ค่าไฟฟ้างวดใหม่แตะ 5 บาท ดีเซลสัปดาห์นี้คง 35 บาท

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.-ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่ กกพ.จัดรับฟังความเห็น 3 ราคาเป็นครั้งแรก ต้นทุนกระฉูดส่งผลค่าไฟฟ้าเฉลี่ยนิวไฮเป็น 5 บาท/หน่วย ตามต้นทุน บาทอ่อนและ LNG ราคาพุ่ง ด้านกระทรวงพลังงานเตรียมแนวทางช่วยผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน ราคาไม่ขยับขึ้น ด้าน กฟผ.แจงแบกรับค่าเอฟทีต่อไม่ไหว หลังช่วย 3 รอบ หนี้แตะแสนล้านบาท ส่วนดีเซลคงราคา 35 บาท สัปดาห์นี้ หนี้กองทุนน้ำมันเกิน 1.1 แสนล้านบาท


คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมจัดรับฟังความเห็นประชาชนเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติหรือเอฟทีงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.65) โดยนับเป็นครั้งแรกของประเทศที่เปิดรับฟังให้ประชาชนร่วมคิดเห็นทางเลือกค่าไฟฟ้าเอฟที 3 ราคา จากเดิมที่จะมีการสรุปค่าเอฟทีเพียงราคาเดียว โดยทางเลือก 3 ราคานี้ แนวคิดหลักคือ คำนวณจากการประมาณการเฉพาะต้นทุนเชื้อเพลิงในงวดใหม่ และการใช้หนี้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะรัฐวิสาหกิจที่ได้ดำเนินตามนโยบายรัฐบาลในการช่วยรับภาระค่าเอฟที เพื่อลดผลประทบค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนตั้งแต่งวด ก.ย.-ธ.ค.64 จนถึงงวดปัจจุบัน (พ.ค.-ส.ค.65) เป็นวงเงินรวม 1 แสนล้านบาทแล้ว โดย กฟผ.แจ้งว่า มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าร่วมรับภาระค่าเอฟทีในงวดใหม่นี้ได้อีกแล้ว และขอความเห็นจาก กกพ. ว่าจะทยอยชำระหนี้อย่างไร

กกพ.จึงวางแผนจะทยอยคืนหนี้ เป็นเวลา 1-2 ปี ดังนั้น อัตราค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.65)ที่จะรับฟังความเห็นจากประชาชน จึงมี 3 ราคา ประกอบไปด้วย


1.การขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง ค่าเอฟทีเรียกเก็บจะอยู่ที่ 93.43 สตางค์/หน่วย ขึ้นจากงวดที่แล้ว (พ.ค.-ส.ค.65) 68.66 สตางค์/หน่วย

2.การขึ้นตามต้นทุนแท้จริง และมีการทยอยคืนเงินแก่ กฟผ. วงเงินเบื้องต้น 83,010 ล้านบาท เป็นเวลา 1 ปี (ทยอยปรับในค่าเอฟที 3 งวด งวดละ 45.70 สตางค์/หน่วย) ทำให้ค่าเอฟทีงวดนี้เรียกเก็บ 139.13 สตางค์/หน่วย เพิ่มขึ้นจากงวดที่แล้ว (พ.ค.-ส.ค.65) 114.36 สตางค์/หน่วย

3.การขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง และทยอยคืนเงินแก่ กฟผ. วงเงินเบื้องต้น 83,010 ล้านบาท เป็นเวลา 2 ปี (ทยอยปรับในค่าเอฟที 6 งวด งวดละ 22.85 สตางค์/หน่วย) ทำให้ค่าเอฟทีงวดนี้เรียกเก็บ 116.28 สตางค์/หน่วย เพิ่มขึ้นจากงวดที่แล้ว (พ.ค.-ส.ค.65) 91.51 สตางค์/หน่วย


อย่างไรก็ตาม นโยบายของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน จะดูแลกลุ่มประชาชนให้เดือดร้อนน้อยที่สุด โดยระบุก่อนหน้านี้ว่า กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300-500 หน่วย/เดือน ค่าไฟฟ้าเอฟทีอาจจะไม่ปรับเพิ่มขึ้น โดย กกพ.มีการคำนวณเบื้องต้น กลุ่มนี้มีประมาณร้อยละ 25 ของผู้ใช้ไฟฟ้าโดยรวม หากคิดในอัตราที่ไม่ขึ้นค่าเอฟที สำหรับงวดที่ 3/65 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดที่ 2/65 ก็จะใช้วงเงินจากภาครัฐมาอุดหนุนราว 8 พันล้านบาท แต่ หากรัฐบาลจะมีนโยบายให้ค่าเอฟทีกลุ่มนี้ เทียบเท่ากับเอฟที งวด 1/65 วงเงินอุดหนุนก็จะมากกว่านี้

ทั้งนี้ ค่าไฟฟ้าเอฟที งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 มีการเรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์/หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์/หน่วย และเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้ากับค่าไฟฟ้าฐาน 3.76 บาท/หน่วย จะทำให้อัตราค่าไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 4 บาท/หน่วย (เพิ่มจากงวดก่อน (ม.ค.-เม.ย.65) ที่อัตราค่าไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 3.78 บาท/หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 5.82%) ดังนั้น ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.65) เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานแล้ว คาดว่าจะสร้างสถิติสูงสุดที่ประมาณ 5 บาท/หน่วย

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ต้นทุนค่าเอฟทีที่แพงขึ้น มาทั้งจากปัจจัยเชื้อเพลิงราคาสูง และบาทอ่อนค่า โดยเชื้อเพลิงราคาสูงก็มาจากสถานการณ์ทั้งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยไม่เพียงพอ เกิดจากแหล่งเอราวัณผลิตได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้ต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) นำเข้าสูง จากเดิมสัดส่วนร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 35 ในขณะที่สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็มีผลทำให้แอลเอ็นจีราคาพุ่งอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ต้นทุนเชื้อเพลิงให้สูงขึ้น

ที่ผ่านมา กฟผ.ร่วมรับภาระค่าไฟฟ้ากับประชาชนตามแนวทางบริหารค่าไฟฟ้า ตั้งแต่งวด 3/64 (ก.ย.-ธ.ค.64) และร่วมรับภาระเรื่อยมาในงวด 1/65 (ม.ค.-เม.ย.) และงวด 2/65 (พ.ค.-ส.ค.) เป็นเงินรวมกับอัตราดอกเบี้ยที่กู้เสริมสภาพคล่อง แล้วราว 1 แสนล้านบาท กฟผ.จึงได้แจ้งต่อ กกพ.ไม่สามารถร่วมรับภาระในเอฟที งวด3/65 ได้อีก ส่วนการชำระคืนเงินแก่ กฟผ. ก็แล้วแต่ กกพ.พิจารณาว่าจะกำหนดช่วงเวลาคืน 1 ปี หรือ 2 ปี โดยที่ผ่านมา ทางกระทรวงพลังงาน และ กกพ. ต่างร่วมพิจารณากันว่า การให้ กฟผ.มาร่วมรับภาระก่อนและจ่ายคืนเงินให้ กฟผ.ภายหลัง จะเป็นการร่วมลดภาระค่าเอฟทีแก่ประชาชน ซึ่งเกิดในช่วงต้นทุนเชื้อเพลิงเริ่มแพงขึ้นในช่วงราคาพลังงานฟื้นตัวจากโควิด-19 ในงวด 3/64 แล้ว หลังจากนั้นคาดว่าเมื่อต้นทุนเชื้อเพลิงถูกลงแล้วจะมาทยอยชำระคืนแก่ กฟผ.ภายหลัง แต่เมื่อสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนเกิดขึ้น ราคาก็ไม่เป็นไปตามคาดการณ์แต่อย่างใด

“วงเงินช่วยเหลือเอฟที 1 แสนล้านบาท ก็มีผลต่อสภาพคล่องของ กฟผ. เช่น ทำให้ที่ผ่านมาไม่สามารถนำเข้าแอลเอ็นจีตามแผนงานได้ และมีผลกระทบด้านอื่นๆ แต่ยืนยันไม่กระทบต่อการลงทุนโรงไฟฟ้าและสายส่งเพื่อความมั่นคงพลังงานของประเทศ รวมทั้งไม่กระทบต่อเงินเดือนของพนักงานแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมา กฟผ.กู้เสริมสภาพคล่องไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มเครดิตไลน์ 3 หมื่นล้านบาท และจะกู้เพิ่มอีก 8.5 หมื่นล้านบาท โดย กฟผ.ก็อยากร่วมรับภาระค่าเอฟทีแก่ประชาชน แต่ก็คงไม่สามารถทำได้มากกว่านี้ ซึ่งต้องเข้าใจว่าเป็นสถานการณ์โลก และแนวทางของรัฐบาล คือ หากประชาชนร่วมประหยัดไฟฟ้ามากที่สุด ก็จะทำให้พึ่งพาแอลเอ็นจีนำเข้าน้อยที่สุด เป็นผลดีต่อค่าไฟฟ้าเอฟที” นายบุญญนิตย์ กล่าว

ด้านคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ซึ่งมี รมว.พลังงาน เป็นประธาน วันนี้ (11 ก.ค.) มีมติไม่เปลี่ยนแปลงราคาดีเซลรายสัปดาห์ คงอยู่ที่ประมาณ 35 บาท/ลิตร และยังคงขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน คงค่าการตลาดดีเซลไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร ในขณะที่การอุดหนุนทั้งดีเซลและก๊าซหุงต้ม ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 10 ก.ค.65 มีฐานะสุทธิติดลบ 110,917 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 72,534 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 38,383 ล้านบาท ซึ่งกองทุนอุดหนุนราคาดีเซลอยู่ที่ 3.06 บาท/ลิตร จากราคาจริงควรอยู่ที่ 38 บาท/ลิตร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียงนายกฯ ไม่กดดัน โฟกัสคลิปเสียงต้องแปลชัดเจน

ชลบุรี 25 มิ.ย.-เลขาฯ ป.ป.ช. เผย ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียง นายกฯ ไม่กดดัน ยังอยู่ขั้นตอนรับมาตรวจสอบ โฟกัสที่คลิปเสียง ต้องแปลข้อความชัดเจน เพราะเป็นสองภาษา เบื้องต้นไม่ต้องเชิญ “แพทองธาร” มาสอบ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวภายหลังเปิดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. ที่จ.ชลบุรี ถึงคดีคลิปเสียง นส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุนเซน ว่า เรื่องนี้ มีการร้องมาที่ ป.ป.ช. ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการร้องในคดีสำคัญ สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องสรุปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการรับทราบ ซึ่งคดีสำคัญเมื่อ ที่ประชุมรับทราบแล้วก็จะกำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น ระยะเวลา เมื่อเสร็จต้องกลับมาพิจารณาในที่ประชุม จึงไม่ใช่ 10 วันส่งศาลตามที่เป็นข่าว ยังอยู่ในขั้นตอนรับมาตรวจสอบ ปกติ ถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ก็รับมา เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จึงมีมติต้องมารายงานให้กรรมการ ป.ป.ช.ทราบเป็นระยะ กรณีนี้ ร้องฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถ้าประเด็นรายละเอียดต้องสอบน้อย ก็ใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้ามีรายละเอียดมากก็กำหนด 6 เดือน […]

ชาวกัมพูชากว่า 500 คน แห่กลับประเทศด่านช่องจอม จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 25 มิ.ย.-ชาวกัมพูชากว่า 500 คน ส่วนมากเป็นแรงงานและผู้ป่วย แห่กลับประเทศผ่านด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังฝั่งกัมพูชาเปิดด่าน เวลา 10.00 น. โดยใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เช้าวันนี้ทางฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยดำเนินการตามมาตรการและคำสั่งจากกองทัพภาคที่2 อย่างเข้มงวด เพื่อดำเนินการตามมนุษยธรรมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ผู้คนผ่านเข้าออกและขนส่งสินค้า แต่ก็มีปัญาหาจากฝั่งกัมพูชา ในวันนี้กลับปิดด่าน โดยทางฝั่งกัมพูชาอ้างต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าอุดรมีชัยเท่านั้น ทำให้มีชาวกัมพูชาจำนวนมากมารอคิวเดินทางกลับ ส่วนมากจะเป็นแรงงานและผู้ป่วยมาหาหมอแล้วเดินทางกลับ ล่าสุด กัมพูชาเปิดประตูแล้วเมื่อเวลา 10.00 น. มีชาวกัมพูชากว่า 500 คน เดินทางกลับ ส่วนคนไทยกลับเข้ามามีน้อย ขณะเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ตรวจคุมเข้ม โดยไม่ให้ชาวกัมพูชาผ่านเข้ามาและคนไทยไม่ให้ผ่านเข้ากัมพูชาเด็ดขาด รวมไปถึงรถขนส่งสินค้า แต่มีชาวกัมพูชาบางคนไม่เข้าใจ พยายามจะเข้ามาโดยอ้างเอกสารถูกต้อง เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ได้มาทำความเข้าใจและให้เดินทางกลับ โดยทางกัมพูชาได้ปิดประตูด่านแล้วเวลา 10.30 น. ใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย