ค่าฝุ่น PM2.5 กทม.ขยับสูงขึ้น
ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ กทม. ขยับสูงขึ้นจากเมื่อวาน เฉลี่ย 34-73 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง ถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ กทม. ขยับสูงขึ้นจากเมื่อวาน เฉลี่ย 34-73 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง ถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
จนท.กรมอุทยานฯ เคลื่อนย้ายลูกช้างป่าพลัดหลงโขลงห้วยขาแข้งไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง รอลุ้นเลือกแม่ตัวไหน
พลเอกประวิตร มอบนโยบายกระทรวงทรัพย์ฯ ย้ำดูแลรักษาป่าไม้ แหล่งน้ำ สิ่งแวดล้อม สร้างงาน อาชีพ เสริมรายได้ชุมชน เพื่อเศรษฐกิจเข็มแข็งยั่งยืน
ดารานักแสดงชื่อดัง “โตโน่” ซึ่งจัดทำโครงการ “หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย” นำเงินที่ได้รับบริจาคไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลแก่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สานแนวทางรักษาความสมบูรณ์และอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากให้คงอยู่คู่ท้องทะเลไทย
พบซากดึกดำบรรพ์ปลาปอดชนิดใหม่ของโลก “เฟอร์กาโนเซอราโตดัส แอนเคมเป” ในพื้นที่ ตำบลดินจี่ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ อายุกว่า 150 ล้านปี
เพชรบุรี 6 พ.ย. 63 – คณะทูตานุทูตรัฐภาคีสมาชิกกรรมการมรดกโลก 8 ประเทศ ลงพื้นที่ศึกษาดูงานแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน หวังช่วยดันเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของโลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หัวหน้าคณะผู้เเทนไทยในคณะกรรมการมรดกโลก พร้อมด้วยนายประเสริฐ ศิรินภาพร รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. ต้อนรับคณะทูตานุทูตรัฐภาคีสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรมศึกษาดูงานแหล่งมรดกทางธรรมชาติพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ซึ่งสำนักงานนโยบายเเละเเผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น่วยประสานงานกลางอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยมีคณะทูตานุทูตรัฐภาคีสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก 8 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย กัวเตมาลา โอมานบาห์เรน สเปน ไนจีเรีย รัสเซีย และบราซิล ร่วมศึกษากิจกรรม สัมผัสสภาพพื้นที่จริง รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานรอบด้าน และความพยายามของไทยที่ผ่านมาในการปกป้องคุ้มครองคุณค่าความโดดเด่นของพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน เพื่อให้เห็นว่ากลุ่มป่าแก่งกระจาน มีศักยภาพและความพร้อมเป็นแหล่งมรดกโลก นอกจากนี้ยังได้เห็นสภาพพื้นที่ความเป็นอยู่ของชุมชนในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน รวมทั้งมาตรการในแต่ละด้านที่ใช้บูรณาการงานด้านปกป้องรักษาคุณค่าความโดดเด่นความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ปรับยุทธวิธีการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ที่ลดการล่าในพื้นที่ลงได้อย่างมาก มีการจัดอบรมให้ความรู้และสร้างความตระหนักของคนในชุมชนโดยรอบ และเยาวชน ถึงคุณค่าความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่ รวมทั้งได้ดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนที่อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ที่สำคัญสามารถลดการบุกรุกทำลายป่า