คมนาคมลุยบิ๊กโปรเจกต์ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน

กรุงเทพฯ  28 ส.ค. – ทล.-รฟท.จรดปลายปากกาใช้พื้นที่เขตทางหลวง 29 จุด 19 เส้นทาง ลุยบิ๊กโปรเจกต์ “ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน” เร่งเคลียร์พื้นที่ปักตอม่อ พร้อมตั้งคณะทำงานแก้ปัญหา-อุปสรรค ด้านการรถไฟฯ คาดส่งมอบพื้นที่ให้เอกชน ก.พ.-มี.ค.ปีหน้า ล่าช้าเป้าเดิม 2 เดือน หลังติดเบิกจ่าย-เวนคืนที่ดิน มั่นใจเดินหน้าได้ตามแผนต่อเนื่อง


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูน ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการใช้พื้นที่เขตทางหลวงในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ว่า สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นแนวเส้นทางรถไฟระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร (กม.) โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และมีพื้นที่บางส่วนที่ต้องเวนคืน รวมถึงพื้นที่ของหน่วยงานราชการอื่น ๆ อาทิ กรมทางหลวง (ทล.) จึงต้องมีการบันทึกข้อตกลงระหว่าง รฟท. และกรมทางหลวง (ทล.) เพื่ออนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้าง จากนั้นการรถไฟฯ จะเดินหน้าขอใช้พื้นที่ส่วนราชการอื่น ๆ เช่น กองทัพเรือ กรมป่าไม้ กรมชลประทาน เป็นต้น

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการชี้นำว่าประเทศไทยจะก้าวไปอย่างไร ประกอบการกับการพัฒนาประเทศชาติจะต้องมีการลงทุนในพื้นที่สำคัญ เช่น การสนับสนุนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งหนึ่งในโครงการสำคัญ คือ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างทางบก ทางราง และทางอากาศแบบไร้รอยต่อ และยังเป็นการขยายความเจริญไปยังพื้นที่อีอีซี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน 


ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. กล่าวว่า กรมทางหลวงพร้อมสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม สร้างรากฐานทางสังคมและเศรษฐกิจ หลังจากลงนามข้อตกลงวันนี้จะแต่งตั้งคณะทำงานตามกฎหมาย เพื่อร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลง โดยคณะทำงานทั้ง 2 คณะจะประชุมร่วมกันอย่างน้อยทุก 2 เดือน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะเดียวกัน ภายหลังการใช้พื้นที่กรมทางหลวงเสร็จ การรถไฟฯ จะต้องปรับปรุง ซ่อมแซม แก้ไข พื้นผิวการจราจร ระบบระบายน้ำต่าง ๆ ให้เรียบร้อย จากนั้นจึงส่งมอบทางคืนให้กับกรมทางหลวง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความร่วมมือของ 2 หน่วยงานครั้งนี้จะเป็นส่วนช่วยให้โครงการฯ ประสบผลสำเร็จต่อไป

สำหรับเขตทางหลวงที่โครงการดังกล่าวผ่านนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณจุดตัด รวมทั้งสิ้น 29 จุด 19 เส้นทาง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง แบ่งเป็น แนวเส้นทางโครงการปัจจุบัน จำนวน 16 เส้นทาง และโครงการที่จะเกิดในอนาคต จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.ทางเลี่ยงเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา 2.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) M91 วงแหวนกรุงเทพ รอบที่ 3 และ 3.มอเตอร์เวย์ M61 สายชลบุรี–นครราชสีมา (แหลมฉบัง–ปราจีนบุรี) ทั้งนี้ ในจำนวน 29 จุดนั้น ได้เคลียร์จบแล้ว 15 จุด ขณะที่อีก 14 จุด อยู่ระหว่างการพิจารณาตำแหน่งที่ตอม่อของโครงการว่า จะอยู่ในบริเวณใด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบหรือปัญหากับโครงการฯ อย่างแน่นอน

ขณะที่นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า การก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การรถไฟฯ จำเป็นต้องขอใช้พื้นที่ในเขตทางหลวงสำหรับการดำเนินโครงการฯ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงบางส่วน ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะดำเนินการในพื้นที่ของกรมทางหลวงอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงอย่างเคร่งครัดและส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรผู้ใช้ทางและคนเดินเท้าให้น้อยที่สุด เพื่อสร้างประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง


นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟฯ กล่าวว่า ตามกรอบระยะเวลาการดำเนินการนั้น การรถไฟฯ จะต้องส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนมกราคม 2564 แต่การเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการเวนคืนที่ดินที่ล่าช้า จึงคาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ภายในกุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 หรือล่าช้าออกไปประมาณ 2 เดือน แต่ยังคงอยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด คือ ต้องส่งมอบพื้นที่ภายในตุลาคม 2564 ในส่วนของผู้บุกรุกตามแนวเส้นทางของโครงการที่มีกว่า 1,300 กว่ารายนั้น ในจำนวนดังกล่าวมีผลกระทบกับโครงการประมาณกว่า 560 ราย โดยอยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ผู้บุกรุกออกนอกพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะเคลียร์จบภายในกุมภาพันธ์ 2564 ขณะเดียวกันด้านของงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการรื้อย้ายสาธารณูปโภคนั้น ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2564 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมธิการฯ ทั้งนี้ ตามแผนคาดว่าจะเสร็จภายในปลายปีนี้

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เป็นโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะทาง 220 กม. มีแนวเส้นทางเชื่อมโยงท่าอากาศยานสำคัญของประเทศ โดยเริ่มต้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง วิ่งตรงเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ผ่านสถานีมักกะสัน เลี้ยวเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าต่อไปตามแนวทางรถไฟสายตะวันออก ผ่านแม่น้ำบางปะกง เข้าสู่สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และเข้าสู่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นสถานีสุดท้าย ระยะทางรวม 220 กม. โดยขบวนรถสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม.ต่อชั่วโมง ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]