่วยงานและภาคธุรกิจเอกชนอีกหลายแห่ง เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน

สุดยื้อพะยูนมาหยา

กระบี่ 27 ต.ค. 63 – เจ้าหน้าที่สุดยื้อชีวิตพะยูนสาว ทนพิษบาดแผลจากใบพัดเรือไม่ไหว ตายนะหว่างนำตัวรักษา หลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี พบพะยูนเพศเมีย ลอยกลางทะเลบริเวณอ่าวมาหยาหมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่  จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัย ทช. ทะเลอันดามันตอนบน เข้าพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือพะยูนตัวดังกล่าว โดยเป็นพะยูน เพศเมีย ขนาดความยาว 1.7เมตร น้ำหนัก 115 กิโลกรัม มีสภาพอ่อนแรง สาหร่ายปกคลุมบริเวณหลัง และพบแผลฉกรรจ์ มีลักษณะเป็นแผลเนื้อตาย เปื่อยยุ่ย บริเวณด้านหลังขนาดแผลยาวประมาณ 20 เซ็นติเมตร กว้าง 7 เซ็นติเมตร มีภาวะท้องอืดลอยตัวเอียงด้านขวา ไม่สามารถทรงตัวว่ายน้ำได้ตามปกติ จึงร่วมกันล้อมจับและรีบขนย้ายด้วยเรือเร็วของเอกชนมาส่งยังท่าเทียบเรืที่ศูนย์วิจัยฯ ภูเก็ต เพื่อรักษา ณศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร  โดยระหว่างการขนย้ายเจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและประคองอาการ แต่เนื่องจากสภาพพะยูนอ่อนแอมาก จึงเกิดภาวะช๊อกและเสียชีวิตลงในที่สุด ทั้งนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะผ่าชันสูตรเพื่อวินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตในวันที่ 28 ตุลาคม 2563

วราวุธ เน้นย้ำใช้กฎหมายแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

วราวุธ ฝากการบ้านคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงฯ ต้อนรับคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ผู้บรหารหน่วยงานของรัฐ ในการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 5/2563 ณ ห้องอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยร่วมพิจารณาหารือแก้ไข ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ที่กระทบต่อการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจของกระทรวงฯ ให้สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ภายหลังประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นส่วนสำคัญสำหรับการติดตามการแก้ปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนตามภารกิจที่ได้รับมบหมาย โดยเฉพาะเข้าช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ได้กำชับให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งแล้วพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เฝ้าระวังสถานการณ์ของฝุุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ที่จะกลับมาสร้างมลภาวะทางอากาศเป็นประจำทุกปี โดยกระทรวงคมนาคม สาธารณสุข มหาดไทย อุสาหกรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถกวดขันบังคับใช้กฎหมายกันอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และสุขภาพของประชาชนได้มากที่สุด พร้อมทั้งดูสถานการณ์ของปัญหาภัยแล้งและไฟป่าหมอกควัน ที่ต้องวางมาตรการและแนวทางการรับมือแล้วแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน ขณะที่แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีฝนตกในหลายพื้นที่ของไทย แต่จากรายงานพบว่าเขื่อนหลักหลายแห่ง ยังมีน้ำเข้าเขื่อนไม่มากพอ จึงต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ต่าง ๆ […]

1 100 101 102 103 104 107
...