และร่วมกันอนุรักษ์พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานให้คงความสมบูรณ์ เป็นแหล่งพันธุกรรมความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ควรค่าแก่การยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งใหม่ต่อไปในอนาคต สำหรับกลุ่มป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีของไทย รวมพื้นที่กว่า 1,821,687 ไร่ ซึ่งเป็นกลุ่มป่าที่มีระบบนิเวศทั้งระบบนิเวศบก แหล่งน้ำ เป็นแหล่งพันธุกรรมของพืชและสัตว์ป่าที่สำคัญของภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งยังมีความสำคัญคุณค่าด้านความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ ไทยจึงพยายามเสนอกลุ่มป่าแก่งกระจานขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ ภายใต้เกณฑ์ข้อ 10 ซึ่งระบุไว้ในเอกสารเนวทางการอนุวัตตามอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยตั้งเป้าพยายามผลักดัน และดำเนินการตามคำแนะนะของคณะกรรมการมรดกโลก พัฒนาให้กลุ่มป่าแก่งกระจานมีความพร้อมเหมาะสม ตั้งเป้าให้การลงพื้นที่ครั้งนี้ช่วยให้คณะกรรมการมรดกโลกได้เห็นข้อเท็จจริงเห็นความพร้อมของกลุ่มป่าแก่งกระจาน และเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาให้ความเห็นชอบขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกธรรมชาติแห่งใหม่ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในครั้งต่อไป สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการยืนยันให้คณะกรรมการมรดกโลกได้เห็นข้อเท็จจริง ประกอบการนำส่งเอกสารการขอขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นแหล่งมรดกโลก ที่ไทยได้นำส่งไปแล้วเมื่อต้นปี 2563 ทั้งนี้การพิจารณาแห่งมรดกโลกภายใต้อนุสัญญา จะมีขึ้นอีกครั้งในการประชุม รัฐภาคีสมาชิกภายใต้อนุสัญญามรดกโลกครั้งที่ 44 ในกลางปี พ.ศ. 2564 โดยจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ประเทศไทยได้รับคำชื่นชม และเห็นภาพรวมของกลุ่มป่าแก่งกระจานจากกิจกรรมตลอดทั้ง 3 วัน .-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 6 พ.ย. – ทช. จับมือสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า พัฒนาระบบลาดตระเวนทางทะเล นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมเข้ามาใช้บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุ้มครองสัตว์ทะเลหายาก นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ทช. ลงนามร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทยเพื่อพัฒนาโครงการการลาดตระเวนเชิงคุณภาพทางทะเล (SMART Marine Patrol) เพื่อนำเทคโนโลยีและระบบปฏิบัติการใหม่ๆ มาพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่กำหนดให้ใช้การพัฒนางานด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence : AI) ข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานถูกต้องแม่นยำและทันสมัย ที่ผ่านมา ทส. นำอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ใช้ตรวจสภาพป่าไม้ซึ่งให้สามารถทราบถึงสถานการณ์ได้ตามเวลาจริง จึงเห็นควรให้ทช. พัฒนางานด้านลาดตระเวนเชิงคุณภาพทางทะเลด้วย นายโสภณ กล่าวต่อว่า ระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพคือ ระบบการลาดตระเวนพื้นที่ที่จัดการฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีการจัดเก็บ สืบค้น วิเคราะห์ และรายงานผลการลาดตระเวนงานด้านการป้องกันและปราบปราม และการลักลอบกระทำผิดต่อทรัพยากรผ่านโปรแกรม SMART ซึ่งสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทยมีความรู้ ประสบการณ์ในด้านการสำรวจและฝึกอบรมด้านการลาดตระเวนและบริหารจัดการสัตว์ป่าและสัตว์ทะเล […]
พังงา 5 พ.ย.- เจ้าหน้าที่ประเมินตำแหน่งหลุมรังไข่เต่ามะเฟืองรังที่ 2 ชายหาดบางขวัญ หวั่นน้ำทะเลท่วม เร่งย้ายไปเพาะฟักใกล้รังแรก ผลการขุดพบไข่ดี 121 ฟอง ไข่ลม 30 ฟอง ความคืบหน้ากรณีพบเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่จำนวน 2 หลุมรัง บริเวณชายหาดบางขวัญ หมู่ 7 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ช่วงเดือนตุลาคม 2563 ซึ่งถือว่าเป็นรังแรกของฤดูกาลวางไข่ 2563-64 (ตุลาคม-มีนาคมของทุกปี) ล่าสุด (5 พ.ย.) เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 โดยส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 9 , 10 และ 11 ร่วมกันขุดย้ายไข่เต่ามะเฟือง รังที่ 2 ซึ่งห่างจากหลุมแรกประมาณ 100 เมตร เพื่อนำไปฟักตัวในคอกกั้นของรังที่ 1 ตามคำแนะนำของนายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน เนื่องจากตำแหน่งที่วางไข่อยู่ในแนวระดับน้ำทะเลท่วมถึง อาจส่งผลกระทบต่อการฟักของไข่เต่ามะเฟือง การขุดใช้เวลาประมาณ […]
อธิบดี คพ. เผยศูนย์การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจัดทำแผนปฏิบัติการลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกินมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูแล้งซึ่งจะมีไฟป่าและการเผาในที่โล่งแจ้งมาก พร้อมเตรียมยกระดับการป้องกันและแก้ปัญหาให้เข้มข้นในปี 2564
ทช. เผยผลชันสูตรซากโลมาเกยตื้น อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีเลือดคั่งที่ส่วนหัวและอก คาดตายจากการกระแทกรุนแรง แล้วถูกแล่เนื้อภายหลัง
ชัยภูมิ 5 พ.ย.63 – มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ และ สสน. เปิดพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน จ.ชัยภูมิ แหล่งเรียนรู้การจัดการน้ำและบริหารพื้นที่เกษตรวิถีใหม่ ให้ชุมชนมีน้ำใช้เพาะปลูกได้ทั้งปี และพัฒนาพื้นที่รับน้ำหลากในฤดูฝนแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน เกษตรกรบ้านโนนแต้ ต.หนองขาม อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูกทางการเกษตรใหม่ จากพื้นที่ที่เคยปลูกทำนาทั้งหมด เปลี่ยนเป็นผสมผสานหยิบป่ามาไว้ในที่นา เป็นวิถีเกษตรใหม่ที่สร้างผลผลิตสร้างรายได้เกิดขึ้นตลอดทั้งปี นายสายยันต์ เหล็กพรม เกษตรกรบ้านโนนแต้ บอกว่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(องค์การมหาชน) ได้น้อมน้ำแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มาเป็นหลักคิดประยุกต์ใช้ในพื้นที่ ทำให้ตนเองเกิดความคิดนำแนวพระราชดำริ ลองมาปรับใช้กับพื้นที่เกษตร แบ่งส่วนของพื้นที่ทำกินใหม่ลดที่ทำนาเหลือ 4 ไร่ สร้างสระน้ำหัวใจของการเพาะปลูก 1 ไร่ พื้นที่เกษตรผสมผสาน 1.5 ไร่ พื้นที่ปศุสัตว์ 0.5 ไร่ และป่าน้อย 1 ไร่ ซึ่งป่าน้อยนี้ใช้การเพาะปลูกเลียนแบบธรรมชาติ ลงไม้ยืนยันไม้ใหญ่พืชท้องถิ่น เช่นยางนา ประดู่ พะยูงและไม้สัก ผสมกับพืชป่า เช่น หวาย ไผ่ และผักหวานป่า ไม่กี่ปีพืชเจริญเติบโตไม้ใหญ่โตให้ร่มเงา เริ่มมีผลผลิตคล้ายป่า สามารถเก็บเห็ดป่าที่จะขึ้นเฉพาะพื้นที่สมบูรณ์ และมียางนามนพื้นที่ ขายราคากิโลกรัมละ 200-300 บาท ส่วนผักหวานป่าเก็บได้ทุกปี กิโลกรัมละ 200 บาท เน้นกินอะไรก็ปลูกอย่างนั้น แถบไม่ต้องซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหารในแต่ละวัน ลดรายจ่ายของครอบครัวได้จำนวนมาก ที่สำคัญครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมด้วยการเก็บพืชป่าในที่ของตัวเองกว่า 20,000 – 30,000 บาทต่อปี โดยพื้นที่นี้ตลอด 10 ปี ที่เริ่มปลูกเปลี่ยนเป็นหนึ่งหัวนาป่าไร่น้อย ไม่เคยประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอีกเลย ด้วยมีบ่อน้ำเตรียมไว้สำหรับเก็บน้ำในฤดูฝน น้ำเต็มบ่อสามารถนำไว้ใช้ได้ในช่วงแล้งของทุกปี รวมทั้งการเตรียมบ่อน้ำบาดาลไว้เพิ่มเติม ซึ่งได้จากการเรียนรู้แนะนำจากทั้ง 2 หน่วยงาน จึงมีน้ำใช้อย่างพอเพียงเป็นตัวอย่างให้กับเพื่อนบ้านเริ่มปรับพื้นที่สู่เกษตรวิถีใหม่มากขึ้น ซึ่งมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(องค์การมหาชน) ได้ชูให้เป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน บ้านโนนแต้ ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ กล่าวว่า น้ำเป็นหัวใจสำคัญของทุกๆด้าน มีน้ำการเกษตรก็เจริญงอกงาม มีน้ำชุมชนก็ชุ่มชื้นไม่แล้งแค้น ซึ่งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน บ้านโนนแต้จ.ชัยภูมิ เป็นอีกพื้นที่สามารถเป็นตัวอย่าง เป็นพี่เลี้ยงให้ชุมชนแห่งอื่นนำกระบวนการจัดการน้ำไปประบใช้อย่างเหมาะสม ทั้งด้านเกษตรวิถีใหม่ การบริหารจัดการด้วยแก้มลิง การสร้างเครือข่ายน้ำชุมชน ได้พื้นที่เก็บกักน้ำกว่า 13 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังช่วยฟื้นลำน้ำที่เคยตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ชาวบ้านได้ประโยชน์ในระยะยาว ปัญหาที่เคยมีจากน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก แต่กลับขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งก็หายไปชุมชนไม่ต้องหลีกหนีจากพื้นที่ไปหางานทำในที่ไกลบ้าน มีอู่ข้าวอู่น้ำเป็นทรัพยากรที่ชุมชนนำมาใช้ประโยชน์เกิดการพัฒนาตัวเอง และสร้างมูลค่าเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน สำหรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน บ้านโนนแต้ จ.ชัยภูมิ มีจุดเรียนรู้ด้านการจัดการ 4 แห่ง แบ่งเป็นจุดที่1.หนึ่งหัวนาหนึ่งป่าน้อย 2.เชื่อมน้ำชี สร้างแก้มลิง เปลี่ยนชีวิต 3.สระน้ำเพื่อชีวิต สำรองน้ำ พึ่งพาตนเองและ 4. ติดตามสถานการณ์น้ำ มองใหญ่ทำเล็ก โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้ด้านการจัดการน้ำและแนวทางตามแนวพระราชดำริ ได้ตลอดทั้งปี และขยายโครงการสู่ชุมชนอื่นทั่วประเทศ
สำนักข่าวไทย 4 พ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” ย้ำหน่วยงานรัฐร่วมมือทุกภาคส่วน คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อประชาชนอย่างยั่งยืน วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.30 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และได้รับรองร่างรายงานสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย พ.ศ. 2562 พร้อมผลักดันการออกกฎหมายลำดับรอง ตามมาตรา 21 จำนวน 2 ฉบับ และการออกกฎหมายลำดับรองตามมาตรา 18 และกำหนดมาตรการคุ้มครองตามมาตรา 23 จำนวน 4 ฉบับ ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้ติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานโครงการนำร่องการใช้ขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมจำนวน 7 ขาแท่นไปวางเป็นปะการังเทียม เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการประกาศใช้กฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องตามมติคณะกรรมการฯ ที่ผ่านมา พลเอกประวิตร กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อร่างรายงานสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย พ.ศ. 2562 […]