“วราวุธ” แต่งตั้งกรรมการสอบเก้งเผือกหาย
รมว.ทส.ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเก้งเผือกสวนสัตว์สงขลาหาย 2 ตัว
รมว.ทส.ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเก้งเผือกสวนสัตว์สงขลาหาย 2 ตัว
รมว.ทส.สั่งด่วน ทช.แก้ปัญหาชายหาดพระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ ถูกกัดเซาะ
ลูกช้างพลัดหลงแม่อุทยานฯ ทับลานอาการดีขึ้น รอผลตรวจเลือดครั้งที่ 2 หากแข็งแรงจะหาแม่รับมาดูแล
ทส.เตรียมแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสวนสัตว์สงขลา เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
อธิบดี คพ.สั่งดำเนินการทางกฎหมายเฉียบขาดโรงงานหลอมพลาสติก จ.ชลบุรี หลังประชาชนร้องเรียนกลิ่นเหม็นและเสียงดัง
กทม. 4 ต.ค. 63 – ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ชี้ผลตรวจซากกระดูกสัตว์ เป็นชนิดพันธุ์เก้ง แต่ไม่ยืนยันเป็นเก้งเผือกหรือไม่ ดร.กนิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าหน่วยนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หน่วยนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา ช่วงประมาณวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ให้ตรวจสอบซากสัตว์ลักษณะเป็นโครงกระดูกเก่า ว่าเป็นเก้งหรือเก้งเผือกหรือไม่ เบื้องต้นเห็นจากรูปถ่ายเป็นซากโครงกระดูกเก่าบนกองใบไม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา ระบุว่าเป็นส่วนจัดแสดงเก้ง โดยอยากให้ตรวจสอบว่าเป็นสัตว์ชนิดใด เป็นเก้งเผือกหรือไม่ จึงแนะนำให้ส่งให้รับตัวอย่างชิ้นกระดูกที่มีเนื้อแห้งหรือชิ้นหนังติดอยู่ มาตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ เนื่องจากลักษณะภายนอกที่เหลืออยู่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด ส่วนสำคัญจำเพาะของเก้งก็หายไปแล้ว จึงต้องตรวจด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ซึ่งผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าแบบนี้ ทำได้เพียงแค่ระบุชนิดพันธุ์เท่านั้น ไม่สามารถลงลึกชี้ชัดได้ว่าเป็นเก้งเผือกหรือไม่ได้ ซึ่งผลที่ออกมาของซากที่ได้รับ ยืนยันได้ว่าเป็นชนิดพันธุ์เก้งธรรมดา ส่วนจะเป็นเก้งเผือกหรือไม่กระบวนการไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากเก้งทั่วไปกับเก้งเผือก คือชนิดพันธุ์เดียวกัน อย่างไรก็ตามหน่วยนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ยังเก็บตัวอย่าง DNA ซากที่ได้รับจากสวนสัตว์สงขลา ซึ่งหากต้องการตรวจสอบซากดังกล่าวเพิ่มเติม เทียบเคียงกับ DNA พ่อพันธุ์ ตรวจสอบความเป็นพ่อลูกก็อาจทำได้ หากมีการประสานติดต่อให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย
กทม. 4 ต.ค.63 – วราวุธ กำชับเร่งติดตามเหตุลูกเก้งเผือกสวนสัตว์สงขลาหาย 2 ตัว พร้อมขยายการตรวจสอบสวนสัตว์ทั่วประเทศป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเหตุผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ถูกยิงเสียชีวิต ขณะลงพื้นที่ติดตามสืบสวนการหายไปของลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทาน 2 ตัว ในสวนสัตว์สงขลา โดยระบุว่า ในวันนี้ได้มอบหมายให้เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวทรัพยากรธรรมชาติฯ ลงไปร่วมพิธีศพของนายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ และติดตามความคืบหน้าเหตุดังกล่าวด้วย ส่วนในด้านการสอบสวนคดีทางคดีอาญาจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ขณะที่เรื่องเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานที่หายไป จะเป็นหน้าที่ของนายชวลิต ชูขจร ประธานบอร์ดองค์การสวนสัตว์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนการตั้งข้อสังเกต ว่าการหายไปของเก้งเผือกนั้นจะเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในข้อสงสัย ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น จะมีคนลักพาไป หรือตายเอง หรือตามที่หลายคนตั้งข้อสงสัยล้วนเป็นไปได้ แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ตราบใดที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุป หรือมีข้อเท็จจริงออกมาเป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้ ยังไม่สามารถสรุปชี้ชัดว่าเกิดจากการลักลอบค้าสัตว์ป่า อยากให้รอความชัดเจนจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงติดตามสืบหาข้อมูลทั้งหมดก่อน ซึ่งจะได้ความชัดเจนที่สุด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทราบว่าเก้งเผือกตัวที่ 2 หายไปพักใหญ่แล้ว ซึ่งโอกาสที่จะตามพบโอกาสอาจน้อยลง ซึ่งชุดตรวจสอบ ต้องสอบถาม ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา ว่าเกิดเหตุอะไรอย่างไรกันแน่ […]
บึงกาฬ 3 ต.ค.63 – วราวุธ เตรียมเปิดถ้ำนาคาให้กลับมาท่องเที่ยวได้อีกครั้ง ย้ำหากมีการทำลายธรรมชาติอีก พร้อมสั่งปิดและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมอบแนวทางการป้องกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู (หินสามวาฬ) และถ้ำนาคาอุทยานแห่งชาติภูลังกา พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมกับลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ บริเวณถ้ำนาคา ที่ได้รับการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายจากฝีมือนักท่องเที่ยว โดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรธรณี ได้ดำเนินการซ่อมแซมรอยขีดเขียนด้วยสี ถ่าน และรอยเซาะร่องเป็นตัวหนังสือบนผนังถ้ำนาคา ด้วยวิธีการประยุกต์ใช้หลักการอนุรักษ์และซ่อมแซมซากดึกดำบรรพ์ โดยใช้ตัวทำละลายและตัวเชื่อมประสาน กับหินชนิดเดียวกันมาบดเป็นผงทรายเติมตัวเชื่อมประสาน นำไปอุดร่องหินที่ถูกเซาะทำลาย ตกแต่งผิวให้มีสภาพใกล้เคียงกับพื้นผิวหินเดิมมากที่สุด หลังจากนั้นปล่อยให้กระบวนการทางธรรมชาติฟื้นฟูตัวเอง โดยดำเนินการไปแล้วจำนวน 92 จุด นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เน้นพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อรักษาความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอม หรือเกิดเหตุทำลายทรัพยากรธรรมชาติแบบที่เคยเป็นมาอีก ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำมาตรการเร่งด่วนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการท่องเที่ยว เช่น จัดเจ้าหน้าที่ประจำเส้นทาง การติดตั้งกล้อง NCAPS การติดตั้งป้ายสื่อความหมาย และการจัดทำแนวกั้นระหว่างเส้นทางเดินและผนังถ้ำ รวมทั้งให้ประชาชนในพื้นที่เป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน นอกจากนี้ยังวางกฎระเบียบการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในการรักษาสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของถ้ำนาคา โดยเน้นย้ำหากเกิดเหตุการณ์ทำลายถ้ำนาคาอีกครั้งจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดโดยเตรียมแผนการเปิดการท่องเที่ยวถ้ำนาคา ให้ประชาชนได้เข้าไปเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติอีกครั้ง ที่จะเน้นการท่องเที่ยวควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งหากถ้ำนาคาได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะสั่งปิดถ้ำนาคาทันที เพื่อรักษาธรรมชาติของถ้ำนาคาให้คงความสมบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดบึงกาฬต่อไป
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุ “วราวุธ” รมว.ทส. สั่งติดตามและตรวจสอบเหตุ ผอ.องค์การสวนสัตว์ถูกยิงเสียชีวิตในสวนสัตว์สงขลา ระบุเป็น 1 ใน 4 เจ้าหน้าที่ถูกคำสั่งโยกย้ายจากเหตุลูกเก้งเผือกตาย
องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ เตรียมเปิดสวนสัตว์ในสังกัดทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ต.ค.63 ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว
กทม. 25 ก.ย.63 – องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ร่วมกับ JICA จับมือสานต่อยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้อาเซียน องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO โดยศูนย์วิชาการนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับ Japan International Cooperation Agency หรือ JICA แถลงผลความสำเร็จโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกลุ่มอาเซียน ระยะที่ 3 เตรียมมุ่งสู่การเป็น ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้อาเซียน หรือ Knowledge Hub ที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชนทั่วภูมิภาค พร้อมสร้างเครือข่ายวิชาการระหว่างประเทศผ่าน 6 หลักสูตรระดับสากลโดยมี 10 ชาติอาเซียน ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมแล้ว 562 ราย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) หรือ TGO กล่าวว่าโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกลุ่มอาเซียน ได้รับการสนับสนุนจาก JICA ในการพัฒนาหลักสูตร โดยมีเจ้าหน้าที่ JICA และผู้เชี่ยวชาญได้มาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรที่จะถ่ายทอดให้กับคนในกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้เราได้รับความรู้เข้าใจถึงหลักการเรื่องก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด รวมถึงวิธีการบริหารจัดการต่าง ๆ ในการลดภาวะก๊าซเรือนกระจก ซึ่งในในระยะที่ 3 TGO จะต่อยอดโครงการทำให้เป็นหลักสูตรด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงยังต้องมีความร่วมมือจากหน่วยงานระหว่างประเทศเข้ามาบูรณาการร่วมด้วยทำให้เกิดความยั่งยืนในการบริหารจัดการของศูนย์CITC ต่อไปในอนาคต
กทม. 22 ก.ย. 63 – อบก. รณรงค์ช่วยลดโลกร้อนผ่านการซื้อสินค้าที่มีฉลากคาร์บอน องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ฉลากคาร์บอนแก่ประชาชนผู้บริโภค โดยร่วมกับเทสโก้ โลตัส ซึ่งจะร่วมกันประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ฉลากคาร์บอน แก่ประชาชนผู้บริโภค ให้ประชาชนผู้บริโภครู้จักฉลากคาร์บอน และเห็นความสำคัญของการเลือกซื้อสินค้าที่ติดฉลากคาร์บอน โดย อบก. ได้พัฒนาฉลากคาร์บอน 2 รูปแบบ ได้แก่ ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ CFP และฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ CFR หรือ ฉลากลดโลกร้อน ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในอาเซียนที่มีระบบการรับรองสอดคล้องตามหลักสากล สำหรับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เป็นฉลากที่ระบุตัวเลขค่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยตลอดวัฏจักรชีวิต และการติดฉลากบนตัวสินค้าถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ผลิต เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าที่ใส่ใจเรื่องโลกร้อน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองกับ อบก. ทั้งสิ้น 4,237 ผลิตภัณฑ์ จาก 618 บริษัท รวมทั้งหากผู้บริโภคซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากลดโลกร้อน หรือฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เท่ากับช่วยลดโลกร้อนไปด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองกับ อบก. 674 ผลิตภัณฑ์ จาก 90 บริษัท สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ […]