เกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนา

ฟิลิปปินส์จะขยายโครงการระดมฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ประชาชนให้กว้างมากยิ่งขึ้นในสัปดาห์นี้ ด้วยการเพิ่มคนทำงานอีกประมาณ 35 ล้านคนให้อยู่ในโครงการด้วย โดยเป็นผู้ที่ทำงานนอกบ้าน เช่น เจ้าหน้าที่ด้านการขนส่งสาธารณะ เพื่อควบคุมการระบาดและกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

ผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่นเข้าแถวยาวเหยียดหน้าศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขนาดใหญ่ในนครโอซากา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังทางการญี่ปุ่นขยายสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 2 จังหวัดใกล้เคียง

รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในประเทศสูงสุดในรอบเกือบสัปดาห์ ขณะที่ทางการเร่งหาที่มาของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วขึ้นและพบการระบาดครั้งแรกในอินเดีย

รัฐบาลไต้หวันกล่าววันนี้ว่า ไต้หวันจะขยายมาตรการเข้มคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไปอีก 2 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งส่งผลให้โรงเรียนต่าง ๆ ยังต้องปิดต่อไปจนกว่าจะถึงช่วงหยุดพักฤดูร้อน โดยทางรัฐบาลกล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ยังคงไม่นิ่ง

ลอนดอน 7 มิ.ย. – อดีตประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศ 100 คน เรียกร้องให้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือจี 7 (G7) จ่ายค่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั่วโลก เพื่อช่วยหยุดยั้งการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดที่ทำให้เกิดภัยคุกคามไปทั่ว กลุ่มอดีตผู้นำระดับโลกได้ระบุในจดหมายที่ส่งถึงกลุ่มจี 7 ว่า ความร่วมมือระดับโลกล้มเหลวเมื่อปีก่อน แต่ในปีนี้อาจก้าวไปสู่ยุคใหม่ได้ การสนับสนุนจากกลุ่มจี 7 และจี 20 เพื่อทำให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ใช่การกุศล แต่เป็นผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ของแต่ละประเทศมากกว่า ทั้งยังระบุว่า กลุ่มจี 7 และผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในวันศุกร์นี้ ควรรับประกันว่าจะจ่ายเงินสูงสุดปีละ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 93.6 ล้านล้านบาท) เป็นเวลาสองปีเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ในบรรดาผู้นำที่ลงนามในจดหมายดังกล่าว ได้แก่ นายกอร์ดอน บราวน์ และนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบัน […]